‘น้องกัณฑ์’ เคลียร์ดราม่า ไลฟ์หาเงินทำศพพ่อ ขอโทษที่ทำให้เข้าใจผิด ตอนนั้นยังทำใจไม่ได้ พี่เผยมีคนรักก็ต้องมีคนไม่ชอบ

จากเรื่องราวบีบหัวใจ “น้องกัณฑ์” ศิลปินเด็กวัย 12 ปี ไลฟ์เล่นกีตาร์ร้องเพลง หาเงินจัดงานศพพ่อ ทำให้หลายคนที่เข้ามาดูคลิป ต่างชื่นชมในความกตัญญูของน้องกัณฑ์

ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 17 ก.พ. 65 หลังจบรายการโหนกระแส ด.ช.กัณฑ์ ชนะเดช เขียวเซ็น หรือน้องกัณฑ์ อายุ 12 ปี พร้อมด้วยพี่สาว น.ส.หรรษลักษณ์ ชนะเดช อายุ 26 ปี เปิดใจเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น พร้อมตอบประเด็นดราม่าเรื่องเงินบริจาค

น้องกัณฑ์ กล่าวว่า ตนเล่นกีต้าร์มาตั้งแต่เด็ก เพราะชอบด้วย และพ่ออยากให้เล่น ซึ่งตนมีพี่สาว 1 คน และพี่ชาย 2 คน เป็นพี่แท้ๆ อยู่ด้วยกัน พ่อเริ่มป่วยมาตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ.64 ตอนแรกพ่ออาการทรงตัวได้อยู่ และก็ค่อยๆ แย่ลงมา พี่ๆ ก็หยุดงานมาดูแล ซึ่งตนก็ไลฟ์สดมาตั้งแต่ก่อนพ่อจะป่วย อายุประมาณ 11 ขวบ หาเงินให้ตัวเองเรียน จนกระทั่งพ่อป่วยก็ได้เปลี่ยนแคปชั่นไลฟ์ “หาเงินช่วยพ่อเป็นมะเร็ง” อยากทำเพื่อพ่อด้วย แต่เมื่อวันที่ 4 ก.พ.65 พ่อก็เสียชีวิต ร่างพ่อก็อยู่ที่รพ. 7 วัน และทำพิธีอีก 3 วัน และเผาวันที่ 14 ก.พ. 65

พอมีคลิปออกมาหลายคนคิดว่า เผาพ่อวันที่ 15 ก.พ.65 ตนก็อยากจะบอกว่า “ขอโทษที่ทำให้เข้าใจผิด ตอนนั้นยังทำใจไม่ได้ เลยเพิ่งมาโพสต์คลิป ขออภัยที่ทำให้รู้สึกแปลกๆ ไป” ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายก่อนที่พ่อจะเสียชีวิตก็ 10,000 กว่าบาท ค่าจัดพิธีอีก 20,000 บาท และจ่ายวัดอีก 20,000 บาท รวมแล้ว 50,000 กว่าบาท ตอนพ่อยังมีชีวิตอยู่มักสอนเสมอว่า “เปลี่ยนความผิดหวังให้เป็นพลัง” ถ้าเกิดเราผิดหวังมากๆ ก็ทำใจ แล้วเปลี่ยนพลังให้กลับมาสู้ต่อ

ตนอยากขอบคุณคนไทยหลายๆ คนที่สนับสนุน ตนก็จะเอาเงินส่วนนี้ไปใช้จ่าย และพ่อเคยบอกว่าให้เอาเงินไปช่วยเหลือคนด้วย ตนก็ตั้งใจเอาเงินส่วนนี้ไปช่วยเหลือคนป่วยเป็นโรคมะเร็ง ตอนนี้ตนก็ยังไม่เช็กดูว่าเงินมีเท่าไหร่ ส่วนดราม่าเรื่องเงินบริจาค ตนไม่อยากจะพูดอะไร ปล่อยเขาไป อยากจะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี ไม่รู้สึกเสียใจ เพราะเมื่อก่อนเคยคิดเรื่องนี้แล้ว พอมาคิดดูดีๆ ก็ไม่ต้องแคร์ คำพูดแบบนี้ตนพยายามปรับตัว คนอื่นก็จะรู้เองว่าเป็นยังไง ตนจะทำทุกวันให้มีความสุข

ถ้าพ่อฟังอยู่ก็อยากจะบอกว่า “ผมรักพ่อมาก เคยคิดด้วยว่ายอมแลกชีวิตกับพ่อ แต่พ่อก็น่าจะเสียใจ ถ้าผมแลกชีวิตกับเขา พ่อเคยบอกว่าถ้าผมไม่มีชีวิตแล้ว พ่ออยู่ไปก็ไม่มีประโยชน์ พ่ออยากให้ผมอยู่และสู้ต่อไป”

ด้าน น.ส.หรรษลักษณ์ กล่าวว่า ตนทำอาชีพขายผักสดอยู่แถวสายไหม ก็รับผิดชอบค่ารักษาพ่อมาตลอด จนล่าสุดก่อนพ่อเสีย นอนที่รพ. 5 คืน ต้องจ่าย 20,000 กว่าบาท และมีค่าจัดงานอีก 20,000 กว่าบาท รวมแล้ว 50,000 กว่าบาท ตอนนี้เคลียร์หมดแล้ว

ส่วนดราม่าเรื่องเงินบริจาค เงินอยู่ในบัญชีน้อง เป็นชื่อน้อง ตนไม่เคยยุ่ง รักน้องมาก ไม่ทำร้ายน้องอยู่แล้ว ตนก็ไม่เป็นอะไร มีคนรักก็ต้องมีคนไม่ชอบด้วย แต่เขาไม่รู้ว่าชีวิตพวกเราผ่านอะไรมาบ้าง ใครคิดร้ายก็ไม่เป็นอะไร แค่มีคนรู้ว่าครอบครัวเป็นยังไงแค่นั้นก็พอ ตอนนี้ที่ทำได้ตนพยายามทำให้น้องมีความสุข แต่ตัวเองก็ยังเศร้า น้องเข้มแข็งมาก ถ้าเรื่องอนาคตมีผู้ใหญ่ใจดีช่วยน้อง ตนก็ขอบคุณมาก