12 ปี 19 พ.ค.53 วันที่ 19 พ.ค. ปี 2553 หลังแกนนำเสื้อแดงประกาศยุติการชุมนุมแยกราชประสงค์ เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ยุครัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ
ผู้ชุมนุมและประชาชนอีกไม่น้อยเข้าไปหลบในวัดปทุมวนาราม เขตอภัยทาน เพื่อรอขึ้นรถกลับภูมิลำเนาต่างจังหวัด และรอให้เจ้าหน้าที่เปิดพื้นที่สลายการชุมนุม
ระหว่างนั้นถูกเจ้าหน้าที่ชุดเขียว อาวุธปืนสงครามบนรางรถไฟฟ้าบีทีเอส ยิงเข้ามาในวัดต่อเนื่องถึงเช้าวันที่ 20 พ.ค. มีผู้ถูกยิงเสียชีวิต 6 ราย หนึ่งในนั้นเป็นพยาบาลอาสา และอาสามูลนิธิ ขณะที่รัฐบาลอ้างมีชายชุดดำอยู่ในวัดยิงต่อสู้
เป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องกับการสลายม็อบที่เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย. รวมเสียชีวิตมากกว่า 99 ศพ บาดเจ็บกว่า 2,000 คน
สํ าหรับผู้เสียชีวิตทั้ง 6 รายในวัดปทุมวนาราม ประกอบด้วย นายสุวัน ศรีรักษา, นายอัฐชัย ชุมจันทร์, นายมงคล เข็มทอง, นายรพ สุขสถิต, น.ส.กมนเกด อัคฮาด และนายอัครเดช ขันแก้ว
ต่อมาศาลไต่สวนหาสาเหตุการเสียชีวิต จนในที่สุดมีคำสั่งว่าทั้ง 6 รายถูกยิงด้วยกระสุนปืน จากเจ้าพนักงานทหารบนรางรถไฟฟ้าบีทีเอสหน้าวัดปทุมฯ
ศาลยังชี้ด้วยว่าผู้ตายทั้งหมดไม่มีคราบเขม่าดินปืนที่มือทั้ง 2 ข้าง แสดงว่าไม่เกี่ยวข้องกับการใช้อาวุธปืน การตรวจยึดอาวุธในวัด ไม่น่าเชื่อว่าตรวจยึดจริง และไม่มีชายชุดดำยิงต่อสู้
เป็นเหตุการณ์ที่มีพยานรู้เห็นจำนวนมาก รวมถึงหลักฐานภาพถ่ายและคลิปวิดีโอยืนยันชัดเจน
ทั้ง 6 ศพวัดปทุมฯ และรวมเกือบ 100 ศพ สะสมมาตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย. ถึง 19 พ.ค.2553 หลังรัฐบาลขณะนั้นอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ใช้กระสุนจริง ซึ่งในจำนวนผู้เสียชีวิต ศาลมีคำสั่งแล้ว 17 รายถูกกระสุนปืนเจ้าหน้าที่
ล่วงเลยมา 12 ปี ผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ และครอบครัวยังไม่ได้รับความยุติธรรม เพราะผู้สั่งการและผู้เกี่ยวข้องยังไม่เข้าสู่กระบวนการพิสูจน์ความถูกผิดในชั้นศาลแต่อย่างใด
ที่สำคัญหลังรัฐประหาร 2557 มีความพยายามยุติคดี โดยมีข้อสังเกตกลุ่มผู้ก่อการรัฐประหาร ผู้เกี่ยวข้องในรัฐบาลขณะนั้น แกนนำม็อบขับไล่รัฐบาล คือเครือข่ายเดียวกันกับกรณีสลายม็อบเม.ย.-พ.ค.2553
ตราบใดกลุ่มเหล่านี้ยังไม่เข้าสู่ชั้นศาลพิสูจน์ความถูกผิด การลดความขัดแย้ง สร้างความปรองดองย่อมเป็นเรื่องยากที่จะเกิดขึ้น