ทวี สอดส่อง ยกย่องมหาวิทยาลัยฟาฏอนี นวัตกรรมการศึกษา ทรงคุณค่า ชี้ผศ.ดร.ลุตฟี จะปะกียา ได้สร้างม.เอกชนแห่งแรกที่สอนในแบบอิสลาม
วันที่ 15 พ.ย.2565 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรคประชาชาติ ได้บรรยายนักศึกษามหาวิทยาลัยฟาฏอนีจำนวนกว่า 500 คน ที่มาเข้าร่วมกิจกรรม FTU INNOVATION CONTEST ‘นักศึกษา นักสร้างนวัตกรรม’ ที่ห้องประชุมอาคารเรียนรวมเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยฟาฏอนี จ.ปัตตานี ซึ่งจัดขึ้นโดยองค์การบริหารนักศึกษา มหาวิทยาลัยฟาฏอนี
พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า อยากให้นักศึกษานึกถึงนวัตกรรมทางการศึกษา อาจจะเรียกว่าเป็นการดิ้นรนของพี่น้องคนมลายูที่ต้องการมีการศึกษาที่สอดคล้องกับศาสนาและอัตลักษณ์ ต้องดิ้นรนไปเรียนถึงต่างประเทศ เมื่อปี 2541 ท่าน ผศ.ดร.ลุตฟี จะปะกียา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งนี้ เป็นตัวอย่างหนึ่งของความคิดนวัตกรรม ได้สร้างมหาวิทยาลัยอิสลามยะลา เป็นมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งแรกที่สอนในแบบอิสลาม และหลักศาสนาเป็นแกนในการสอน
นวัตกรรมคือความคิดสิ่งใหม่และมีคุณค่าดี ปี 2556 สมัยที่ผมเป็นเลขาธิการ ศอ.บต. มหาวิทยาลัยแห่งนี้ได้เปลี่ยนเป็นมหาวิทยาลัยฟาฏอนี ซึ่งเป็นชื่อที่มีคุณค่า ที่มีคุณค่ามากกว่านั้นคือการจัดอันดับเว็บไซต์มหาวิทยาลัยมีผู้เข้าชมติดอันท็อปเท็น และมีคุณภาพการศึกษาที่เป็นที่ยอมรับในระดับโลก นี่คือนวัตกรรมและเป็นสิ่งที่ดีงาม วันนี้จึงถือว่าพวกเรามาอยู่ในนวัตกรรมของผู้สร้างนวัตกรรม นั่นคือ ผศ.ดร.ลุตฟี จะปะกียา
ส่วนนวัตกรรมทางการเมือง พรรคประชาชาติ จะต้องเอาปัญหาความต้องการของประชาชนมาแข่ง ที่ผ่านมาคนสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่มีพื้นที่ที่จะเข้าไปสู่อำนาจ เรามีพื้นที่ทรัพยากรมาก แต่ไม่มีพื้นที่ทางการเมือง พรรคประชาชาติต้องเป็นพรรคของพวกเราทุกคน ประชาชาติต้องเป็นสถาบันของลูกหลานเราทุกคน จังหวัดปัตตานีเป็นจังหวัดที่ยากจนที่สุด เป็นไปได้อย่างไรทั้งที่เรามีทรัพยากร มีทะเลทั้งอ่าวไทยและอันดามัน มีทรัพยากรประมง มีทรัพยากรธรรมชาติครบทุกอย่าง แต่ทำไมปัตตานีถึงยังยากจน
การแก้ปัญหาเราไม่ต้องการแบบสงเคราะห์ แต่เราต้องการโอกาส โอกาสคือการมีพรรคการเมือง พรรคประชาชาติจึงเป็นนวัตกรรมหนึ่งที่เป็นประชาธิปไตย ที่ส่งเสริมพหุวัฒนธรรมและความหลากหลายในพื้นที่ แต่ความหลากหลายนี้ต้องมีเอกภาพ มีพลัง เพราะความหลากหลายคือสิ่งที่สวยงาม
พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรีบอกว่า ดอกไม้หลากสีถ้าอยู่ในแจกันก็มีความสวยงาม นวัตกรรมที่พรรคประชาชาติต้องเร่งทำคือให้หลุดพ้นจากความเหลื่อมล้ำและความยากจน ต้องทำให้คนเท่ากับคนต้องมีความเสมอภาค ทั้งด้านการศึกษาและการประกอบอาชีพ พรรคประชาชาติจะเป็นนวัตกรรมใหม่ที่เรารู้วิธีการแก้ปัญหา
ประเทศไทยถูกจัดอันดับว่าเป็นประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำมากที่สุดในโลก โดยเฉพาะอาชีพเกษตรกร และความเหลื่อมล้ำการศึกษา โรงเรียนของรัฐได้รับสนับสนุน 55,000 บาทต่อคนต่อปี แต่โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาสนับสนุนแค่ 13,000 บาท ถ้าเป็นโรงเรียนมูลนิธิก็ 14,000 บาท นี่คือความเหลื่อมล้ำที่ใกล้ตัวที่สุด
ทั้งที่โรงเรียนเอกชนก็คือการดิ้นรนเพื่อจะหลุดพ้นจากความยากจน และเรียนศาสนาเพื่อสอนให้มีศีลธรรม แต่ครูสอนศาสนากลับไม่มีค่าตอบแทน ผศ.ดร.ลุตฟี จึงสร้างนวัตกรรมให้ดูเป็นตัวอย่าง แต่พรรคประชาชาติต้องเอาภาระของประชาชนไม่ว่าจะเป็นเรื่องการศึกษา ความยากจน หนีไม่พ้นเราต้องสร้างรัฐสวัสดิการ