อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (Amazon Web Services: AWS) ยักษ์ใหญ่แห่งคลาวด์คอมพิวติ้ง ประกาศแผนลงทุนครั้งสำคัญ มูลค่ากว่า 1.9 แสนล้านบาท (หรือ 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ) เพื่อสร้างศูนย์ข้อมูล AWS แห่งใหม่ หรือที่เรียกว่า AWS Asia Pacific (Bangkok) Region ในประเทศไทย คาดว่าจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปี 2568
การลงทุนครั้งนี้ ถือเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของ AWS ในการสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลในประเทศไทย โดย AWS Region ใหม่นี้ จะช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการคลาวด์ที่รวดเร็ว ปลอดภัย และเชื่อถือได้มากขึ้น ตอบสนองความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นของธุรกิจ สตาร์ทอัพ และหน่วยงานภาครัฐในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
จุดเปลี่ยนสำคัญสู่การเป็นผู้นำด้านดิจิทัล
ศูนย์ข้อมูล AWS แห่งใหม่นี้ นับเป็นศูนย์ข้อมูลแห่งที่ 4 ของ AWS ในภูมิภาคอาเซียน
ประโยชน์ของ AWS Region ใหม่นี้:
- เก็บข้อมูลในประเทศ: ลูกค้าสามารถเก็บข้อมูลของตนไว้ในประเทศไทยได้อย่างปลอดภัย
- ลดความหน่วง: ลดความหน่วงของการรับส่งข้อมูล ช่วยให้เข้าถึงแอปพลิเคชันและบริการบนคลาวด์ได้รวดเร็ว
- รองรับความต้องการ: ตอบสนองความต้องการใช้บริการคลาวด์ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องในภูมิภาค
- ส่งเสริมนวัตกรรม: ขับเคลื่อนการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ
- สนับสนุนธุรกิจ: ช่วยให้ธุรกิจขยายฐานลูกค้า เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน และประหยัดค่าใช้จ่าย
- พัฒนาทักษะดิจิทัล: แก้ปัญหาช่องว่างด้านทักษะดิจิทัล
- สร้างอนาคตที่ยั่งยืน: ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน
AWS มุ่งมั่นร่วมพัฒนาทุกภาคส่วน
AWS มุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับภาครัฐและเอกชน เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาค
ตัวอย่างลูกค้า AWS ในประเทศไทย:
- 2C2P
- Accenture
- aCommerce
- Amity
- Ascend Money
- AXONS
- CP Group
- DailiTech
- G-Able
- KBank
- TOT
- MONIX
- NocNoc
- PTT
- SiS
- Toyota
- Bangkok Airways
- CP Foods
- SCB
- Thai Airways
- True Corporation
- Kasikornbank
- Siam Commercial Bank
- Synnex
- DTAC
- PTT Global Chemical
- Minor Group
- Mahidol University
- Chulalongkorn University
- Kasetsart University
- Thammasat University
การลงทุนครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ AWS ที่จะสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลในประเทศไทย และช่วยให้ประเทศไทยก้าวสู่เวทีโลก