สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟา) ยืนกรานว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ นีซ ที่มีผู้ถือหุ้นรายเดียวกันอย่าง เซอร์ จิม แร็ตคลิฟฟ์ จะไม่สามารถลงเล่นถ้วยสโมสรยุโรปรายการเดียวกันได้ ตามกฎที่มีการระบุเอาไว้ก่อนหน้านี้

ก่อนหน้านี้ เป็นที่ตั้งข้อสังเกตว่า แมนฯ ยูไนเต็ด เสี่ยงจะถูกแบนออกจากการเข้าร่วมเล่นยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ซีซันหน้า เมื่อมี แร็ตคลิฟฟ์ เข้ามายังสโมสร เนื่องจากเจ้าตัวก็เป็นเจ้าของทีม นีซ ที่มีโอกาสสูงจะเป็นหนึ่งในตัวแทนของลีกเอิง ฝรั่งเศส ไปลุยศึกชปล.ซีซันหน้าเช่นเดียวกัน

ภายใต้กฎที่ว่าด้วยเจ้าของสโมสรของยูฟา ทางเดียวที่ แมนฯ ยูไนเต็ด กับ นีซ จะสามารถอยู่ในการแข่งขันถ้วยยุโรปพร้อมกันได้ คือทีมหนึ่งจะเข้าเล่นในยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ส่วนอีกทีมไปเล่นถ้วยรองๆลงไป แต่หากทั้ง แมนฯ ยูฯ และ นีซ สามารถทำอันดับในลีก คว้าโควตายูฟา แชมเปียนส์ ลีก ได้พร้อมกันแล้ว จะมีเพียง 1 ทีมที่ “อันดับดีกว่า” ได้ไปเล่นถ้วยบิ๊กเอียร์ ขณะที่อีกทีมจะถูกแบนออกจากถ้วยนี้ไปโดยปริยาย

ส่วนกรณีที่ แมนฯ ยูฯ กับ นีซ จบอันดับเดียวกันพอดี เกณฑ์ที่จะถูกนำมาคิดคือเรื่องของค่าสัมประสิทธิ์ของแต่ละลีก ในแรงกิ้งของยูฟา ซึ่งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คือเบอร์ 1 ในตอนนี้ เท่ากับ แมนฯ ยูฯ จะได้ไปเล่นยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ส่วน นีซ โดนแบน

อันที่จริง แร็ตคลิฟฟ์ เคยยืนยันเองว่า แฟนบอลไม่จำเป็นต้องกังวลว่า แมนฯ ยูฯ จะถูกเตะตัดหลุดออกจากยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ฤดูกาลหน้า เมื่อตนได้เจรจาเบื้องต้นกับยูฟาแล้ว

“เราได้คุยกับยูฟาแล้ว มันไม่มีเหตุผลใดทั้งนั้นที่การถือหุ้น นีซ จะเป็นการขัดขวาง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพื่อเข้าร่วมเล่นยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ผมยินดีจะทำให้เรื่องนี้กระจ่างชัด”

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด แหล่งข่าวของยูฟาระบุว่า “เป็นเรื่องจริงที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ นีซ จะไม่สามารถลงเล่นในถ้วยเดียวกันได้”

“พวกเขาสามารถลงเล่นพร้อมกันได้ ก็เฉพาะในถ้วยที่ต่างกันเท่านั้น เพื่อที่จะไม่ให้มีการเอื้อเฟื้อกันระหว่างสองสโมสรในหนึ่งรายการอีกต่อไป”