คู่รักชาวเวียดนามพากันไปพบแพทย์ ด้วยอาหารเบื่ออาหารและน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว ก่อนถูกตรวจพบว่าเป็น “มะเร็งตับ”

Dr.Hà Hải Nam รองหัวหน้าแผนกศัลยกรรมช่องท้อง 1 โรงพยาบาลเค เปิดเผยว่า ทั้งคู่ไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์ ไม่สูบบุหรี่ แต่เมื่อตรวจกลับพบว่าเป็น “โรคมะเร็งตับ”

ตามรายงานยังระบุด้วยว่า ทั้งคู่ไม่มีประวัติเป็นโรคตับอักเสบ มีสุขภาพแข็งแรงมากตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวัยผู้ใหญ่ ไม่เคยป่วยด้วยซ้ำ แม้จะติดเชื้อโควิด-19 แต่ก็ไม่แสดงอาการชัดเจน และไม่มีบันทึกผลลองโควิดด้วย

อย่างไรก็ดี เมื่อประมาณ 2 เดือนที่แล้ว ฝ่ายสามีรู้สึกเหนื่อยง่าย และภรรยาน้ำหนักลดลงแม้ว่าการทานอาหารของเธอจะไม่เปลี่ยนไปเลยแปลงก็ตาม อีกทั้งก่อนไปโรงพยาบาล 2 วัน ยังมีอาการปวดท้องด้านขวามาก จึงตัดสินใจไปหาหมอ และผลอัลตราซาวนด์พบเนื้องอกในตับขนาด 6 ซม.

ทั้งนี้ เมื่อสังเกตใบหน้าของฝ่ายภรรยาก็พบว่ามีความผิดปกติอยู่บ้าง เช่น ปากคล้ำ ตาขาว ผิวแห้ง ซึ่งผลตรวจออกมาว่าเธอมีส่เนื้องอกในตับ ซึ่งขนาดใหญ่กว่าสามีด้วยซ้ำ และเนื้องอกได้ไปกดทับท่อน้ำดี ทำให้ท่อน้ำดีขยาย

จากการสนทนา แพทย์พบว่าทั้งคู่มีนิสัยการกินแบบประหยัดซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างมาก พวกเขาทำงานขายผลไม้ ในวันที่ลูกค้าน้อย ผลไม้ที่ทิ้งไว้เป็นเวลานานอาจขึ้นราเสียหายได้ และน่าเสียดายหากทิ้งไป ทั้งคู่จึงมักจะหันส่วนที่เสียหายออก และเก็บส่วนที่เหลือแช่ไว้ในตู้เย็น เพื่อค่อยๆ นำออกมากิน ทั้งประหยัดและไม่เสียผลไม้ไปเปล่าๆ

นอกจากนี้ เวลาที่ออกไปขายผลไม้ ทั้งสองมักจะนั่งแทะเมล็ดทานตะวันและเมล็ดฟักทอง บางครั้งก็ทิ้งไว้ในกล่องแล้วนำมาเปิดกินวันแล้ววันเล่า

คุณหมอ กล่าวว่า การกระทำข้างต้นอาจเป็นสาเหตุของอาการป่วยของคู่รักได้ เพราะอะฟลาทอกซิน (aflatoxin) ซี่งเป็นสารเคมีมีพิษและก่อมะเร็ง ส่วนใหญ่ผลิตจากผลไม้เน่าเสีย และเมล็ดเชื้อรา แทรกซึมเข้าไปในเซลล์ตับแต่ละเซลล์ ทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อเซลล์ตับ

เมื่ออะฟลาทอกซินถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายจะรวมกับเอนไซม์ในตับ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ตับและเกิดเนื้องอก อาหารขึ้นรามักจะมีสารพิษประเภทนี้ เช่น ข้าวขึ้นรา ถั่วลิสงขึ้นรา เมล็ดทานตะวันขึ้นรา ขนมปังขึ้นรา เมล็ดขมหมัก เห็ดแช่น้ำนานเกินไป แม้แต่ฝาขวดเครื่องเทศที่เก็บไว้เป็นเวลานานก็ขึ้นราได้ เขียงไม้ไม่ได้ถูกล้างหรือปล่อยให้แห้ง และอุปกรณ์ทานอาหารที่ทำจากไม้ (ตะเกียบ ช้อน ชาม ถ้วย ฯลฯ) ก็ยังขึ้นราเช่นกัน

โดยแพทย์ระบุว่ากลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงสูงที่ต้องตรวจคัดกรองมะเร็งตับ ได้แก่ ผู้ที่เป็นโรคตับ ผู้ที่มีครอบครัวมีประวัติเป็นมะเร็งตับ ผู้ที่อ้วน เบาหวาน และผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากๆ ผู้ที่มีนิสัยชอบทานอาหารที่เสี่ยงเชื้อรา หรือรับประทานเนื้อสดที่มีพยาธิใบไม้ ผู้ที่ใช้ยาและสารเคมีในทางที่ผิดที่ทำให้ตับถูกทำลาย และผู้ที่ใช้ยากระตุ้น

• นศ.ปล่อยโฮ อายุแค่ 20 เป็นมะเร็งปากมดลูก หมอชี้สาเหตุ “กระดาษชำระ” ที่เลือกใช้
• สาวร่ำไห้เล่า เอะใจนอนเยอะผิดปกติ ไปหาหมอบอก “แค่วัยรุ่นขี้เกียจ” ปรากฎเป็นมะเร็ง