ถึงบ้านหนองบัวลำภูแล้ว ผัวจูงเมียตาบอด เดินเท้า 300 กิโลเมตรจากลพบุรี มาถึงเพชรบูรณ์ ทั้งเนื้อทั้งตัวมีเงินเหรียญ 70 กว่าบาท อาศัยค่ำไหนนอนนั่น ก่อนชาวบ้านไปเจอถึงรู้เรื่องราวสุดรันทด
จากกรณีสุดรันทด นายอุทิต สระแก้ว อายุ 48 ปี สามี พานางเกศรินทร์ สระแก้ว อายุ 42 ปี ภรรยาซึ่งพิการตาบอดทั้งสองข้างเดินเท้าเกือบ 300 กิโลเมตรจากลพบุรี กลับบ้าน ทั้งเนื้อทั้งตัวเหลือเงินเหรียญอยู่ 70 กว่าบาท หลังไปตระเวนร้องเพลงแลกเงินแล้วถูกคนรู้จักเอาตู้ร้องเพลงซึ่งเป็นเครื่องมือหากินไป เมื่อทำมาหากินไม่ได้อีกทั้งเงินจึงพากันเดินกลับบ้านจนขอเข้าพักอาศัยอยู่ภายในสวนสาธารณะทุ่งแค อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ก่อนมีชาวบ้านไปเจอแล้วแจ้งหน่วยงานเข้าช่วยเหลือ
ล่าสุดเรื่องนี้ เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 7 ก.ค.2565 นายชวาล ยมจันทร์ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อำเภอหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ นำสามีภรรยามาที่ปั๊มน้ำมัน อ.นาวัง จ.หนองบัวลำภู ตามที่ได้นัดไว้กับเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.หนองบัวลำภู ก่อนพาทั้งคู่ไปส่งบ้านพัก บ้านนาดินดำ หมู่ 10 ต.นาแก อ.นาวัง จ.หนองบัวลำภู พร้อมข้าวสารอาหารแห้งที่ผู้ใจบุญบริจาคให้มา
นางเกศรินทร์ เล่าว่า เมื่อ 20 วันที่แล้วออกจากบ้านพร้อมสามีโดยใช้รถจักรยานปั่นไปแวะจอดร้องเพลงแลกเงินตามหมู่บ้านต่างๆรายทางไปจนถึงอุดรธานีรถจักรยานพัง แล้วเจอผู้ใจบุญพาไปส่งขึ้นรถไฟเดินทางไปอ.ลำนารายณ์ จ.ลพบุรี ซึ่งตั้งใจจะไปทำงานกับเพื่อน แต่ปรากฎว่าเพื่อนไม่อยู่โทรศัพท์ที่จะใช้ติดต่อเพื่อนก็พัง จึงเดินเท้าร้องเพลงขอเงินเพื่อกลับบ้านมาจนมาถึงหล่มสัก รวมระยะทางกว่า 300 ก.ม.
” กรณีที่ถูกคนรู้จักสามีหลอกว่าจะพาไปทำงานด้วยแล้วแลกกับการหลับนอน แต่เราไม่ยินยอมนั้นจึงถูกชายคนนั้นยึดเครื่องเสียงพกพาที่ใช้ร้องเพลงไปเกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว สามีได้ไปแจ้งความไว้ที่ป้อมแห่งหนึ่ง ในอ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ แต่เรื่องเงียบก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร วันนี้ได้เล่าให้เจ้าหน้าที่ฟังอีกครั้งขณะเดินทางกลับทราบว่าตำรวจได้ไปยึดเครื่องมือหากินกลับมาให้แล้ว ขอขอบคุณผู้ใจบุญที่ช่วยบริจาค โดยจะเอาเงินนี้ไปทำทุนขายของและจะไม่เดินทางไปตระเวนร้องเพลงอีกแล้ว ”
ขณะที่น.ส.ภรณ์ทิพย์ ก้อมมณี นักสังคมสงเคราะห์ เปิดเผยว่า เกศรินทร์ เป็นผู้พิการที่ขึ้นทะเบียนกับพมจ.หนองบัวลำภู เคยได้รับเงินสงเคระห์และสวัสดิการตลอดมา และเคยมาดูแลเคสให้เมื่อ 2 ปีก่อน และเคยยื่นเรื่องขอกู้เงินทุนส่งเสริมอาชีพคนพิการ 20,000 บาทโดยไม่มีดอกเบี้ย ตนมาตรวจสอบและทำเรื่องจนได้รับอนุมัติแล้ว แต่ปรากฎว่าผู้ค้ำประกันเงินกู้กลับจะขอแบ่งเงินกู้ครึ่งหนึ่งเป็นค่าค้ำประกัน จึงแนะนำให้เปลี่ยนคนค้ำประกันปรากฎว่าหาคนค้ำไม่ได้จนถึงบัดนี้
ขณะนี้ได้ทำเรื่องขออนุมัติปรับปรุงบ้านให้มั่นคงแข็งแรงขึ้นพอสมควรกับการอยู่อาศัยรวมทั้งสร้างห้องน้ำให้สะดวกสำหรับผู้พิการด้วยโดยมีงบช่วยเหลือตรงนี้อยู่แล้ว ซึ่งจะประสานอบต.หาช่างมาออกแบบคำนวนค่าใช้จ่ายต่อไป
ด้านแม่นายอุทิศ บอกว่า อุทิศเป็นลูกชายคนที่ 3 ร่างกายไม่แข็งแรงมีปัญหาที่เบ้าสะโพกทำงานหนักไม่ได้ พ่ออายุ 73 ปีต้องไปทำงานหาเงินมาซื้อข้าวน้ำเลี้ยงกัน ลูกชายลูกสะใภ้ไปหาเงินตามหมู่บ้านด้วยการร้องเพลงก็ได้เงินพอเลี้ยงปากท้อง 2 คนเท่านั้น หากจะปรับปรุงที่อยู่อาศัยให้ลูกชายกับภรรยาตนก็ยินดี