ประธานาธิบดีศรีลังกา ยื่นลาออกทาง “อีเมล” หลังหนีไปสิงคโปร์
วันที่ 14 ก.ค. ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า ประธานาธิบดีศรีลังกา โกตาบายา ราชปักษา ยื่นลาออกจากตำแหน่งในจดหมายที่ส่งทางอีเมลถึงนายมหินทา ยาพา อาเบย์วาร์เดเนนา ประธานารัฐสภาศรีลังกา หลังนายราชปักษาโดยสารเครื่องบินจากมัลดีฟส์ก่อนมาลงจอดในสิงคโปร์เพื่อหนีออกจากประเทศที่มีการประท้วงต่อต้านรัฐบาล
สำนักประธานรัฐสภายืนยันว่า นายอาเบย์วาร์เดเนนาได้รับอีเมลการลาออกของนายราชปักษา แต่เสริมว่า “เราไม่สามารถยอมรับอีเมลเช่นนี้อย่างผิวเผินได้ ต้องตรวจสอบความถูกต้องตามกฎหมาย มีการแบ่งปันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบความถูกต้องตามกฎหมาย เมื่อเราได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการและได้รับการยืนยันทางกฎหมายแล้ว เราหวังว่าจะออกแถลงการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ในเช้าวันศุกร์ที่ 15 ก.ค.”
สำนักประธานรัฐสภาเสริมว่า คาดว่าจะได้รับสำเนาจดหมาย แต่อาจใช้เวลานานกว่นั้นเนื่องจากจะส่งมาจากสิงคโปร์ และว่ารัฐสภาศรีลังกาจะไม่ประชุมกันใหม่จนกว่านายราชปักษาจะยื่นหนังสือลาออกอย่างเป็นทางการ
ก่อนหน้านี้ รัฐสภาคาดว่าจะเริ่มกระบวนการคัดเลือกประธานาธิบดีคนใหม่ในวันเสาร์ที่ 16 ก.ค. ด้วยเป้าหมายที่จะลงคะแนนผู้นำคนใหม่ภายในวันที่ 20 ก.ค. ส่วนลำดับขั้นตอนต่างๆ จะไม่ระบุจนกว่านายราชปักษาจะออกจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการ
แหล่งข่าวรัฐบาลระดับสูงระบุว่า จดหมายถูกส่งมาทางอีเมลหลังนายราชปักษามาถึงสิงคโปร์ ขณะที่สิงคโปร์ระบุว่า นายราชปักษาได้รับอนุญาตเข้าประเทศใน “การเยือนแบบส่วนตัว” แต่ไม่ได้ขอหรือได้รับการลี้ภัย
แถลงการณ์กระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ระบุว่า “ได้รับการยืนยันแล้วว่านายราชปักษาได้รับอนุญาตเข้าสิงคโปร์เป็นการส่วนตัว เขาไม่ได้ขอลี้ภัยและไม่เคยได้รับอนุญาตลี้ภัยใดๆ โดยทั่วไปแล้วสิงคโปร์ไม่ได้ให้คำขอลี้ภัย”
แหล่งข่าวความมั่นคงระดับสูงในกรุงโคลอมโบระบุว่า นายราชปักษาให้คำมั่นที่จะลาออกหลังกลุ่มผู้ประท้วงโกรธแค้นบุกเข้าบ้านพักอย่างเป็นทางการ ส่วนนายราชปักษาออกเดินทางจากกรุงมาเล เมืองหลวงมัลดีฟส์ ไปสิงคโปร์ ด้วยเที่ยวบินของสายการบินซาอุเดีย (Saudia flight)
ซีเอ็นเอ็นเชื่อว่า แหล่งข่าวอ้างถึงเที่ยวบินซาอุเดีย 788 ซึ่งออกจากกรุงมาเล 11.30 น. ตามเวลามัลดีฟส์ ส่วนเวลาที่เครื่องบินลงจอดในสิงคโปร์ เว็บไซต์ท่าอากาศยานชางงีระบุที่ 19.17 น. ตามเวลาท้องถิ่นสิงคโปร์ วันพฤหัสบดีที่ 14 ก.ค.
นายราชปักษาอยู่ในมัลดีฟส์เป็นเวลา 1 วันหลังหนีออกจากประเทศในช่วงก่อนฟ้าสางของวันพุธที่ 13 ก.ค. วันเดียวกับที่นายราชปักษาระบุจะลาออก แต่การขาดจดหมายลาออกอย่างเป็นทางการก่อเกิดคำถามถึงความจงใจของผู้นำพลัดถิ่นซึ่งแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รักษาการประธานาธิบดีหลังออกจากประเทศ
สำหรับสถานการณ์ในศรีลังกา ไม่นานหลังนายราชปักษาออกนอกประเทศ กลุ่มผู้ประท้วงบุกสำนักนายกรัฐมนตรีรานิล วิกรมสิงห์ เพื่อเรียกร้องถอดถอนนายวิกรมสิงห์ แต่นายวิกรมสิงห์ตอบโต้ด้วยการเรียกประกาศเคอร์ฟิวทั่วประเทศในชั่วข้ามคืน
บริกาเดียร์ นิลันธา เปรมารัตน์ โฆษกกองทัพ กล่าวในการแถลงการณ์ทางโทรทัศน์ว่า นายวิกรมสิงห์ให้กองทัพศรีลังกามีอำนาจพิเศษในการจับกุม และสั่งใช้กำลัง หากจำเป็นต้องสลายการประท้วงทั่วประเทศ
อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ประท้วงหลายคนให้คำมั่นที่จะแสดงออกต่อไปจนกว่าทั้งนายราชปักษา และนายวิกรมสิงห์ จะก้าวลงจากตำแหน่ง