เป็นข่าวใหญ่โต สำหรับการปิดฉากความรักของ นักร้องสาวเสียงใส น้ำหวาน พิมรา หรือ น้ำหวาน ซาซ่า กับนักร้องขาร็อค กวาง AB Normal พร้อมดราม่ามากมาย โดยเฉพาะกับแม่ฝ่ายหญิงที่ถูกวิจารณ์หนัก ว่าเป็นสาเหตุหลักที่ต้องเลิกรา
แถมล่าสุดก็ยังมีประเด็นใหม่ตามมาอีกครั้ง เมื่อสาวน้ำหวาน โพสต์ข้อความพร้อมจอดำ ก่อนจะลบทิ้งในเวลาต่อมา ท่ามกลางความสงสัยของบรรดาชาวเน็ตว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่!? ซึ่งงานนี้เจ้าตัวพร้อมตั้งโต๊ะเคลียร์ทุกดราม่ากลาง รายการ โต๊ะหนูแหม่ม กับพิธีกรตัวแม่ หนูแหม่ม สุริวิภา ว่ารักครั้งนี้มูฟออนหรือว่าจะไปต่อ…
ปีนี้ถือว่าเจอวิกฤตหนักเรื่องความรัก ?
“ปีนี้ถือว่าเจอวิกฤตหนักเลย ตั้งแต่หลังวันเกิด คือเจอมาหนักจริง เหมือนกับว่าเป็นช่วงที่เขาพูดกันว่าราหูย้าย หนูโดนราหูก่อนวันเกิดเลยค่ะ”
ก่อนหน้านี้โพสต์ข้อความดราม่าพร้อมจอดำ ?
“คือลบไปแล้วค่ะ คือหวานใช้เวลาคิดชั่วโมงหนึ่งค่ะแล้วก็ตัดสินใจลบลง คือเหตุการณ์วันนั้นหวานไปแข่งโป๊กเกอร์ที่เวียดนาม แล้วก็อยู่กับพี่กวางด้วย ตอนที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมา คือเนื้อความในรายละเอียดที่พิมพ์หวานขอไม่ลงดีเทลดีกว่า ก็เป็นข้อความเป็นแอคหลุมที่มาพิมพ์ไม่ดี แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจลบดีกว่า เพราะไม่งั้นมันก็จะเกิดเป็นประเด็นใหม่ๆ ต่อ ก็เลยตัดสินใจว่าปีนี้ไม่อยากจะมีปัญหาอะไรแล้ว อยากจะอยู่สงบๆ อะไรแบบนี้”
ก่อนจะโพสต์ข้อความโมโหเบอร์ไหนถึงโพสต์ ?
“ก็โมโหนะคะ ต้องยอมรับเลยว่ามีอารมณ์กับเรื่องที่เกิดขึ้น เพียงแต่ว่าพอมีสติก็เลยคิดว่ามันก็จะเป็นเรื่องไม่จบไม่สิ้น หวานคิดว่าเรื่องอะไรก็แล้วแต่ที่เกิดขึ้นสุดท้ายมันก็วนกลับมาที่เรา เราก็ว่าเราไม่เอาดีกว่า”
ตอนนั้นอยู่ด้วยกันกับพี่กวาง เขาแนะนำยังไง ?
“เขาก็บอกว่าลบดีกว่า เพราะทั้งเขาและหวานต่างคนก็ต่างมูฟออนแล้ว มันก็ไม่อยากที่จะกลับมาพูดเรื่องแบบนี้อีก ไม่อยากแบบว่ากลับมากรุงเทพแล้วมานั่งตอบคำถามเรื่องแบบนี้ แต่ว่ามันไม่ทันแล้วค่ะ (หัวเราะ)”
ตอนนี้เรื่องมันจบแล้ว ต่างคนต่างมูฟออนยังไง ?
“ก็สำหรับเรื่องที่โพสต์มันก็คือจบในตอน มันไม่มีอะไร แต่สำหรับหวานเองทุกวันนี้หวานก็มูฟออนแล้ว ก็อยู่กับปัจจุบันแล้วก็มีความสุขดี และแฮปปี้ดี ซึ่งหวานเป็นคนโชคดี หวานมีครอบครัวหวานมีคุณพ่อคุณแม่ มีเพื่อนพี่น้องมีผู้จัดการมีคนรอบตัว ทุกคนคอยซัพพอร์ตหวานมันก็เลยทำให้หวานหายได้เร็วกว่าคนอื่นค่ะ”
ทุกวันนี้ยังคุยกันได้ปกติ แต่แค่ไม่ได้ใช้ชีวิตร่วมกัน ?
“ใช่ค่ะ จริงๆ ก็คุยกันได้ปกติ แต่ช่วงนี้อาจจะคุยกันน้อยหน่อย แต่ก่อนเราอาจจะมีการคุยกันนัดหมายเรื่องการเลี้ยงน้องหมา แต่ตอนนี้น้องหมาอยู่โรงเรียนประจำ ช่วงนี้ก็เลยไม่ค่อยได้คุยกัน แต่ว่าความปรารถนาดีอะไรต่างๆ ก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง ก็ถือว่าดีค่ะ”
ธุรกิจที่ทำร่วมกันละ ไปต่อยังไง ?
“ไม่ได้ทำร่วมกันแล้วค่ะ เหมือนกับว่าเราตัดสินใจว่าถ้ามันจะจบต่างคนก็ต่างมูฟออนกันไป มันก็ไม่ควรมีอะไรที่จะติดพันกัน ก็ให้เป็นความรู้สึกที่เป็นเพื่อนกันแต่ไม่ได้มีอะไรที่ต้องทำร่วมกัน”
ความรู้สึกของคนในครอบครัว เขาให้คำแนะนำยังไง?
“ในส่วนของคุณพ่อคุณแม่ คือตั้งแต่วันที่หวานมีปัญหา คุณพ่อกับคุณแม่ก็คือซัพพอร์ต ถึงได้รับผลกระทบไปด้วยโดยที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เขาก็ฮีลใจหวานไม่ได้มาอ่อนแอให้หวานเห็น หรือทำให้หวานเครียดไปกว่าเดิม ก็เป็นแรงสนับสนุนที่ดีมากๆ หันไปเมื่อไรก็เจอรอยยิ้มที่คุณพ่อคุณแม่มอบให้ รวมไปถึงเพื่อนรวมไปถึง น้าใหม่ เจริญปุระ คือกำลังใจสำคัญเลย หวานโชคดีมากหวานเชื่อว่าทุกวิกฤตของชีวิตของคน ถ้าพยายามมองหาเรื่องดีที่มันซ่อนอยู่มันจะเจอ ถ้าเรามองแบบมีสติเราจะเจอว่าเรามีอะไรดีๆอีกมากมาย”
เห็นว่ากวางปรับความเข้าใจกับคุณแม่แล้ว ?
“คือไม่เคยเล่าที่ไหนเลย ไม่ได้มีข่าวออกมาเพราะว่ายังไม่มีโอกาสได้โพสต์ ก็เกิดขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกาที่แล้วค่ะ เป็นช่วงที่พี่กวางจะย้ายบ้าน แล้วคุณแม่ก็มาถามว่าเขาว่าย้ายบ้านวันไหน แม่ก็บอกว่าถามหน่อยเขาอยากทานอะไรก่อนย้ายบ้านเดี๋ยวคุณแม่จะทำส่งไปให้ แล้วเขาตอบกลับมาว่าอยากทานอะไรแล้วคุณแม่ก็ทำไปให้ แล้ววันนั้นหวานก็เอาไปส่งให้เพราะว่าหวานยังไปเยี่ยมน้องหมาอยู่ แล้วเราก็มาเกร็งอีกครั้งเมื่อรู้ว่าเขาต้องไปเจอกันที่เวียดนาม
ตอนนั้นก็เกร็งมากเพราะว่าเป็นครั้งแรกที่เจอกันหลังจากที่มีปัญหากัน แล้วเขาก็เป็นคู่กรณีกันโดยตรง แต่กลายเป็นว่าวันนั้นเขากอดกัน หวานเองก็ไม่คิดว่ามันจะเกิดภาพนี้ เขาก็กอดกัน คุยกันแล้วคุณแม่ก็ซื้อขนมให้เขา หวานก็มาเห็นภาพเขาคุยกันปกติ ไม่มีการพูดถึงเรื่องอดีต มันทำให้เหมือนว่าเรายกภูเขาออกจากอก เราหมดคำถามและเราสบายใจ เราเลยรู้สึกว่ามันเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เรามูฟออนได้”