รองผู้ว่าฯ วรวิทย์ ย้ำห้ามเกิดไฟในพื้นที่ป่า ชี้ ชีวมณฑล ป่าเชียงดาวมีความสำคัญ สัตว์ใกล้สูญพันธุ์มีมาก ช่วงเดือนมีนาคมต่อเนื่องเดือนเมษายน ช่วยกันป้องกัน เฝ้าระวัง
วันที่ 10 มี.ค. 65 บริเวณป่าชุมชนหมู่ที่ 8 บ้านแม่ก๊ะ ต.เชียงดาว อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมคณะ ลงพื้นที่ให้กำลังใจ ฝ่ายปกครองท้องที่ ท้องถิ่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชาชนจิตอาสาฯ ในการรวมพลังจัดทำแนวกันไฟรอบป่าชุมชน
นายวรวิทย์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีการประชุมร่วมกับนายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อปท. หน่วยงานป่าไม้ ปภ.สาขาเชียงดาว ทีมงานของศูนย์ปฏิบัติการป้องกันไฟป่าและหมอกควัน อำเภอเชียงดาว จ.เชียงใหม่ โดย ศูนย์บัญชาการแก้ไขสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันฯ ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ หารือร่วมกันถึงแนวทางป้องกันไฟป่าที่อาจจะเกิดขึ้นช่วงเดือนมีนาคม ถือว่าเป็นระยะเวลาที่สำคัญ
ประการแรกขอบคุณพี่น้องประชาชนทุกคน ที่ช่วยกันงดการเผาในพื้นที่ป่า ทั้งป่าอนุรักษ์ ป่าชุมชน โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอเชียงดาว พื้นที่ที่ได้รับการประกาศเป็นพื้นที่ชีวมณฑล โดยยูเนสโก ซึ่งเป็น 1 ใน 5 แห่งของโลก ที่มีสัตว์ป่าสงวน กวางผา เรียงผา ถือเป็นสัตว์ป่าหายาก
ได้มีการพูดคุยผู้นำ ผ่านไปยังพี่น้องประชาชน ให้งดการเผาในเขตป่า เพื่ออนุรักษ์สัตว์ป่าเหล่านี้ไว้ ตลอดจนขอความร่วมมือเฝ้าระวังพื้นที่ไม่ให้มีการเผาในพื้นที่ป่า ขอความร่วมมือในการบริหารจัดการเชื้อเพลิง รวมถึงการสร้างความเข้าใจการประสานการทำงานระหว่างท้องที่ ท้องถิ่น
ส่วนการทำแนวกันไฟ ซึ่งสภาพป่าโดยรวมบริเวณป่าชุมชนแห่งนี้มีความสมบูรณ์ เนื่องจากพี่น้องประชาชนทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการปกป้องป่าชุมชน พื้นที่อำเภอเชียงดาวมีพื้นที่ป่าอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า 3 แสนกว่าไร่ เขตอุทยานแห่งชาติ 3 แห่ง 3 แสนกว่าไร่ รวมๆ มีพื้นที่ที่ต้องให้ความสำคัญราว 6 แสนกว่าไร่ ที่ต้องร่วมกันขับเคลื่อนป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาไฟป่าในพื้นที่อำเภอเชียงดาว
ที่ผ่านมาสถิติการจุด Hot Spot หรือจุดเผาไหม้ในพื้นที่เชียงดาวมีสถิติลดลงเป็นอย่างมากราว 70-80% ซึ่งต้องช่วยกันขับเคลื่อนต่อในอีก 2 เดือนนี้ ก็ต้องขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้ช่วยกันในการป้องกัน เฝ้าระวัง
นายวรวิทย์ กล่าวอีกว่า นโยบายอันเป็นข้อสังการที่สำคัญก็คือ การงดเผาโดยเด็ดขาดในพื้นที่เขตป่าสงวน เขตป่าอนุรักษ์ หากเกิดไฟแล้วยากที่จะควบคุม โดยเฉพาะช่วงเดือนมีนาคมต่อเนื่องเดือนเมษายน ส่วนการบริหารจัดการพื้นที่ที่เป็นที่ทำกิน ยังคงอะลุ่มอล่วยให้พี่น้องประชาชนสามารถบริหารจัดการเชื้อเพลิงได้ แต่ต้องได้รับอนุญาตจากนายอำเภอ ซึ่งกลุ่มนี้ต้องหารือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่นั้นๆ ก่อน โดยให้ทำข้อมูลผ่านกำนัน ผู้ใหญ่บ้านฯ เพื่อให้ทางอำเภอพิจารณาอนุญาต
ทั้งนี้ก่อนลงพื้นที่ป่าชุมชนหมู่ที่ 8 ต.แม่ก๊ะ ของคณะ รอง ผวจ.เชียงใหม่ ได้ประชุมร่วมระหว่างหน่วยงานภายใต้ศูนย์บัญชาการฯ จ.เชียงใหม่ และศูนย์ปฏิบัติการฯ อ.เชียงดาว ภายใต้การอำนวยการของ นายสงัด บูรณภัทรโชติ นายอำเภอเชียงดาว ซึ่งมอบหมายให้ นายรัชพล แก้วจิตคงทอง ปลัดอำเภอฝ่ายงานป้องกัน อ.เชียงดาว รายงานสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันในพื้นที่อำเภอเชียงดาว
โดยสรุปว่า ปี 2565 อำเภอเชียงใหม่กำหนดเป้าหมายให้ลดความเสียหายที่เกิดขึ้นจาก ปี 2562-2564 จำนวน 25 % จุดความร้อน Hot Sport ไม่เกิน 1,515 จุด โดยใช้กลไกการดำเนินการที่นอกเหนือจากการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการฯ อำเภอ ซึ่งเป็นศูนย์กลางบัญชาการสถานการณ์
โดยมีนายอำเภอเป็น Single Command ยังมีหน่วยงานความมั่นคงในการจัดชุดลาดตระเวนกดดันในพื้นที่เสี่ยงและสนับสนุนการดับไฟป่า พร้อมกันนี้ได้มีการจัดชุดเฉพาะกิจอำเภอเพื่อเข้าเผชิญเหตุเมื่อได้รับการร้องขอ รวมถึงการบริหารจัดการข้อมูลการบริหารจัดการเชื้อเพลิงในพื้นที่
ที่ผ่านมา ศูนย์ปฏิบัติการฯ อำเภอเชียงดาวย จัดตั้งศูนย์รับแจ้งเหตุไฟป่าอำเภอเชียงดาว เบอร์โทร 093 070 6922 โทรแจ้งเหตุไฟป่าได้ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมจัดตั้งศูนย์รับแจ้งเหตุไฟป่าทุก อปท.
ทั้งนี้ วันที่ 1 ม.ค. 65 ถึงวันที่ 8 มี.ค. 65 พบจุดความร้อนในพื้นที่ อ.เชียงดาว รวม 134 จุด เกิดมากที่สุดในพื้นที่ ต.ปิงโค้ง เกิด 65 จุด ทั้งนี้เกิดน้อยกว่าปี 2564 ซึ่งเกิดขึ้นรวม 444 จุด ลดลง 70%” ปลัดอำเภอฝ่ายงานป้องกันอำเภอเชียงดาว รายงาน