วีระชัย หัตถโกวิท นักแสดงรุ่นเก๋ามากความสามารถ ที่วันนี้ขอควงภรรยาคู่ทุกข์คู่ยาก ป้อ น้ำค้าง ออกมาเปิดเผยชีวิตหลังตกอับ ไร้งาน ไร้เงิน จนต้องผันตัวเองไปเป็นพ่อค้าขายหมูสะเต๊ะประทังชีวิต ถึงขั้นต้องกู้เงินนอกระบบเพื่อยื้อสถานการณ์ครอบครัวเอาไว้ ยอมรับเคยคิดฆ่าตัวตายเพราะเครียดหนัก หนำซ้ำหวั่นบ้านโดนยึดเหตุไม่มีเงินจ่ายค่างวดมา 2 เดือนแล้ว ทุกประเด็นในรายการคุยแซ่บ Show ทางช่องOne31 ที่มี ธัญญ่า ธัญญาเรศ, หนิง ปณิตา และ อาจารย์เป็นหนึ่ง เป็นพิธีกร
ตอนนี้มีข่าวออกมาว่าพี่วีต้องผันอาชีพไปขายหมูสะเต๊ะแล้ว ?
วี : จริงๆ ก็ไม่ได้ผันหรอก ยังอยากจะเป็นนักแสดงอยู่ แต่ว่ามันไม่มีให้ทำก็เลยมีอาชีพเป็นพ่อค้า
อะไรคือประเด็นตกอับ ?
วี : ส่วนมากคนจะใช้คำแบบนี้กับคนที่มีอาการแบบนี้คือคำว่าตกอับ มันเป็นปากคน
สภาวะ ณ ปัจจุบันเราใช้คำนี้ได้ไหม ?
วี : ก็น่าจะใช่นะ ผมไม่ได้คิดมาก เฉยๆ ตกอับก็คือตกอับ ผมก็ยังทำมาหากินอยู่
แล้วงานในวงการที่เริ่มน้อยลงเยอะๆ เริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ ?
วี : ประมาณปีครึ่ง มันมีละครถ่ายอยู่ปีครึ่ง ก็ถ่ายอยู่อย่างนั้นปีครึ่ง ไม่มีละครใหม่เข้ามาแทรกเลย
หมายถึงว่าละครเรื่องเก่าที่ถ่ายยังไม่จบ ?
วี : จบละ เพิ่งจบ
แต่ว่าในระยะเวลาปีครึ่งไม่ได้มีงานอะไรเข้ามานอกจากงานละครเรื่องนั้นเรื่องเดียว ?
วี : ใช่
พี่วีอยู่ในวงการมานาน รู้จักกับผู้จัดแต่ละค่าย ได้มีโทรหาผู้จัดบ้างไหม ?
วี : ก็โทรหาน้องๆ ที่เป็นทีมงาน ว่าทำไมมันเงียบๆ เขาก็บอกว่าไปหาอย่างอื่นทำก่อนเลย
ได้มีการติดต่อตรงไปทางผู้จัด เจ้าของค่ายบ้างหรือยัง ?
วี : ส่วนมากพี่ก็จะสนิทกับทุกคนเลย สนิทกับเจ้าของค่ายด้วย เขาก็รู้ด้วยนะ เขาก็บอกว่าเสนอไปแล้วไม่รู้จะโดนเด้งหรือเปล่านะ
แล้วพี่วีเคยกลับมาวิเคราะห์ไหมว่าเป็นเพราะอะไร ?
วี : ไม่รู้นะ เป็นเพราะดวงมากกว่า แต่ตามที่พี่วิเคราะห์ตัวเอง พี่ยืนยันได้เลยว่าจะไม่มีวันตกงาน ไม่ได้คิดว่าตัวเองเก่ง แต่คิดว่าตัวเองเป็นคนมีระเบียบ ทำการบ้าน ตรงต่อเวลา ทำทุกอย่างเป๊ะๆ ตามที่ผู้กำกับบอก
พอมาเป็นแบบนี้แล้วพี่คิดว่าเป็นที่เรื่องดวงเรื่องเดียวเลยไหม ?
วี : มันอาจจะไม่ใช่ดวงเราอย่างเดียว อาจจะเป็นที่ดวงเมืองด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้
ภรรยาก็ขายของมาหลายอย่างเหมือนกัน ?
ป้อ : ขายอาหารตามสั่ง ล่าสุดเป็นหมูสะเต๊ะ ก่อนหน้านั้นก็เป็นไข่กะทะ อาหารเช้า
ทุกอย่างที่เราทำตอนนี้ทำแล้วปิดกิจการหรือว่าตอนนี้ยังทำอยู่ ?
วี : ก่อนหน้านั้นไปอยู่ที่ระยอง ไปช่วยเพื่อนเขาทำร้านอาหารที่ระยอง แล้วเขามีเวลาว่างมาก ตอนเช้าตื่นมาทำน้ำเต้าหู้ขายดีกว่า เพราะกว่าจะเข้างานประมาณบ่าย ตอนแรกเขาไปขายน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋
แล้วเป็นยังไงบ้าง ?
ป้อ : ขายได้วันละ 200 กว่าบาท 3 ชั่วโมง 200 กว่าบาท ซึ่งตอนนั้นก็ดีเพราะตอนนั้นเรายังไม่มีหนี้อะไร เพราะ 200 กว่าบาทเราทำแค่ช่วงเช้า แต่เราทำเป็นผู้จัดการร้านตอนเย็น เราจะได้อีกก้อนนึงเป็นเงินเดือน เราคิดว่าถ้าวันละ 200 เดือนนึงก็ 6,000 หักทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เราคิดว่ามาผสมกับเงินเดือนของเราได้
เราใช้ว่าเราทำมาแทบทุกอย่างแล้วได้ไหม ?
ป้อ : ทุกอย่าง หลายอย่าง ซักรีดก็แล้ว ทำงานบริษัทก็ได้
แล้วหมูสะเต๊ะตั้งแต่ทำมากี่วัน กี่เดือนแล้ว ?
ป้อ : 6-7 เดือนได้
ยอดขายดีไหม ?
ป้อ : ไม่ดี ไม่ถึง 2,000 ยังไม่ได้หักต้นทุน เต็มที่ก็ประมาณ 1300
วี : จริงๆ ต้อง 500 ไม้ขึ้น แต่บางวันก็ได้แค่ 20 ไม้
อย่างนี้ของสดเราก็ต้องซื้อมาหมักมาเก็บไว้ พอขายไม่ได้ก็กลายเป็นต้องเสียทิ้งไป ?
ป้อ : พวกหนูจะเอามาทำกิน
วี : ผมกินหมูสะเต๊ะทุกวันเลย หมูสะเต๊ะผัดกะเพราบ้าง หมูสะเต๊ะผัดเครื่องแกงบ้าง
ค่าใช้จ่ายแต่ละเดือนเท่าไหร่ ?
วี : เพิ่งมาซื้อบ้านด้วย ที่หนักสุดน่าจะเป็นบ้าน
แล้วการผ่อนชำระมีปัญหาไหม ?
วี : มีครับ 2 เดือนแล้วยังไม่ได้จ่ายเขาเลย
เครียดหนักขนาดไหน ?
วี : ไม่รู้จะพูดยังไง ผมมองบ้าน เอ๊ะ มันจะใช่บ้านที่เราจะอยู่ไหม มันคิดไม่ออก
เดือนนึงต้องผ่อนเท่าไหร่ ?
วี : หมื่นกว่าบาท เราไม่ได้ดาวน์ด้วย เดือนนึงเราใส่เต็มๆ เลย ผ่อนธนาคารเต็มๆ เลย
รักบ้านหลังนี้มากใช่ไหม กลัวไหมถ้าวันนึงถ้าไม่ไหวจริงๆ แล้วอาจจะต้องปล่อย ?
ป้อ : ก็กลัวค่ะ
วี : ผมเครียดมากตอนแรก ผมพยายามดิ้นๆ เพื่อจะเอามาจ่ายค่าบ้าน เขาบอกว่าอย่าให้มันค้างเดือนนะ เดี๋ยวดอกมันจะขึ้น เราก็พยายาม จนเดือนที่ผ่านมาไมรู้จะไปเอาตรงไหน ไม่รู้จะพยายามยังไงแล้ว เดือนที่ผ่านมานี่ผมก็ช่างมัน ถ้าไม่ใช่บ้านเราก็ไม่ต้องอยู่
เห็นว่าค่าไฟก็ยังไม่ได้จ่าย ?
วี : ใช่
อย่างมารายการวันนี้พี่วีกับคุณป้อมีเงินเหลืออยู่เท่าไหร่ บอกได้ไหมคะ ?
วี : มีเหลืออยู่ 3,000 กว่าบาท
3,000 นี้ถือว่าน้อยสุดในชีวิตไหม ?
วี : ถ้าจะเทียบกับเมื่อก่อน เมื่อก่อนน้อยกว่านี้ แต่พี่ไม่ได้คิดมากไง ชีวิตมันไปเรื่อยๆ เปื่อยๆ สมัยที่ไม่ได้เก็บตังค์ ซักพักเดี๋ยวก็มีตังค์เข้ามา ถ้ามีละครเรียกพี่ไปถ่ายทำแล้วเมื่อไหร่พี่จะได้ตังค์ แล้วบ้านนี้จะอยู่กับพี่ไหม สงสัยไม่ได้อยู่แล้วมั้ง
แต่ทราบข่าวว่าพี่ไม่มีถึงขั้นกู้นอกระบบจริงไหม ?
วี : พี่ไม่ได้ทำ พยายามจะไม่ทำ
ป้อ : หนูทำเอง หนูแอบทำ
กู้มาเยอะไหม ?
ป้อ : ก็ประมาณเกือบ 5 หมื่น 6 หมื่น ดอกร้อยละ 20 วันนึงก็จ่ายประมาณพันกว่าบาท บางทีเราไม่มีจ่ายเต็ม
แล้วที่เห็นตามข่าวกลัวไหม ?
ป้อ : กลัว แต่อันนี้เพื่อนแนะนำมา
ตอนนั้นกู้เอาไปทำอะไร ?
ป้อ : ก็กู้มาจ่ายในส่วนที่ลงทุนด้วยนิดหน่อย บางทีเราก็ไม่อยากขอเขาก็ไปจัดการเอง มันก็สะสมๆมา
แสดงว่าพี่วีไม่รู้เรื่อง ?
ป้อ : ไม่รู้ พี่วีรู้เรื่องก็โกรธ ทะเลาะกันด้วย
วี : ผมไม่รู้ ผมโกรธมากเลย ผมไม่ชอบ
แต่พี่วีเข้าใจในเจตนาของภรรยาว่ามันไม่รู้จะทำยังไงแล้ว ?
ป้อ : ก็เราขอเขา แล้วเขาไม่มีเราก็ไม่รู้จะทำยังไง หนูไปยืมเพื่อนถึงเวลาคืนไม่รู้จะเอาที่ไหนคืนก็ต้องไปกู้มาให้เขา
วี : ก็มันไม่มีจริงๆ ไม่รู้จะไปเอาที่ไหน
ทุกครั้งที่ทะเลาะลูกสาวรับรู้ตลอด ?
ป้อ : รับรู้มันอยู่บ้านเดียวกัน ตอนนี้ลูกอายุจะ 15 แล้วค่ะ จะขึ้น ม.4
เรื่องกู้นอกระบบเป็นเรื่องที่ทะเลาะกันแรงในชีวิตคู่ ?
ป้อ : ใช่ เพราะว่าแกไม่ชอบเรื่องพวกนี้ด้วย
วี : พี่ไม่ชอบ พี่มีความรู้สึกมันเหนื่อย บางวันเขาขายของ เขาแทบจะไม่มีเงินมาจุนเจือบ้านเลย ทำไปก็หมด เหนื่อย ไม่รู้ไปเอามาทำไม ไม่ยอมอดตายแต่แรก จะได้ไม่ต้องเหนื่อยขนาดนี้
เห็นว่ามีอยู่วันหนึ่งบอกคุณแม่ว่าอยากทานแซลมอน แล้วไม่สามารถให้เขาทานได้ ?
วี : จริงๆมันก็ไม่สมควรทานหรอก ช่วงจังหวะนี้ แต่เขาเป็นคนสปอยลูก แต่ผมตรงไปตรงมา พอเขาชวนว่าพ่อกินไหม ผมบอกไม่กิน ให้ลูกกิน พ่อกินอะไรก็ได้
ป้อ : เขากลัวพ่อเขา เพราะพ่อเขาชอบพูดว่าต้องประหยัดนะ แต่เราเคยไม่มี ถึงเวลาที่เรามีหนูเคยให้ลูกกินแบบไม่ต้องเมนูเลย อยากกินอะไรกินเลย กี่อย่างกี่บาทก็ได้ แม่จ่ายให้หมด แต่ในสถานการณ์แบบนี้เราก็บอกว่าเดี๋ยวค่อยกินนะ เดี๋ยวแม่ค่อยหาให้
เคยกอดกันร้องไห้บ้างไหม ?
ป้อ : ไม่เคยกอดกันร้องไห้ ร้องไห้คนเดียวในห้องน้ำ
ทำไมเราไม่คิดจะกอดสามีทุกครั้งที่เราท้อ มันเกิดอะไรขึ้น ?
วี : ไม่เลย เขาไม่เคยเลย เขาไม่เคยทำอะไรให้ผมเลย พี่ทำได้ทุกอย่าง ซักผ้า ทำกับข้าว กวาดบ้าน ทถกวันนี้พี่ก็ยังเป็นคนทำ เพราะพี่ไม่อยากอยู่เฉยๆ
ตอนนี้สถานการณ์หลายๆอย่างมันตึงเครียดจนพี่บอกว่าพี่ไม่อยากอยู่บนโลกใบนี้ ?
วี : มันเป็นแว้บนึง พี่ก็นึกถึงคนที่เขามีปัญหาแล้วก็จากไปด้วยวิธีนี้ เป็นเพราะว่าเขาไม่ได้พูดกับคนอื่น หรือไม่เขาก็พูดกับคนอื่นแล้วแต่คนอื่นบอกเรื่องของคุณ คุณสร้างขึ้นมาเอง คุณต้องแก้ด้วยตัวเอง อ้าวแล้วผมจะมาปรึกษาคุณเพื่ออะไร แล้วคนพวกนั้นเขาก็ต้องตัดสินใจว่าอย่าอยู่เลยดีกว่า มันก็เป็นช่วงแว้บนึงหรือว่าเราอย่าอยู่เลย
แล้วเวลาพี่แว้บขึ้นมาในหัว อะไรที่พี่ตัดสินใจสู้ต่อ ไม่ทำ ในสิ่งที่มันแว้บเข้ามาในหัว ?
วี : คือมันไม่มีประโยชน์ที่เราจะต้องไปทำอย่างนั้น ถ้าเราทำไปเท่ากับเราหนีปัญหาของตัวเอง เหมือนมีชีวิตอยู่แล้วก็ทิ้ง
ด้านภรรยาเคยคิดฆ่าตัวตายไหมคะ ?
ป้อ : ไม่เคยคิดค่ะ
แล้วตั้งแต่มีข่าวออกมา หมูสะเต๊ะที่เราขายอยู่มันดีขึ้นบ้างไหม ?
วี : มันดีขึ้นหน่อยเดียวเอง ดีขึ้นเป็นบางจังหวะ ซักอาทิตย์ สองอาทิตย์
ป้อ : จะขายดีวันที่มีแฟนคลับ มีพี่ๆเข้ามาอุดหนุน
นอกจากการขายหมูสะเต๊ะพี่มีแพลนยังไงต่อ ?
ป้อ : รับงานตามบ้านที่เขาจะให้ไปติดตั้ง
วี : มีเพื่อนที่เป็นเพื่อนบ้านในหมู่บ้าน เขาบอกว่าเขาเคยเห็นเราทำโน่นทำนี่ได้ เขาบอกว่าบ้านนี้จะทำไฟนะ ทำประปานะ พี่ไปทำหน่อยไหม ผมก็ไปนะ 300 200 500 เขาก็ขอถ่ายรูป
มันจะเกิดคำถามสังคมเกิดขึ้นว่า ณ วันที่ดังมีชื่อเสียง เอาเงินไปไหนหมด ?
วี : ตอนนั้นผมก็เหลวไหลนิดๆ มีเพื่อนฝูงเยอะ ตัวเองก็ไม่ได้คิดจะทำอะไรเลย ทำงานเสร็จก็ไปเที่ยว ไม่ได้คิดจะเก็บตังค์ พอมีลูกก็เริ่มเก็บ แต่เก็บไม่ได้แล้ว เพราะมีลูกก็ 47 แล้ว
แสดงว่าก่อนหน้านี้ที่ทำงานวงการบันเทิงพี่รายได้เยอะ ?
วี : มันก็ไม่เยอะนะ แต่งานมันเยอะ
แล้วถ้าเริ่มเก็บตั้งแต่วันนั้น วันนี้จะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมั้ย ?
วี : พี่ว่าไม่น่านะ ไม่น่าจะมีถ้าเก็บนะ ก็ยังมีเงินเหลืออีกเยอะเลย แต่เราก็ไม่ได้รู้สึกเสียดายนะที่เราไปกับเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ มันเป็นความสุขตอนนั้น ก็หมดไปกับกินเที่ยว
พอมันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นพี่วีมีอะไรอยากจะบอกน้องๆในวงการไหม ที่อาจจะกำลังหลงระเริงกับเงินที่มันได้มาง่ายๆ ?
วี : ถ้าเกิดน้องๆนั่งดูพี่อยู่ตอนนี้ น้องๆควรจะรู้แล้วว่า ปัญหามันต้องเกิดขึ้นแน่นอน ถ้าไม่รู้จักแพลนตัวเองให้ดี ไม่รู้จักเก็บ คิดว่าตัวเองจะต้องมีงานมีเงินอยู่ตลอดเวลา ซักวันหนึ่งคุณอาจจะเจอแบบผม แล้วมันก็ไม่มี ทั้งๆที่คิดว่าตัวเองเจ๋งตัวเองดีแล้วนะ อยู่ดีๆมันไม่มี เป็นตัวอย่างอีกตัวอย่างหนึ่งที่ควรจะต้องเก็บเงิน เท่าที่รู้น้องๆสมัยนี้เขามีวิชาความรู้ เขาเก่งกัน
ให้อาจารย์แนวทางดวงซักนิด ?
เป็นหนึ่ง : เท่าที่ฟังมาพี่ๆทั้ง 2 คนเป็นคนขยันอยู่แล้ว แต่เรื่องความเชื่ออย่างน้อยฟังไว้เพื่อความสบายใจ พี่วีเป็นคนเกิดปีขาลโดยเฉพาะที่เราได้ข้อมูลมา จริงๆแล้วของพี่เองตกมาประมาณ 3-4 ปีแล้ว มันเป็นช่วงขาลง อาจารย์ไม่ทายอะไรมาก แต่มีวิธีแก้ให้ ทำเพื่อความสบายใจ ไป 4 ที่นี้ให้ได้ 1.ไปเดินผ่านประตูมังกร ที่วัดโพธิ์จะมีประตูมังกรอยู่ 1 ประตู ไปเดินผ่านให้ได้ หลังจากนั้นมาที่วัดซำปอกง ก็มีประตูมังกรเหมือนกัน แล้วก็มาวัดอรุณฯไปรอดพระแท่น 2 จุด ในวัดอรุณฯ 4 ที่นี้ถ้าพี่ทำพี่มีโอกาสหลุดจากทุกสิ่งที่เป็นวิบากกรรมเป็นเคราะห์ต่างๆ
ติดตามชมรายการคุยแซ่บ Show ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama