นาทีชีวิต ฝันร้ายที่ไม่มีวันลืมเลือน! ชายถูกฮิปโปเขมือบ กลืนไปครึ่งตัว แถมโดนขย้ำซ้ำ เผยรอดมาได้ไง
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงาน เหตุการณ์สุดระทึกขวัญของชายคนหนึ่งที่ออกมาเล่าประสบการณ์ส่วนตัวว่า ตนเองเคยถูกฮิปโปโปเตมัสตัวเบิ้มเขมือบเข้าไปแล้วครึ่งตัว แต่สามารถรอดชีวิตออกมาได้ พร้อมคำแนะนำเมื่ออยู่ใกล้ฮิปโป
ฮิปโปโปเตมัสที่โตเต็มที่สามารถโตได้ยาวถึง 16.5 ฟุต (5 เมตร) สูง 5.2 ฟุต (1.6 เมตร) และหนักได้ถึง 4.5 ตัน ฮิปโปมีปากขนาดมหึมาและสามารถเปิดขากรรไกรที่แข็งแรงได้ถึง 150 องศา ซึ่งฟันกรามของฮิปโปมีหน้าที่กินพืช แต่เขี้ยวที่แหลมคมซึ่งอาจยาวถึง 20 นิ้ว เพื่อป้องกันตัวและต่อสู้ แรงกัดของฮิปโปแรงกว่าสิงโตเกือบสามเท่า การกัดของฮิปโป 1 ครั้งสามารถผ่าครึ่งร่างกายมนุษย์ได้
ชายคนดังกล่าวชื่อ พอล เทมป์เลอร์วัย 28 ปีเป็นมัคคุเทศก์จัดทัวร์ในซิมบับเวบ้านเกิดของเขา โดยเน้นไปที่การถ่ายภาพซาฟารี ซึ่งเขามีความภาคภูมิใจเป็นอย่างมากและมีความสุขมากที่ได้แสดงให้นักท่องเที่ยวได้ชมสัตว์ป่าที่ยิ่งใหญ่ในพื้นที่ รวมถึงฮิปโปที่รักน้ำและหวงถิ่นมาก “ชีวิตดีมากจริง ๆ จนกระทั่งวันหนึ่งผมมีวันที่แย่จริงๆ ในที่ทำงาน”
พอล เล่าว่าในวันที่ 9 มีนาคม 2539 เป็นวันที่เขาจำได้ไม่ลืม โดยเขาเป็นผู้นำเรือแคนูซาฟารีล่องไปตามแม่น้ำซัมเบซีแทนเพื่อนที่ป่วยเป็นไข้มาลาเรีย โดยการเดินทางประกอบด้วยลูกค้าซาฟารี 6 คน ไกด์ฝึกหัด 3 คนและตัวเขา พวกเขามีเรือแคนูสามลำ ลูกค้าอยู่สองที่นั่งแรกและมีคนนำทางอยู่ด้านหลัง จากนั้นมัคคุเทศก์ฝึกหัดคนหนึ่งอยู่ในเรือคายัคสำหรับคนเดียว
การท่องเที่ยวเชิงธรรมาติดำเนินการไปด้วยดี แต่ใครจะคิดเมื่อกลุ่มทัวร์กลับมาเจอกับฝูงฮิปโปเกือบโหล ในตอนแรกพวกเขาไม่ได้ตื่นตระหนกเพราะอยู่ในระยะที่ปลอดภัย ซึ่งพอลพยายามหลีกเลี่ยงฮิปโป โดยเขาจะพายเรือแคนูนำไปก่อน แล้วให้เรือลำอื่น ๆ พายตามมา แต่เรือแคนูลำที่ 3 ถอยออกจากกลุ่มและออกนอกเส้นทางที่วางแผนไว้ พอลไม่แน่ใจว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร
พร้อมกล่าวว่า “ทันใดนั้นก็มีเสียงดังตุ๊บ และผมเห็นเรือแคนูพุ่งขึ้นไปในอากาศ และอีแวนส์ ไกด์ฝึกหัดที่อยู่ท้ายเรือแคนูก็พุ่งออกจากเรือแคนู อีแวนส์อยู่ในน้ำ และกระแสน้ำพัดอีแวนส์ไปทางแม่ฮิปโปและลูกของมันห่างออกไป 150 เมตร ดังนั้น ผมต้องพาเขาขึ้นจากน้ำโดยเร็ว” จึงตะโกนบอกเบ็น ไกด์อีกคนให้ไปช่วยลูกค้าที่อยู่บนเรือลำที่ 3 ซึ่งเบ็นพาลูกค้าไปยังที่ปลอดภัยบนก้อนหินกลางแม่น้ำที่ฮิปโปปีนขึ้นไปไม่ได้
ส่วนพอลพายไปหาอีแวนส์ วางแผนที่จะดึงเขาขึ้นบนเรือให้เร็วที่สุด แต่ดันเกิดเรื่องไม่คาดคิด “ผมกำลังพายเรือไปหาเขา ผมเห็นเกลียวคลื่นพุ่งเข้ามาหาผม ผมรู้ว่ามันเป็นฮิปโปหรือจระเข้ขนาดใหญ่จริง ๆ ที่กำลังมาหาผม”
“หากผมตบไม้พายลงบนน้ำ นั่นจะดังมาก และการเคาะใต้น้ำดูเหมือนจะทำให้สัตว์เบี่ยงเบนความสนใจ ดังนั้น ผมจึงตบน้ำ และคลื่นก็หยุดลง จากนั้น ผมเอนตัวไปอีแวนส์เอื้อมมือขึ้น นิ้วของเราเกือบจะแตะกัน แล้วก็เกิดคลื่นน้ำระหว่างเราก็ปะทุขึ้น เกิดขึ้นเร็วมากผมไม่เห็นอะไรเลย”
นาทีชีวิตโดนฮิปโปเขมือบ
พอลกล่าวว่า ต้องใช้เวลาสองสามวินาทีในการทำความเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น “โลกของผมมืดลงและเงียบสงบอย่างน่าประหลาด ตั้งแต่เอวลงไป ผมสัมผัสได้ถึงน้ำ ผมรู้สึกว่าตัวเองเปียกอยู่ในแม่น้ำ แต่ตั้งแต่เอวขึ้นไป มันแตกต่างออกไป ผมรู้สึกอุ่นและไม่ได้เปียกเหมือนเปียกน้ำ แต่ก็ไม่แห้งเช่นกัน และมีแรงกดทับที่หลังส่วนล่างของผม ผมพยายามขยับตัวแต่ก็ทำไม่ได้”
ทางพอลเดาว่า ขณะนี้เขากำลังอยู่ในปากของฮิปโป ซึ่งตัวเองอาจทิ่มคาลงไปตรงคอ คงทำให้ฮิปโปอึดอัดและพ่นพอลออกมา พอลจึงพุ่งขึ้นไปบนผิวน้ำ สูดอากาศบริสุทธิ์เต็มปอด และเผชิญหน้ากับอีแวนส์อีกครั้งพร้อมกล่าวว่า “เราต้องออกไปจากที่นี่”
แต่พอลดันถูกฮิปโปจู่โจมอีกครั้ง สิ่งที่ต่างไปจากเดิมคือตอนนี้เขาถูกฮิปโปกลืนตั้งแต่ช่วงเอวลงไป โดยส่วนแขนเป็นอิสระ ซึ่งฮิปโปตัวผู้ที่แก่และก้าวร้าวหว่าตัวแรกก็คายพอลออกมาเช่นกัน เมื่อขึ้นมาบนผิวน้ำได้ พอลมองไปรอบ ๆ ก็ไม่พบวี่แววของอีแวนส์ เขาคิดว่าอีกฝ่ายคงได้รับการช่วยเหลือแล้ว จึงพยายามจะหาทางหนี
ขณะที่พอลกำลังว่ายน้ำออกไปจากจุดนั้น เมื่อมองใต้วงแขนกลับเห็นฮิปโปพุ่งเข้ามาหาพร้อมอ้าปากกว้าง โดยรอบนี้ศีรษะ ไหล่ และตัวของพอลติดอยู่ในปากของฮิปโป มีเพียงขา 1 ข้างที่ห้อยออกมา จากนั้นฮิปโปก็เริ่มแสดงความบ้าคลั่ง เริ่มสู้กัน พยายามจะแยกชิ้นส่วนและทำลายสิ่งที่มันโจมตีราวกับ
พอล คาดว่าการโจมตีทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 3 นาทีครึ่ง จากนั้น แมค ไกด์ฝึกหัดที่อยู่บนเรือคายักก็แสดงความกล้าหาญ ยอมเสี่ยงชีวิตนำเรือเข้ามาใกล้พอล ทำให้พอลคว้าเรือไว้ได้และพาไปยังหินกลางแม่น้ำ เมื่อขึ้นมาบนหินได้ พอลก็ถามถึงอีแวนส์ แต่แมคกลับตอบคำตอบสุดสลดว่า “เขาจากไปแล้วเพื่อน เขาเพิ่งจากเราไป” (ร่างของอีแวนส์ถูกพบในอีกสามวันต่อมา โดยมีแค่อาการจมน้ำและไม่มีร่องรอยของสัตว์ทำร้าย)
พอลมีอาการขยับแขนไม่ได้ แขนข้างหนึ่งตั้งแต่ข้อศอกลงมาถูกบดขยี้จนแหลกละเอียด หลังของเขามีรูเจาะทะลุถึงปอด “ความเจ็บปวดนั้นรุนแรงเกินกว่าที่ฉันจะจินตนาการได้ว่าจะทนได้ มันรุนแรงมาก” ซึ่งไม่ว่าจะมีอาการแย่แค่ไหน พอลกล่าวว่าพวกเขาต้องลงจากหินก้อนนั้น ซึ่งตนเองนั่งในเรือแคนู เบ็นพายเรือ ฮิปโปยังคงชนเรือแคนูตลอด
ทีมกู้ภัยซิมบับเวได้เข้าช่วยเหลือพอลและลูกทัวร์ได้อย่างปลอดภัย แต่เรื่องราวยังไม่จบลง เพราะพอลออกจากแม่น้ำ แต่ไม่ได้ออกจากป่า โดยใช้เวลาแปดชั่วโมงในการขับรถพาเขาไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด
ในช่วงเวลาหนึ่งเดือน พอลต้องเข้ารับการผ่าตัดใหญ่หลายครั้ง เขาคิดว่าจะสูญเสียขาข้างหนึ่งและแขนทั้งสองข้าง ศัลยแพทย์ไม่เพียงแต่ช่วยชีวิตพอลเท่านั้น แพทย์ยังช่วยชีวิตขาและแขนข้างหนึ่งของเขาด้วย ต่อมาพอลเข้ารับการบำบัดทางกายภาพและกิจกรรมบำบัดในซิมบับเว และอีกมากมายในสหราชอาณาจักร
ขอแนะนำหากเจอฮิปโป คือ หลีกเลี่ยงปัญหาตั้งแต่แรกอย่าเข้าใกล้ฮิปโปเป็นอันขาด ห้ามบุกรุกเข้าพื้นที่ของฮิปโป ซึ่งฮิปโปไม่สนใจผู้คนและไม่ใช่นักล่า แต่ควรอยู่ห่างจากฮิปโปให้มากที่สุด ซึ่งหากเข้าใกล้จนเกินไปจะควรสังเกตสัญญาณของฮิปโป เช่น ตัวที่กระสับกระส่ายจะอ้าปากกว้างและหาวเป็นการแสดงความก้าวร้าว รวมถึงการสั่นศีรษะและเสียงคำราม
ตามรายงาน หากโดนโจมตีมีโอกาสยากที่จะต่อส้ แต่ขออย่าย่อท้อและเฝ้าดูโอกาสที่จะหลบหนี มูรูธีกล่าวว่า “คุณสามารถลองจิ้มที่ตาหรือจุดที่อาจสร้างความเจ็บปวดอย่างคาดไม่ถึงได้”
ขอบคุณที่มาจาก CNN