หญิงชาวออสเตรเลียวัย 34 ปี ถูกสุนัขสายพันธุ์ “พิตบูล” ที่เธอเลี้ยงเอาไว้ กัดจนแขนขวาท่อนล่างขาด ที่บ้านของเธอในเมืองทาวน์สวิลล์ รัฐควีนส์แลนด์ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่า เมื่อถึงจุดเกิดเหตุ พบผู้หญิงคนดังกล่าว นอนจมกองเลือดอยู่หน้าบ้านในสภาพที่ยังมีชีวิต แต่บาดแผลของเธอรุนแรงมาก คาดว่าเธอน่าจะวิ่งหนีสุนัขออกมา เคราะห์ดีที่เธอสามารถปิดประตูกันสุนัขเอาไว้ได้ทัน
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เผยว่า สุนัขตัวก่อเหตุนั้นอยู่ในอาการที่ดุร้ายมาก และพยายามจะออกมาด้านนอกให้ได้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงปรึกษากับเจ้าหน้าที่ควบคุมสัตว์ และตัดสินใจร่วมกันที่จะ “ยิง” มันจนตายเพื่อความปลอดภัยของทุก ๆ คน ก่อนที่จะรีบนำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง
โดยอาการของเจ้าของพิตบลูนั้นยังคงทรงตัว นอกจากนี้ ตำรวจยังพบสุนัขตัวเล็กอีก 1 ตัวที่บาดเจ็บในบ้านหลังนี้ และเจ้าหน้าที่ได้ส่งต่อไปให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลแล้ว
- เจ้าของสุดท้อ ติดกล้องวงจรปิด หวังจับโจรขโมยไก่ เปิดดูอึ้ง มันไม่ใช่คน!
- คลิปไวรัล! ‘อวี๋ฮุย’ ชิมแปนซีแสนรู้ ใช้ตะเกียบคีบเส้นบะหมี่โชว์นักท่องเที่ยว
- ดราม่าหนัก! สวนสัตว์จีน ถูกหาว่า ขุนเสือโคร่งให้อ้วน เพื่อมาแข่ง หมูเด้ง
เพื่อนบ้านของหญิงผู้บาดเจ็บได้มีการเผย ว่าคนในละแวกนี้จะรู้กันว่าสุนัขตัวที่ก่อเหตุนั้นมีความก้าวร้าว โดยเธอได้โชว์บาดแผลที่เคยถูกสุนัขตัวดังกล่าวกัดให้กับตำรวจดูอีกด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน เพิ่งเกิดเหตุสุนัข 3 ตัว รุมกัดผู้หญิงคนหนึ่งในนครเมลเบิร์นจนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งสุนัข 2 ใน 3 ตัวนี้คือสุนัขสายพันธุ์ “บูลด๊อก” ส่วนอีกหนึ่งตัวคือ “พิตบูล”
ทางด้านผู้เชี่ยวชาญด้านการฝึกสุนัขหลายคนได้อธิบายว่า มีหลายปัจจัยที่กระตุ้นให้ สุนัขพิตบูล มีความก้าวร้าว อาทิ การผสมสายพันธุ์ที่ไม่ถูกต้อง, ปัญหาสุขภาพสุนัข, ขาดการเข้าสังคม, การถูกทารุณ, การหวงอาณาเขต เนื่องจากไม่ได้รับการฝึกที่เหมาะสมซึ่งเป็นปัญหาที่พบในเกือบทุกสายพันธุ์ ไม่ใช่แค่ พิตบูล
เพราะเมื่อสุนัขรู้สึกว่าอาณาเขตของมันถูกคุกคามจึงต้องแสดงออกเพื่อปกป้องอาณาเขต และอีกหนึ่งปัญหาคือ “การถูกท้าทาย” ปกติแล้วสุนัขมีความคิดแบบฝูงที่เป็นลำดับชั้น การท้าทายพวกมันผ่านการ “สบตา” โดยเฉพาะกับคนที่พวกมันไม่คุ้นเคยอาจไปกระตุ้นให้พวกมันแสดงความก้าวร้าวออกมาได้
ข้อมูลจาก TNN