ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการแชร์รูปภาพความสวยงามของแสงออโรร่ามากมายในหลายพื้นที่ทั่วโลก และอย่างที่ทราบกันดีว่า แสงออโรร่า จริงๆ แล้วนั้นขึ้นชื่อว่าหาดูยากมากๆ ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้เห็น แต่น่าแปลกที่ทำให้ช่วงนี้ถึงมีให้เราเห็นง่ายๆ ในหลายที่
วันนี้ Sanook เลยชวนมาหาคำตอบว่า ปรากฎการณ์แสงออโรร่าที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ เกิดจากอะไร แล้วมีความพิเศษกว่าแสงออโรร่าปกติอย่างไร
แสงออโรร่า คืออะไร?
แสงออโรร่า หรือที่รู้จักกันในชื่อ “แสงเหนือ แสงใต้” เป็นแสงที่เกิดจากปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่ทำให้ท้องฟ้าเกิดเป็นประกายหลากหลายสี ไม่ว่าจะ สีฟ้า แดง เหลือง เขียว และส้ม โดยจะมีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างและสีไปเรื่อย ๆ มองเผินๆ ดูคล้ายกับม่าน
ปรากฎการณ์ความสวยงามของแสงออโรร่านี้ ปกติจะพบในตอนกลางคืน ในบริเวณพื้นที่วงกลมอาร์กติก (Arctic Circles) และ วงกลมแอนตาร์กติก (Antarctic Circles)
ทำไมครั้งนี้จึงพิเศษกว่าครั้งไหน ๆ
สำหรับสาเหตุที่นักดาราศาสตร์และผู้คนทั่วโลกตื่นเต้นกับปรากฎการณ์แสงออโรร่าครั้งนี้ เนื่องจากแสงออโรราที่เกิดขึ้นในครั้งนี้มีสาเหตุมาจาก “พายุสุริยะ” ที่เกิดในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งปรากฎการณ์นี้เป็นปรากฎการณ์ทางดาราศาสตร์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย โดยมีรายงานว่าพายุชนิดนี้เกิดล่าสุดในเดือนตุลาคม ปี 2003
นอกจากนี้รายงานจาก NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ เตือนว่า “พายุสุริยะ” ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เป็นพายุที่รุนแรงที่สุดในรอบหลายปี ซึ่งอาจส่งผลต่อระบบดาวเทียม ด้วยเหตุนี้ทั่วโลกจึงมีการติดตามเรื่องนี้กันอย่างเข้มข้น
- “พายุสุริยะ” ใหญ่สุดรอบ 20 ปี มาเยือนโลก หลายประเทศพบความผิดปกติบนท้องฟ้า
พายุสุริยะกับแสงออโรร่า
มาถึงตรงนี้หลายคนอาจเริ่มสงสัยว่าแล้วการเกิดพายุไปทำให้เกิดแสงออโรร่าอย่างไร หากให้อธิบายง่ายๆ คือ โดยปกติแล้ว แสงออโรร่า จะเกิดขึ้นมาจากกิจกรรมของดวงอาทิตย์ เช่น การปะทุที่ผิวดวงอาทิตย์ วัฏจักรของดวงอาทิตย์ การที่ดวงอาทิตย์หมุนรอบตัวเอง รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงของสนามแม่เหล็กเนื่องจากลมสุริยะ
ดังนั้นการเกิด “พายุสุริยะ” ในครั้งนี้ก็เหมือนกับการมี “ลมสุริยะ” ที่เร็วขึ้น ส่งผลให้สนามแม่เหล็กเปลี่ยนแปลงไปด้วย ซึ่งส่งผลให้ออโรร่ามีพลังมากขึ้น ทำให้ทั่วโลกเห็นแสงนี้ได้สว่างชัดขึ้นมากกว่าเดิม ในหลายพื้นที่
“แสงออโรร่า” อันตรายกับมนุษย์หรือไม่
คล้ายกับผลกระทบของพายุสุริยะ แสงออโรร่านั้นไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ในทางร่างกายโดยตรง แต่ประจุไฟฟ้าที่เกิดขึ้นอาจส่งผลต่อเทคโนโลยีต่างๆ เช่น รบกวนสายส่งไฟฟ้า, การสื่อสาร และระบบนำร่องด้วยดาวเทียม เป็นต้น
ล่าสุดวันนี้ มีรายงานว่าอาจเกิดพายุสุริยะอีกครั้งในวันที่ 13 พ.ค. 2567 ตามเวลาสากล ซึ่งจะมีความรุนแรงน้อยกว่าพายุสุริยะที่เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทำให้มีข่าวดีว่าเราอาจได้เห็นแสงออโรร่าปรากฏขึ้นไกลถึงนิวยอร์ก ตอนเหนือรัฐไอโอวา และรัฐวอชิงตัน