เรื่องของความเชื่อและความศรัทธาอยู่คู่กับคนไทยมายาวนานจนไม่เคยแยกออกจากกัน โดยเข้ามามีบทบาทในการตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่ลืมตาตื่นจนกลับไปเข้านอนอีกรอบ ทั้งการใส่เสื้อผ้าสีมงคล การถือฤกษ์งามยามดี เบอร์โทรศัพท์เลขมงคล การไหว้พระขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ การเข้าวัดทำบุญ ไสยศาสตร์ เครื่องรางของขลัง รวมไปถึงการดูดวงชะตา เราจะเห็นว่าผู้คนทุกเพศทุกวัยต่างก็มีความเชื่อและความศรัทธาในเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นอย่างน้อย จนกลายเป็นการพยายามเสาะแสวงหาที่พึ่งทางใจ การกราบไหว้บนบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อขอพรให้สมปรารถนา และเรียกตัวเองว่าเป็น “สายมู”
ด้วยพลังศรัทธาของผู้คนที่พยายามตระเวนและเสาะแสวงหาเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ที่ได้ชื่อว่า “ศักดิ์สิทธิ์” ทำให้ในพื้นที่นั้น ๆ กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีผู้คนหลั่งไหลไปเยี่ยมชม เกิดเป็นกระแสในการเดินทาง ไม่เพียงแต่คนไทยเท่านั้น เพราะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มีความเชื่อในเรื่องลักษณะเดียวกันก็พากันเดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยเพื่อไปเยือนสถานที่ท่องเที่ยวสายมูชื่อดัง โดยเฉพาะคนจีน ยิ่งทำให้ธุรกิจสายมูมีแนวโน้มเติบโตมากยิ่งขึ้นอย่างก้าวกระโดด ปัจจุบัน การท่องเที่ยวสายมูสร้างเม็ดเงินให้กับประเทศชาติเป็นจำนวนมหาศาล จึงอาจมีส่วนผลักดันเศรษฐกิจไทยให้เติบโตได้ดีขึ้นในอนาคต
เนื่องจากเศรษฐกิจสายมูกำลังเป็นประเด็นที่น่าสนใจ ดังที่เราได้เห็นปรากฏการณ์มูเตลูที่เกิดจากความเชื่อ ความศรัทธาในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ที่มาในรูปของเครื่องรางของขลัง ยังรวมไปถึงการไหว้ขอพร ขอโชคลาภต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามวัด หรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ตามศาสนาที่มีเสียงร่ำลือ เมื่อมีการบอกต่อกันปากต่อปากว่า “ศักดิ์สิทธิ์” “ขลัง” หรือ “ขอแล้วได้” คนก็จะแห่กันไปสักการบูชา เกิดเป็นการท่องเที่ยว “มูเตลู” ที่กำลังเป็นกระแสในหมู่คนไทยด้วยกันเองและกำลังได้รับความสนใจในตลาดโลก
การท่องเที่ยวมูเตลู สร้างรายได้เข้าประเทศไทยมหาศาล
การท่องเที่ยวเชิงความเชื่อและความศรัทธา กำลังได้รับความนิยมไปทั่วโลก ในประเทศไทยเรียกการท่องเที่ยวลักษณะนี้ว่า “มูเตลู” อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยมีศักยภาพในการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวสายมู และได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเชิงความเชื่อและความศรัทธา ด้วยไทยเรามีวัฒนธรรมที่โดดเด่น อีกทั้งยังสามารถไปถึงเชื่อมโยงไปถึงอัตลักษณ์ ความเชื่อของท้องถิ่นอื่น ๆ ที่ตอบโจทย์การท่องเที่ยวเชิงความเชื่อและความศรัทธาได้เป็นอย่างดี โดย 5 ประเทศที่มีนักท่องเที่ยวที่นิยมเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเที่ยวเชิงความเชื่อมากที่สุด ได้แก่ จีน สิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง และอินเดีย
จากความเชื่อ ความศรัทธาของคนไทย ไม่ว่าจะเป็นความชื่นชอบศาสตร์เร้นลับ การดูดวง ความเชื่อเรื่องการบนบานศาลกล่าว การทำบุญ การไหว้พระขอพร บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ธุรกิจเครื่องรางของขลัง หรือปฏิบัติตามเคล็ดลับสารพัดวิธีตามที่ได้ยินได้ฟังโดยการบอกต่อ ๆ กันมาเพื่อหวังเสริมดวงชะตาให้ดีขึ้น จริง ๆ สิ่งเหล่านี้มีรากฐานมาแต่โบราณ ทั้งวัฒนธรรม ศิลปะ และโบราณวัตถุ ซึ่งเมื่อนำมาเชื่อมโยงเข้ากับความเชื่อในท้องถิ่น ก็ได้กลายเป็น “ธุรกิจมูเตลู” ในพื้นที่นั้น ๆ ที่มาแรงแบบก้าวกระโดดในประเทศไทย และเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวในภูมิภาคต่าง ๆ ของไทยด้วย ซึ่งการท่องเที่ยวลักษณะนี้ สามารถนำรายได้เข้าประเทศไทยอย่างมหาศาลมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา
จากข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ (ก่อนสถานการณ์โควิด-19) พบว่าในปี 2562 การท่องเที่ยวเชิงแสวงบุญสามารถสร้างรายได้หมุนเวียนในระบบสูงสุดถึง 10,800 ล้านบาท ส่วนในช่วงปี 2563-2565 หรือ 3 ปีที่ผ่านมา การเติบโตของธุรกิจด้านความเชื่อ ส่วนใหญ่เป็นของคนไทย นอกนั้นมีการลงทุนจากจีน ร้อยละ 2.40 และฝรั่งเศส ร้อยละ 0.96
ข้อมูลกระทรวงพาณิชย์ พบว่า ปี 2563 จดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจ 11 ราย ทุนจดทะเบียน 7.59 ล้านบาท ปี 2564 จัดตั้งธุรกิจ 20 ราย เพิ่มขึ้น 9 ราย หรือร้อยละ 81.8 ทุนจดทะเบียน 13.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.82 ล้านบาท หรือร้อยละ 76.7 และปี 2565 จัดตั้งธุรกิจ 24 ราย เพิ่มขึ้น 4 ราย หรือร้อยละ 20 ทุนจดทะเบียน 27.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.04 ล้านบาท หรือร้อยละ 104.7
จากข้อมูลของ Future Market Insight 2023 พบว่าการท่องเที่ยวเชิงศรัทธามีแนวโน้มในการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยคาดว่าจะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจทั่วโลกเพิ่มขึ้น 3 เท่าภายใน 10 ปี จากมูลค่ากว่า 13.7 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2565 และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 40.9 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2576 จากการคาดการณ์ คาดมูลค่าการท่องเที่ยวสายมูจะเพิ่มขึ้นจากความถี่ในการเดินทาง และสถานที่ความเชื่อที่มีการค้นพบใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น ดังนั้น คาดว่ามูลค่าการท่องเที่ยวสายมูในปี 2566 จะเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 10-20 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 15,000 ล้านบาทได้เลยทีเดียว
เศรษฐกิจสายมูเติบโต ต่อยอดเป็นการท่องเที่ยวสายมู
สืบเนื่องจากเศรษฐกิจสายมูที่กำลังเติบโตไปในทิศทางที่ดี การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จึงได้เปิดตัวโครงการ “เสริมพลังบุญ หนุนพลังใจ” นำเสนอภายใต้แนวคิด “เปิดจักรวาลสายบุญ” เพื่อเปิดพื้นที่รวมตัวพลังสายบุญของเมืองไทยมาไว้ในงานเดียวกัน ผลักดันให้การท่องเที่ยวเชิงศรัทธาเป็นซอฟต์พาวเวอร์ (F-Faith) ตัวที่ 6 ของไทย มุ่งเน้นนำเสนอการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ที่มีคุณค่า และความหมายให้แก่นักท่องเที่ยว (Meaningful Travel) กระตุ้นให้เกิดการเดินทางโดยการดึงเส้นทางการท่องเที่ยวของในแต่ละภาคที่มีเสน่ห์และความน่าสนใจ ไม่ว่าจะสถานที่ท่องเที่ยว อาหาร วัฒนธรรม รวมไปถึงแหล่งความเชื่อต่าง ๆ พร้อมทั้งรวบรวมสินค้าท่องเที่ยวกลุ่มศรัทธาความเชื่อและภูมิปัญญาที่สะท้อนถึงอัตลักษณ์และเอกลักษณ์ของประเทศไทย
โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้จัดกิจกรรม “อะเมซิ่ง มูติเวิร์ส เปิดจักรวาลสายบุญ” วันที่ 30 มิ.ย. – 2 ก.ค. 66 ณ ลานสเเควร์ B หน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยงานดังกล่าวจะแบ่งออกเป็น 3 โซน คือ
โซน 12 เส้นทางท่องเที่ยวเสริมพลังบุญหนุนพลังใจทั้ง 5 ภูมิภาคของไทย ในรูปแบบของ E-book พบกับแลนด์มาร์กจำลองสิ่งศักดิ์สิทธิ์สักการะบูชาและเสริมสิริมงคล
โซนตลาดสายมู พบกับบูธหมอดูชื่อดังจากสมาคมโหราศาสตร์ ของศักดิ์สิทธิ์เสริมสิริมงคลกว่า 45 ร้านค้า และร้านค้า ร้านอาหารชื่อดังจาก 5 ภูมิภาคเข้าร่วมงาน
โซนกิจกรรมบนเวที สนุกสนานกับศิลปินชื่อดังของเมืองไทยได้แก่ ส้ม มารี, วง NO ONE ELSE, วง New Country พร้อมพบกับกิจกรรม Guru Talk เสริมสิริมงคลชีวิตให้ปัง กับอาจารย์หมอดูสุดฮอตแห่งปี ซินแสเป็นหนึ่ง ลายเซ็นพารวย อาจารย์ต๊อกแต๊ก A4 หมอดูเงินล้าน และอาจารย์ไวท์เปิดดวง หมอดูโอปป้า
นอกจากนี้ ผู้ร่วมงานที่ซื้อสินค้าครบทุก 500 บาท สามารถลุ้นรับสิทธิ์เข้าร่วมทริปเดินทางเสริมพลังบุญหนุนพลังใจ จำนวน 2 เส้นทาง กับอาจารย์ไวท์หมอดูโอปป้า ได้แก่ เส้นทางมูเปิดดวงเศรษฐี 789 จังหวัดสระบุรี และเส้นทางกรุงเทพฯ One Day Trip เปลี่ยนดวงชะตาร้ายเป็นดีแบบฉับพลัน และผู้ร่วมงานที่ซื้อสินค้าภายในงานครบทุก 999 บาท ลุ้นรับสิทธิ์ดูดวงแบบ Exclusive กับหมอดูชื่อดังพิเศษวันละ 3 สิทธิ์เท่านั้น
ซึ่งเส้นทางท่องเที่ยว 12 เส้นทาง “อะเมซิ่ง มูติเวิร์ส เปิดจักรวาลสายบุญ” ได้จัดเส้นทางสายมูของแต่ละภาคให้นักท่องเที่ยวได้เลือกเดินทางได้ตามความเชื่อและศรัทธา ได้แก่
ภาคเหนือ นำเสนอ 3 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางเพลินเมืองแพร่ เที่ยววัดขลังเสริมพลังกายพลังใจ จังหวัดแพร่, เส้นทางเยือนพะเยา กราบพระเจ้าตนหลวงเสริมมงคล ดลบันดาลทุกความปรารถนา จังหวัดพะเยา และเส้นทางเชียงใหม่ อิ่มบุญอุ่นใจ๋ ไหว้พระปฏิบัติธรรม ขอพรสำเร็จทุกปรารถนา จังหวัดเชียงใหม่
ภาคกลาง นำเสนอ 3 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางศรัทธามหานครโชคลาภพุ่ง โชคเลิฟทะยานกรุงเทพ, เส้นทางสระบุรี สร้างบารมีเสริมสิริมงคล สักการะหลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์ ตระการตาเขาพรหมสวรรค์ จังหวัดสระบุรี และเส้นทางสุพรรณบุรี พลังบารมีศรีสุพรรณภูมิ ต่อโชคต่อลาภรับสิริมงคล จังหวัดสุพรรณบุรี
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นำเสนอ 2 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางบึงกาฬ อลังการทิวทัศน์ อัศจรรย์นาคา กราบไหว้หลวงปู่อือลือนาคราช จังหวัดบึงกาฬ และเส้นทางอิ่มบุญแดนอุบล ยลแสงแห่งธรรม ตามรอยอารยธรรมเรืองแสงแห่งลุ่มแม่น้ำโขง จังหวัดอุบลราชธานี
ภาคตะวันออก นำเสนอ 2 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางแก้ชงครบองค์มังกร แก้ชง 3 จังหวัดกรุงเทพ-ฉะเชิงเทรา-จันทบุรี และเส้นทางฉะเชิงเทรา เสริมพลังชีวิตเราให้งานรุ่งเงินโรจน์ สักการะพระพิฆเนศ 3 ปาง จังหวัดฉะเชิงเทรา
ภาคใต้ นำเสนอ 2 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางภูเก็ตเก็บแต้มบุญ หนุนแต้มดวง สักการะ 4 ศาล เสริมชะตา 4 ด้าน จังหวัดภูเก็ต และเส้นทางมนตราเมืองตรัง เสริมดวงเสริมพลัง สัมผัสเสน่ห์อันซีนเมืองตรัง จังหวัดตรัง
โดยกิจกรรมที่จัดขึ้นทั้ง 3 วัน จะได้พบกับหมดดูชื่อดังตามวันและเวลา ดังนี้
วันที่ 30 มิ.ย. 66 เวลา 17.30-18.30 น. พบกับอาจารย์ต๊อกแต๊ก A4 หมอดูเงินล้าน ดูดวงให้กับเหล่าคนบันเทิง ตลอดจนเดินสายดูดวงในต่างประเทศ ที่เป็นเอกลักษณ์ด้วยการบอกเล่าเรื่องราวของเจ้าของดวงภายในกระดาษ A4
วันที่ 1 ก.ค. 66 เวลา 15.00-16.00 น. พบกับซินแสเป็นหนึ่ง ลายเซ็นพารวย จากเรื่องร้ายให้กลายเป็นดีด้วยลายเซ็นต์ เจ้าของฉายาซิมเบอร์ไม่สวยแต่รวยมาก
วันที่ 2 ก.ค. 66 เวลา 15.00-16.00 น. พบกับอาจารย์ไวท์ หมอดูโอปป้า เปิดดวงปลายปี 2566 เปิดดวงให้กับลูกค้ามาแล้วนับหมื่นคน
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://tourismproduct.tourismthailand.org/ และ Facebook: Tourism Product