นิพนธ์ แจง เคยแจ้ง บ.พลวิศว์ คู่สัญญาไปแล้ว สัญญาจัดซื้อรถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ เป็นโมฆะ จึงไม่ต้องบอกยกเลิก ไม่มีผลผูกพันตั้งแต่ต้น

เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.2565 นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย อดีตนายก อบจ.สงขลา กล่าวถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติฟ้องนายนิพนธ์ ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามมาตรา 157 กรณีรู้ว่ามีการฮั้วประมูล แต่ไม่บอกเลิกสัญญาการจัดซื้อรถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ ว่า ที่จริงประเด็นนี้ อบจ.สงขลาได้แจ้ง บริษัท พลวิศย์ เทคพลัส จำกัด ผู้ชนะการประกวดไปแล้วว่าสัญญาเป็นโมฆะ ต้องมาขอคืนหลักทรัพย์ แต่บริษัทพลวิศว์ ก็ไม่มีการโต้แย้งและไม่มาขอคืนทรัพย์สินด้วย

“เมื่อสัญญาเป็นโมฆะตั้งแต่ต้น จึงไม่มีผลผูกพัน ไม่ต้องบอกเลิกสัญญาเพราะไม่มีผลผูกพันมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว บริษัท พลวิศว์ แค่ขอคืนหลักทรัพย์ค้ำประกันสัญญา แต่ไม่ได้ขอคืนทรัพย์สิน รถซ่อมบำรุงทางฯ จึงยังอยู่ที่ อบจ. เขาไม่มาขอคืนเอง ไม่ใช่หน้าที่ของ อบจ.ที่จะเอารถไปส่งคืนให้เขา ซึ่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 150 เมื่อสัญญาเป็นโมฆะ ก็ไม่ต้องบอกเลิกสัญญา เพราะไม่มีผลผูกพันตั้งแต่ต้น ไม่ใช่เป็นโมฆียะ ความหมายต่างกัน เมื่อหนี้ไม่สมบูรณ์ จึงไม่มีสิทธิ์ และหน้าที่ต้องปฏิบัติต่อกัน” นายนิพนธ์ กล่าว

นายนิพนธ์ กล่าวว่า ยืนยันว่าเรื่องคดีอาญาไม่มีอะไรน่ากลัว สามารถชี้แจงต่อศาลได้ในทุกประเด็น เราเตรียมการทำข้อมูลมานานแล้ว ตั้งแต่การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งก่อน และเชื่อว่าประเด็นนี้จะถูกหยิบยกขึ้นมาอภิปรายในครั้งนี้อีก จึงไม่น่ากลัว พร้อมชี้แจง และถือเป็นโอกาสดีจะได้ชี้แจงกับประชาชนอีกครั้ง

ขอให้ลองคิดดู บริษัทและบุคคลที่ร่วมฮั้วประมูลถูกดำเนินคดีหมดแล้ว ส่วนใหญ่หลบหนีออกนอกประเทศ อัยการก็เริ่มทยอยสั่งฟ้องไปแล้ว นั่นแสดงว่าเบื้องต้นผู้ร่วมฮั้วประมูล มีความผิดจริง เพียงแค่รอศาลตัดสินเท่านั้น ถ้าไม่ผิดจะหลบหนีทำไม ก็มามอบตัวสู้คดี