ถามกันเอง! ศุภชัย ชงกระทู้ ‘เสี่ยหนู’ แจงกัญชาเสรี ต้องเร่งออก กม. คุมใช้ทางที่่ผิด

Home » ถามกันเอง! ศุภชัย ชงกระทู้ ‘เสี่ยหนู’ แจงกัญชาเสรี ต้องเร่งออก กม. คุมใช้ทางที่่ผิด


ถามกันเอง! ศุภชัย ชงกระทู้ ‘เสี่ยหนู’ แจงกัญชาเสรี ต้องเร่งออก กม. คุมใช้ทางที่่ผิด

ศุภชัย ชงกระทู้ ‘เสี่ยหนู’ แจงกัญชาเสรีแบบมีการควบคุม ยันดำเนินยโยบายให้ประชาชนเข้าถึงกัญชาทางการแพทย์ ชี้จำเป็นต้องมีกฏหมายควบคุม

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 24 พ.ย.2565 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้สามสดของ นายศุภชัย ใจสุมทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ถามนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุขว่า ร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ…. ที่พรรคภูมิใจไทย ได้เสนอต่อสภา และเมื่อคณะกรรมาธิการ(กมธ.) วิสามัญพิจารณาเสร็จ เข้าสู่การพิจารณาของสภา แต่จนถึงบัดนี้ก็ไม่ปรากฎว่าจะได้รับการพิจารณา และเชื่อได้ว่าจากการแสดงจุดยืนของบางพรรค จากส.ส.บางคน ทำให้ร่างพ.ร.บ.กัญชา อาจจะไม่ผ่านสภา ไม่สามารถออกมาเป็นกฎหมายบังคับใช้ได้

นายศุภชัย กล่าวว่า จนถึงเวลานี้ ข่าวเรื่องกัญชา สร้างความสับสน วุ่นวาย ไม่เข้าใจ มีการบิดเบือนไปจากความจริง มีการกล่าวว่าวันนี้ รมว.สาธารณสุข หรือรัฐบาลปล่อยให้มีกัญชาเสรี ปล่อยให้มีสุญญากาศ ไม่ดูแล ไม่ห่วงใยเยาวชน ถ้าเราจะปล่อยให้เรื่องนี้ปรากฎไป อาจก่อให้เกิดปัญหาได้ จึงขอถามว่านโยบายกัญชาเสรี ความจริงมีหรือไม่ ความจริงคืออะไร การปลดล็อกกัญชาเป็นยาเสพติด ความจริงคืออะไร และการควบคุมผลกระทบทางสังคมหลังจากถอดกัญชาออกจากยาเสพติด มีการดำเนินการหรือไม่ ปล่อยละเลยหรือไม่

ด้านนายอนุทิน ชี้แจงว่า รัฐบาลมีนโยบายกัญชาเสรีจริง แต่เป็นเสรีแบบมีการควบคุมคือ คืนกัญชาให้ประชาชนใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ การเสริมสร้างรายได้ทางเศรษฐกิจ มีกฎหมายกำกับ มีกลไกดำเนินการรัดกุม ไม่เกิดผลกระทบต่อสังคม จึงจำเป็นต้องเร่งรัดให้มีร่างพ.ร.บ.กัญชา เป็นนโยบายเร่งด่วนรัฐบาล ต้องทำให้สำเร็จ ขณะนี้ร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวไม่ใช่ของพรรคภูมิใจไทย แต่เป็นของกมธ.ที่มาจากทั้งฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน ผ่านการพิจารณากลั่นกรองอย่างรอบคอบ เตรียมนำเข้าสภาพิจารณาวาระ 2 ควบคุมไม่ให้ใช้กัญชาทางที่ผิด

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า เหตุที่ต้องปลดล็อกกัญชาจากบัญชียาเสพติด เพื่อให้ใช้ประโยชน์จากกัญชาทางการแพทย์ได้ตามกฎหมาย รมว.สาธารณสุขไม่ได้ตัดสินใจโดยลำพัง แต่ผ่านกระบวนการครบถ้วน มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์รองรับ กัญชามีประโยชน์มากกว่าโทษ ความเสี่ยงไม่รุนแรง ควบคุมได้ ไม่ต่างจากเหล้าบุหรี่ จึงต้องคืนกัญชาเป็นสมุนไพรให้ประชาชนใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ สร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจ หากกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดอีกครั้ง จะทำให้มูลค่ากัญชาทางเศรษฐกิจหดตัว โอกาสสร้างรายได้ทางเศรษฐกิจจะลดน้อยลง

ส่วนแนวทางป้องกันผลกระทบจากการใช้กัญชาในกลุ่มเปราะบางนั้น การมีร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง จะควบคุมการใช้กัญชาได้อย่างสมบูรณ์ ไม่เกิดปัญหาต่อสังคม รวมถึงยังมีกฎหมายระดับรองอย่างประกาศกระทรวงสาธารณสุข ที่ห้ามสูบ ห้ามจำหน่ายให้เด็ก การคุมเข้มการใช้ช่อดอก ใครฝ่าฝืนมีโทษทั้งจำคุกและปรับ

“ยืนยันตั้งแต่ดำเนินนโยบายให้ประชาชนเข้าถึงกัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ยังไม่มีปัญหาใดที่ควบคุมไม่ได้ ส่วนคนที่แอบขาย แอบสูบคือ จงใจทำผิดกฎหมาย ต้องถูกดำเนินคดี” นายอนุทิน กล่าว

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ