ตราด เกษตรกรบ้านทับทิมสยาม 01 ตำบลด่านชุมพล อำเภอบ่อไร่ ปรับพื้นที่ทำกินเตรียมปลูกทุเรียน ต้องผงะ ขุดเจอ วัตถุระเบิด อาวุธสงคราม เจ้าหน้าที่ EOD รีบเก็บกู้เร่งทำลาย
3 พฤษภาคม 2565 – หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด (ฉก.นย.ตราด) รายงานว่า ชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ 1 (บ่อไร่/ชค.ทพ.นย.1) ร่วมกับ เจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมกองทัพเรือ (นปท.ทร./นปท.2) พร้อมด้วย นายธนะสิทธิ์ โชติธนะสุพัฒน์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 บ้านทับทิมสยาม 01
ร่วมกันตรวจสอบ และเก็บกู้วัตถุระเบิด บริเวณเนินเขา พื้นที่ทำกินของ นายวิโรจน์ มุขเลิศ หมู่ที่ 7 บ้านทับทิมสยาม 01 ตำบลด่านชุมพล อำเภอบ่อไร่ จังหวัดตราด ซึ่งกำลังปรับพื้นที่ทำโขดดิน เพื่อปลูกทุเรียน ก่อนขุดพบวัตถุระเบิดและอาวุธสงคราม จำนวนมาก
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ปรากฏว่า วัตถุระเบิดเป็นลูกระเบิด RPG 2 จำนวน 16 นัด ลูกกระสุน ปรส. ขนาด 82 มิลลิเมตร จำนวน 43 นัด ทุ่นระเบิดชนิด POM – Z (ฝักข้าวโพด) จำนวน 1 ลูก และทุ่นระเบิด ชนิด PP-MI-SR จำนวน 1 ลูก
จึงได้ทำการเคลื่อนย้ายและคัดแยกออกจากหลุมนำมารวมไว้ พร้อมการทำเครื่องหมายเพื่อป้องกันอันตราย จากนั้นเจ้าหน้าที่ EOD ได้ปรึกษากับ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 เพื่อพิจารณาหาพื้นที่ที่เหมาะสมในการทำลายวัตถุระเบิดดังกล่าว
พร้อมทั้งให้ช่วยประชาสัมพันธ์ให้กับประชาขนในพื้นที่ได้รับทราบว่าจะมีการทำลายวัตถุระเบิดในพื้นที่ เพื่อถึงป้องกันการเข้าใจผิดเมื่อได้ยินเสียงระเบิดเกิดขึ้น ตลอดการปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
สำหรับวัตถุระเบิดและอาวุธสงครามที่ขุดพบมีสภาพผุขึ้นสนิมและเก่า เป็นสิ่งที่หลงเหลือมาจากสมัยสงครามเขมรแดง ซึ่งในพื้นที่ จ.ตราด เกษตรกรที่ทำกินอยู่บริเวณชายเขาบรรทัด มักจะพบ วัตถุระเบิด
โดยเป็นบริเวณที่ทหารเขมรแดง เคยถอยล่นลงมาลักลอบอาศัยอยู่ เพราะถูกทหารเวียดนาม และทหารรัฐบาลกัมพูชาโจมตีรุกไล่ลงมาจากเทือกเขาบรรทัด ในขณะที่ถูกทหารไทยผลักดันไม่ให้รุกล้ำอธิปไตยเข้ามาในไทยเช่นกัน
ซึ่งทหารเขมรแดงบางส่วน อาจนำอาวุธประจำกาย/หน่วยฝั่งดินไว้ แล้วหลบหนีการสู้รบ โดยเข้าไปปะปนกับประชาชนชาวกัมพูชาที่อพยพหนีภัยสงครามข้ามเทือกเขาบรรทัดเข้ามาในจังหวัดตราด ตลอดแนวชายแดน
ทั้งนี้ ระเบิดที่ตรวจพบแม้จะมีสภาพเก่าไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ แต่ยังสามารถเกิดการระเบิดได้ ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ EOD จึงใช้วิธีทำลายทิ้งในพื้นที่นั้นๆ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุร้ายเกิดขึ้นระหว่างการเคลื่อนย้าย