นายกแก่งเสี้ยน เปิดหน้าชน แฉคลิปเสียงนายพล แนะ วางเพลิงเผาบ่อขยะ ลั่นเดินหน้าสางปมปัญหายืดเยื้อ ขอใช้พื้นที่เพื่อประโยชน์คนเมืองกาญจน์
เมื่อวันที่ 27 มี.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่กลางดึกที่ผ่านมาเกิดเพลิงลุกไหม้บ่อขยะ เชิงเขาทอง หมู่ที่ 5 ตำบลแก่งเสี้ยน อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี โดยนายจักกฤช มหากิจวรกุล นายก อบต.แก่งเสี้ยน พร้อมทีมงานเข้าไปตรวจสอบที่บ่อขยะ พร้อมประสานรถดับเพลิงจาก เทศบาลเมืองปากแพรก เทศบาลตำบลท่ามะขาม เทศบาลเมืองกาญจนบุรี เทศบาลแก่งเสี้ยน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่อยู่ใกล้เคียงกว่า10 คัน เดินทางเข้าไปเร่งฉีดน้ำเพื่อควบคุมเพลิงที่กำลังลุกไหม้ขยะที่มีปริมาณนับล้านตัน
โดยเพลิงได้โหมลุกไหม้อย่างรุนแรง เนื่องจากกองขยะขนาดใหญ่นี้ มีเศษวัสดุจำพวกพลาสติกซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีปะปนอยู่เป็นจำนวนมาก ประกอบกับช่วงนี้ สภาพอากาศแห้งแล้ง ทำให้ขยะติดไฟได้ดีและไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็ว จนทำให้เกิดควันลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ที่เข้าควบคุมเพลิงประสบกับภาวะแสบตาและแสบจมูก ถือเป็นอุปสรรคชิ้นสำคัญในการปฏิบัติหน้าที่
นายจักกฤช มหากิจวรกุล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแก่งเสี้ยน ได้สั่งให้นำรถแบ็กโฮ เข้าไปขุดทำแนวป้องกันไฟ ไม่ให้เกิดการลุกลามเป็นวงกว้างมากกว่านี้ แต่คาดว่าจะต้องใช้เวลานานในการสกัดเพลิงที่ลุกไหม้อยู่ในเวลานี้ให้อยู่ในวงจำกัดได้
ต่อมาพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้เดินทางเข้าไปตรวจสอบยังจุดเกิดเพลิงไหม้บ่อขยะแห่งนี้ ซึ่งจากการตรวจสอบบริเวณเชิงเขารอบบ่อขยะ ไม่พบว่ามีไฟป่าที่อาจจะเป็นสาเหตุทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้บ่อขยะแต่อย่างใด
สอดคล้องกับเจ้าหน้าที่ที่เฝ้าดูแลกองขยะ แจ้งว่าเมื่อกลางดึกก่อนที่จะเกิดเพลิงลุกไหม้ขึ้น ได้มีชาย 2 คน เดินออกมาจากกองขยะ เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปสอบถามว่ามาทำอะไร ทั้ง 2 แจ้งว่าเป็นชาวบ้านหนองจอก ก่อนที่ทั้ง 2 คน จะเดินออกไปบริเวณสามแยก และขี่รถจักรยานยนต์ขับออกไปอย่างรวดเร็ว สักครู่ก็ได้เกิดเพลิงลุกไหม้กองขยะขึ้น เบื้องต้นคาดว่าทั้ง 2 คน น่าจะเข้าไปวางเพลิงบ่อขยะแห่งนี้ก็เป็นได้ โดยเจ้าหน้าที่แจ้งว่าจำใบหน้าทั้ง 2 คน ได้ชัดเจน และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไปติดตามตัวทั้ง 2 คน เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริง
ต่อมาเจ้าหน้าที่ใช้น้ำยาเคมีฉีดลึกลงไปในกองขยะกว่า5 เมตร จนควบคุมเพลิงให้สงบลงได้แล้ว เบื้องต้นเชื่อเป็นการลอบวางเพลิงของกลุ่มผู้เสียผลประโยชน์
สำหรับกองขยะแห่งนี้ที่ไม่สามารถกำจัดได้เนื่องจากหมดสัญญาเช่ากับทางกองทัพบกและกำลังอยู่ระหว่างทหารได้ยกพื้นที่คืนให้กับทางราชพัสดุ แล้วทาง อบต. กำลังทำหนังสือไปขอใช้บ่อขยะแห่งนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ทางคณะกรรมมาธิการฯได้ลงพื้นที่ เนื่องจากมีประชาชนเดือดร้อนไปร้องว่าบ่อขยะแห่งนี้ส่งกลิ่นเหม็นเวลาฝนตกน้ำจากกองขยะไหลผ่านบ้าน
จนทางฝ่ายกองทัพบกเห็นความเดือดร้อนของชาวบ้านจึงได้ส่งคืนพื้นที่บ่อขยะแห่งนี้อยู่ ในระหว่างนี้ขยะยังไม่สามารถดำเนินการใดๆได้เกรงผิดกฎหมาย และทาง อบต.แก่งเสี้ยน ก็อยู่ระหว่างขั้นตอนการดำเนินการ เมื่อเสร็จสิ้นตามขั้นตอนก็จะเข้าไปดำเนินการกำจัดขยะทั้งหมดในทันที โดยเฉพาะทางฝ่ายผู้รับเหมาก็พร้อมจะนำอุปกรณ์เข้าไปในพื้นที่ทันทีเช่นกัน
ดังนั้นเวลานี้จึงทำให้ขยะบริเวณนี้ที่มี อปท.จำนวน 37 อปท. นำขยะมาทิ้งที่นี่ก่อนหน้านี้ แต่เวลานี้ไม่สามารถนำขยะเข้าไปทิ้งได้เช่นกันเกรงผิดกฎหมาย ทำให้ อปท.ทั้ง 37 แห่งต้องหันไปหาที่ทิ้งขยะในจังหวัดใกล้เคียงแทน เป็นการชั่วคราวก่อน
ด้านนายก อบต.แก่งเสี้ยน กล่าวว่า จากข้อมูลของเจ้าหน้าที่ที่เฝ้าบ่อขยะ ระบุว่าเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา มีชายสองคนลักลอบเข้ามาในบ่อขยะ ก่อนจะเกิดเพลิงไหม้ขึ้นนั้น เชื่อว่าเพลิงไหม้ในครั้งนี้ น่าจะเป็นฝีมือการลอบวางเพลิงของชายทั้งสองคน ซึ่งน่าจะเป็นกลุ่มคนที่เสียผลประโยชน์จากการเข้ามาบริหารจัดการขยะของทาง อบต.แก่งเสี้ยน โดยขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรีกำลังอยู่ในระหว่างการสืบสวนติดตามตัวชายทั้งสองคนมาดำเนินคดีตามกฏหมาย
ล่าสุด นายจักกฤช มหากิจวรกุล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแก่งเสี้ยนพร้อมรองนายกฯทั้งสองคน เปิดห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลแก่งเสี้ยน แถลงข่าวถึงเหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้น โดยได้มีการนำเอาคลิปเสียงการสนทนาระหว่างหญิงชาวบ้านรายหนึ่ง ซึ่งเป็นกลุ่มที่พยายามร้องเรียนการทำงานของตัวนายกและฝ่ายบริหารองค์การบริหารส่วนตำบลแก่งเสี้ยนมาตลอด ได้สนทนากับเสียงปลายสาย ซึ่งทางนายกอบต.ฯระบุว่าเป็นนายทหารยศนายพลรายหนึ่ง
โดยช่วงหนึ่งในการสนทนา ทางฝ่ายของนายทหารดังกล่าว ได้ให้คำแนะนำคู่สนทนา ว่าหากเป็นตนจะใช้วิธีการส่งคนลอบเข้าไปวางเพลิงจุดไฟเผาบ่อขยะในช่วงเวลากลางคืน เพื่อให้เกิดเป็นข่าวดังและจะได้เกิดปัญหา ทำให้การพยายามยื่นเรื่องขอให้กองทัพบกคืนพื้นที่บริเวณบ่อขยะให้กับทางกรมธนารักษ์มีปัญหา ซึ่งคลิปเสียงดังกล่าว ได้มีการหลุดออกมาเผยแพร่ในไลน์กลุ่มของชาวบ้านหมู่ 5 ตำบลแก่งเสี้ยน เมื่อช่วงเวลาประมาณ 18.00 นาฬิกาของวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา ก่อนที่ในช่วงเวลาประมาณ 23.00 นาฬิกาวันเดียวกัน จะเกิดเพลิงไหม้บ่อขยะขึ้นจริงๆ
นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแก่งเสี้ยนมองว่า เหตุเพลิงไหม้บ่อขยะครั้งนี้ ไม่ใช่เหตุเพลิงไหม้ตามธรรมชาติและน่าจะเป็นการลอบวางเพลิง ตามคำแนะนำของนายทหารที่ได้พูดมาในคลิปเสียงสนทนาอย่างแน่นอน ซึ่งในช่วงที่เกิดเหตุ ทหารที่เฝ้าบ่อขยะก็ได้พบกับชายสองคนที่ลักลอบเข้ามาในบ่อขยะและขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีออกไป ก่อนจะเกิดเพลิงไหม้บ่อขยะไม่นาน จึงมั่นใจว่าเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นเป็นการลอบวางเพลิงอย่างแน่นอน
สาเหตุที่ทำให้เกิดความขัดแย้งจนนำมาสู่การลอบวางเพลิงเผาบ่อขยะในครั้งนี้ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแก่งเสี้ยนเชื่อว่า มาจากการขัดผลประโยชน์เกี่ยวกับการให้เอกชนเข้ามารับเหมาจัดการบ่อขยะ ซึ่งที่ผ่านมา เมื่อสัญญาการเช่าพื้นที่ให้บริษัทเอกชนเข้ามารับเหมาจัดการขยะได้หมดลงเมื่อเดือนกันยายน 2565 ที่ผ่านมา หลายฝ่ายได้พยายามล็อบบี้ให้บริษัทเดิม ได้ต่อสัญญาบริหารจัดการบ่อขยะต่อ
แต่ตนเองในฐานะนายกองค์การบริหารส่วนตำบลแก่งเสี้ยนเจ้าของพื้นที่ไม่ยินยอม และได้มีการเดินเรื่องไปยังกองทัพบกเพื่อทำเรื่องขอให้ทางกองทัพบกส่งคืนพื้นที่บริเวณบ่อขยะเชิงเขาทอง ให้กับทางกรมธนารักษ์ เพื่อที่ทางองค์การบริหารส่วนตำบลแก่งเสี้ยน จะได้เข้าไปยื่นเรื่องต่อกรมธนารักษ์เพื่อขอใช้พื้นที่บริเวณบ่อขยะ จำนวน 100 ไร่ ในการบริหารจัดการขยะ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่รับขยะจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหลายสิบแห่งในจังหวัดกาญจนบุรีเข้ามาบริหารจัดการที่นี่
โดยจะเปิดให้บริษัทเอกชนเข้ามาประมูลการบริหารจัดการบ่อขยะกันอย่างโปร่งใส ซึ่งขณะนี้ การยื่นเรื่องไปยังกองทัพบกก็คืบหน้าไปมากและตนยืนยันได้ว่า ทางกองทัพบกได้มีหนังสือตอบรับที่จะส่งมอบคืนพื้นที่บริเวณบ่อขยะเชิงเขาทองให้กับกรมธนารักษ์แล้วด้วย ซึ่งหากการดำเนินการขอคืนพื้นที่สำเร็จและทางองค์การบริหารส่วนตำบลแก่งเสี้ยนสามารถเข้าไปขอใช้ประโยชน์จากกรมธนารักษ์ได้สำเร็จ ก็จะทำให้กลุ่มผู้ที่เคยรับผลประโยชน์จากการบริหารจัดการบ่อขยะแห่งนี้ หลายคนเสียประโยชน์ ซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุที่นำมาสู่การลอบวางเพลิงบ่อขยะในครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ ตนเองจะเปิดหน้าสู้ โดยไม่เกรงกลัวอันตรายใดๆ เพื่อจะเดินหน้าผลักดันการขอคืนพื้นที่จากกองทัพบกให้สำเร็จและจะได้ดำเนินการเข้าขอใช้ประโยชน์จากกรมธนารักษ์ให้เรียบร้อย เพื่อเข้าสู่การประมูลหาบริษัทเอกชนเข้ามารับเหมาจัดการบ่อขยะแห่งนี้ เพื่อแก้ปัญหาขยะล้นเมืองของจังหวัดกาญจนบุรีให้เรียบร้อยต่อไป
ส่วนเรื่องของคดี การติดตามหาตัวคนร้ายที่ลอบวางเพลิงบ่อขยะ จากนี้ ก็คงมอบเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองกายจนบุรีเข้ามาหาเบาะแสติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุทั้งสองคนมาสอบสวนหาผู้บงการและดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป