ศาลมีคำสั่งไต่สวนหาสาเหตุการตายของนายอับดุลเลาะ อีซอมูซอ อายุ 34 ปี ชาวบ้าน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ผู้ต้องสงสัยคดีความไม่สงบชายแดนภาคใต้ หลังถูกเจ้าหน้าที่คุมตัวไปค่ายทหาร แล้วช็อกหมดสติและเสียชีวิต

โดยระบุว่าพยานหลักฐานยังไม่บ่งชี้ได้ว่านายอับดุลเลาะถูกทำร้ายร่างกายจนหมดสติ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา แต่เสียชีวิตจากสมองขาดออกซิเจน และหัวใจหยุดเต้นอย่างไม่ทราบสาเหตุ

ตลอดเวลากว่า 2 ปี ญาติผู้ตายและภาคประชาสังคม เรียกร้องให้พิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตที่ยังมีข้อสงสัย และมีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องจนนำไปสู่การเสียชีวิตหรือไม่

แต่จากคำสั่งศาลดังกล่าวจึงถือเป็นข้อยุติ ไม่สามารถชี้ได้ว่ามีเจ้าหน้าที่คนใดเกี่ยวข้อง

กรณีนี้สืบเนื่องจากนายอับดุลเลาะถูกเจ้าหน้าที่ ควบคุมตัวไปค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 20 ก.ค. 2562 ต่อมาเวลา 03.00 น. วันที่ 21 ก.ค. หมดสติอยู่ในห้องควบคุมของศูนย์ซักถาม

จากนั้นส่งรักษาเบื้องต้นที่ร.พ.ในค่ายทหาร สภาพหมดสติ ไม่มีอาการรับรู้ แล้วส่งต่อไปร.พ. สงขลานครินทร์ จ.สงขลา แพทย์ระบุสมองบวมจากการขาดอากาศหายใจ

นายอับดุลเลาะต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ อาการวิกฤตหนัก ในสภาพเหมือนเจ้าชายนิทรา อยู่ในห้องไอซียูนานกว่า 1 เดือน จนกระทั่งวันที่ 25 ส.ค. 2562 ก็เสียชีวิต

ครอบครัวระบุว่า นายอับดุลเลาะเป็นคนแข็งแรง ทำงานก่อสร้างได้ปกติ การที่จู่ๆ หมดสติในค่ายทหาร และนำไปสู่การเสียชีวิต จึงเต็มไปด้วยข้อสงสัยมากมาย

แม้ในชั้นไต่สวนสาเหตุการเสียชีวิตยังไม่สามารถระบุได้ว่า มีเจ้าหน้าที่คนใดทรมานทำร้ายจนทำให้หมดสติหรือไม่ เพื่อนำไปสู่การฟ้องร้องคดีอาญา

แต่ครอบครัวและภาคประชาสังคมยังยืนยันจะหาช่องทางดำเนินการทางกฎหมายต่อไป เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลและกองทัพรับผิดชอบ ด้วยการชดเชยเยียวยาครอบครัว

กรณีนายอับดุลเลาะ อีซอมูซอ รัฐบาลและกองทัพจะปฏิเสธ โดยไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลยคงไม่ได้ เพราะเหตุการณ์เริ่มต้นจากในค่ายทหาร และอยู่ระหว่างการควบคุมของเจ้าหน้าที่

ที่สำคัญต้องทบทวนเรื่องนำผู้ต้องสงสัยมาเข้าศูนย์ซักถาม เพราะจะยิ่งบานปลายเป็นเงื่อนไขระหว่างชาวบ้านในพื้นที่กับรัฐ