
ในฤดูใบไม้ร่วงปี 1965 ชาวนาในมณฑลเฮยหลงเจียง ประเทศจีน ขุดสร้างคอกหมูในพื้นที่ใกล้บ้าน แต่กลับพบชิ้นส่วนโลหะบางอย่าง เขารู้สึกแปลกมากจึงค่อยๆ ขุดด้วยมือต่อไป กระทั่งวัตถุโลหะดังกล่าวปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา พบว่ามีลักษณะคล้ายมังกร
เขาตัดสินใจเอารูปปั้นมังกรนี้กลับบ้านเงียบๆ ใช้ผ้าขนหนูเช็ดให้สะอาดแล้วแขวนไว้ที่หน้าต่าง ก่อนทานข้าวและหลับไปหลังจากทำงานหนักมาทั้งวัน อย่างไรก็ดี กลับถูกปลุกให้ตื่นขึ้นกลางดึกด้วยเสียงแปลกๆ ในห้อง หลังจากตรวจดูรอบๆ บ้านแล้ว ก็พบว่ามีเสียงดังมาจากรูปปั้นมังกรที่ขุดเจอตอนบ่าย เขารวบรวมความกล้าที่จะเข้าไปใกล้และฟังเสียงที่ดังขึ้นเรื่อยๆ ราวกับเสียงร้องคร่ำครวญในป่า
แม้ว่าตัวเขาเองจะโด่งดังไปทั่วทั้งหมู่บ้านในฐานะผู้กล้าหาญ แต่ในเวลานี้กลับรู้สึกเย็นยะเยือกที่หลังคอและมีเหงื่อซึมออกมา หลังจากที่เผลอคิดกับตัวเองว่า “โอ้พระเจ้า เป็นไปได้ไหมที่เทพมังกรปรากฏตัวขึ้นตอนนี้ เป็นเพราะว่าผมพามันกลับบ้าน ท่านโกรธเหรอ?” แต่ที่น่าแปลกคือเวลาประมาณตี 5 ของวันรุ่งขึ้น รูปปั้นมังกรก็กลับไปเป็นปกติ ไม่ส่งเสียงแปลกๆ อีกต่อไป
อย่างไรก็ดี สถานการณ์ชวนขนหัวลุกนี้ยังคงเกิดขึ้นในคืนต่อๆ มา ทำให้ทั้งเขาและภรรยาสับสนและหวาดกลัวอย่างมาก จนในที่สุดเขาก็ตัดสินใจมอบมังกรให้กับผู้เชี่ยวชาญจากสำนักโบราณวัตถุวัฒนธรรมเมืองฮาร์บิน เพื่อให้พวกเขาศึกษาเรียนรู้
ต่อมา ผู้เชี่ยวชาญอธิบายถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า วัตถุรูปร่างโดยรวมคล้ายมังกร แต่ส่วนหัวมีความคล้ายสิงโตเล็กน้อย และมีปากเหมือนเหยี่ยว บนช่วงลำตัวมีรูเล็กๆ เรียงกันอย่างประณีต ซึ่งมากพอให้ลมพัดผ่านรูเล็กๆ เหล่านั้นมาได้ จนเป็นที่มาของเสียงปริศนายามค่ำคืน ส่วนประเด็นที่เสียงดังกล่าวหายไปตอนฟ้าสว่าง เพราะกลางคืนเงียบจึงได้ยินเสียงได้ชัดเจน แตกต่างจากตอนกลางวันที่มักมีเสียงอื่นๆ แทรกอยู่เสมอ
ปัจจุบัน รูปปั้นขิ้นนี้ได้กลายเป็นสิ่งประดิษฐ์ทางวัฒนธรรมชั้นหนึ่งของประเทศจีน และรวมอยู่ในพิพิธภัณฑ์มรดกทางวัฒนธรรมในเฮยหลงเจียง เพื่อการอนุรักษ์