ผบ.ทร.เยี่ยมกำลังพลบาดเจ็บ เหตุเรือหลวงสุโขทัยล่ม พบ 1 นาย ลอยไกล 4 ไมล์ เผยนาทีเกิดเหตุ เร่งค้นหากำลังพลที่สูญหาอีก 31 นาย

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 19 ธ.ค.65 พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผบ.ทร. ได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์จากสัตหีบ จ.ชลบุรี ไปยังท่าเรือน้ำลึกบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อดูความคืบหน้าในการค้นหาลูกเรือรบหลวงสุโขทัยที่สูญหายในเหตุการณ์เรืออับปาง

พล.ร.ท.วิชัย ล้อชูสกุล ผู้บัญชาการกองทัพเรือภาพที่ 1 กล่าวว่า เมื่อวานกระแสลมน่าจะถึง 34 น๊อต คลื่นสูง 4-5 เมตร ซึ่งหลังจากเรือเอียงความปลอดภัยของลูกเรือทั้งหมด 106 นาย ได้สวมเสื้อชูชีพ ส่วนการเข้าไปช่วยเหลือจะลำบากมาก เพราะเรือที่เข้าไปช่วยเป็นเรือกระบุรี ไม่ใช่เป็นเรือกู้ซ่อม แต่เป็นเรือรบเหมือนเรือหลวงสุโขทัย ค่อนข้างอันตราย แต่ต้องเข้าไปช่วยคนก่อน ซึ่งขณะนี้สามารถช่วยเหลือมาได้แล้ว 75 นาย คนล่าสุดในวันนี้ พบห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 4 ไมล์ จึงได้สั่งการให้ชุดประดาน้ำของทหารเรือ ขึ้นไปกับเฮลิคอปเตอร์ เพื่อค้นหาผู้ที่ลอยคออยู่ในทะเลอ่าวไทย

ต่อมา พล.ร.อ.เชิงชาย พร้อมคณะได้เดินทางไปที่ ร.พ.บางสะพาน เพื่อเยี่ยมกำลังพล โดยมี นพ.เชิญชาย ชยวัฑโฒ ผอ.โรงพยาบาลบางสะพาน ได้นำเยี่ยมผู้บาดเจ็บจำนวน 15 นาย บาดเจ็บสาหัส 4 นาย โดย ผบ.ทร.ได้สั่งการให้นำผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 4 นาย ส่งต่อทางเฮลิคอปเตอร์ไปที่โรงพยาบาลพระปกเกล้า และโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ สัตหีบ หลังจากนั้นได้เดินทางไปที่ศูนย์พักคอยเพื่อเยี่ยมกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และเข้าพักอยู่ภายในศูนย์จำนวน 60 นาย เพื่อให้กำลังใจ

พล.ร.อ.เชิงชาย เปิดเผยว่า ได้มีโอกาสมาเยี่ยมเรือรบหลวงสุโขทัยที่อับปาง มีกำลังพล 106 นาย ซึ่งได้ช่วยเหลือมาทั้งสิ้น 75 นาย ยังมีที่สูญหายในทะเลอีก 31 นาย กองทัพเรือได้ส่งเรือรบ อากาศยานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและกองทัพอากาศส่งเฮลิคอปเตอร์และเครื่องบินร่วมออกค้นหา โดยกองเรือภาคที่ 1 ได้ส่งเรือยกพลขนาดใหญ่พร้อมด้วยเรือเล็กออกมาร่วมค้นหา

นอกจากนี้ยังมีเรือภูมิพลและเรือกระบุรีเข้าไปช่วย ในขั้นต้นเมื่อเช้าที่ผ่านมา ได้พบทหารที่ประสบภัย 1 นาย ใส่เสื้อชูชีพสามารถช่วยเหลือได้อย่างปลอดภัย และพยายามค้นหาให้การช่วยเหลือกำลังพลให้มากที่สุด พร้อมทั้งมีการเยียวยา ซึ่งกองทัพเรือได้มีการจัดตั้งศูนย์ให้ความช่วยเหลือ ที่กองเรือยุทธการ เพื่อประสานงานกับครอบครัวของผู้ที่ยังสูญหาย

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คงต้องดูว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ในเบื้องต้นจากการสอบถามผู้ได้รับบาดเจ็บทราบว่ามีน้ำเข้ามาในตัวเรือปริมาณมาก ทางเรือก็พยายามที่จะปั๊มออกตามขั้นตอนในการปฏิบัติ แต่ด้วยสภาพคลื่นลมแรงทำให้น้ำเข้ามามาก ระบบที่สำคัญเช่นระบบเครื่องไฟฟ้าหรือเครื่องยนต์และเครื่องจักร ได้สูญเสียไปเรื่อยๆ จนกระทั่งสุดท้ายไม่สามารถที่จะสูบน้ำออกจากเรือได้ทัน จึงไม่สามารถที่จะรักษาเรือไว้ได้

ส่วนการกู้เรือที่จม ต้องดูว่ามีสภาพอย่างไร และต้องดูในเรื่องของน้ำมัน ซึ่งที่อยู่ในเรืออาจจะเกิดเป็นสภาวะแวดล้อม ต้องปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญในการนำเรือขึ้นมา ทั้งอุปกรณ์เครื่องมือที่ใช้ ซึ่งมีเทคนิคการใช้บอลลูน สูบน้ำออกจากเรือก่อน และใช้บอลลูนดันให้ลอยขึ้นมาได้อย่างไร

สำหรับที่มีข่าวว่ามีผู้เสียชีวิตนั้น จากการค้นหาร่วมกันขนาดนี้ยังไม่พบผู้เสียชีวิต ซึ่งผู้สูญหาย 31 คนนั้น ยังคงเป็นผู้สูญหายซึ่งได้ระดมกำลังค้นหาอยู่ในขณะนี้ ในระดับแรกทราบว่าเรือรบหลวงสุโขทัยและเรือสระบุรี ทำการลาดตระเวน จึงขออนุญาตจอดเรือที่บางสะพาน ซึ่งเรือสระบุรีมาถึงก่อนเรือสุโขทัยอยู่ตามมาซึ่งห่างกัน 19 ไมล์ และมาทราบว่าเรือได้มีน้ำเข้าและเรือเอียงเรือกระบุรี จึงกลับออกไปช่วยแต่ก็ไม่สามารถที่จะพยุงเรือไว้ได้เนื่องจากไม่ใช่เรือกู้ภัย