ติ๋ม ทีวีพูล อัดสมปอง ยันอโหสิให้ แต่ขอปกป้องลูก ทำงานแรก ก็โดนเท ซัดกลับอดีตพระนักเทศน์พูดความจริงไม่หมด ทำแบรนด์เสียหาย ชาตินี้ชาติไหนไม่ต้องเจอหน้ากันอีก
วันที่ 8 ก.พ.2565 ทางพันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย หรือ ติ๋ม ทีวีพูลเปิดใจผ่านรายการโทรทัศน์ กรณีปัญหากับนายสมปอง นครไธสง หรืออดีตพระมหาสมปอง โดยเผยว่า กรณีที่ถูกโจมตีในโลกออนไลน์ ก็จะให้กฎหมายดำเนินการ เรื่องนี้เป็นครั้งที่หนักสุดในชีวิต เพราะไม่คิดว่าชีวิตนี้จะต้องมาขัดแย้งกับใคร ตอนนี้อโหสิกรรมให้หมด มีความสุขกับการสวดมนต์ เพราะตนมีตำนานไม่ยิ่งหย่อนกว่าใคร สร้างดารามามาก ยืนยันว่าทางนายสมปองเป็นคนขอเข้ามาอยู่บ้านเอง โดยติดต่อผ่านเลขาของตน
“สิ่งที่เขาพูด ไม่ได้พูดจริงทั้งหมด เราไม่ได้ชวนเขามาอยู่ด้วย ไม่ได้หิวแสง ทางนายสมปองไปพูดทำนองเราเป็นคนไปดึงเขามาก ซึ่งทำให้ตัวแบรนด์ทีวีพูลเสียหายมาก รวมถึงตนด้วย แต่เราอโหสิแล้ว ไม่ต้องเจอกันไม่ว่าชาตินี้หรือชาติไหนอีก ตนเป็นคนรักษาคำพูด เขาจะเป็นอย่างไรก็เรื่องของเขา แต่ตนไม่เข็ด ถ้าจะช่วยเหลือใคร เราช่วยดารามาหลายคนแล้ว ทั้งผู้ชายผู้หญิง แต่คนไม่มองจุดนี้กัน”
ตอนแรกทางนายสมปองจะขอเช่า เราก็สงสัยว่า เขาจะมีเงินขนาดไหน เพราะบวชพระมานาน ก็เลยบอก ไม่ต้องจ่ายเงินให้ตนหรอก ยืนยันว่า ตนไม่เคยรู้จักกับอดีตพระมหาสมปองมาก่อน แต่มารู้จักตอนเลขาของตนไปสัมภาษณ์เขา โดยตัวเองก็มองเขาเหมือนลูก เห็นว่าพุงเขาใหญ่ ก็จะหาโฆษณาค่ายลดพุงให้ ตอนตบพุงก็ตบต่อหน้าคนอื่นตลอด ไม่เคยทำลับหลังใคร ไม่เคยอยู่กับเขา สองต่อสอง แม้แต่วินาทีเดียว
ตอนลงสระว่ายน้ำ ก็มีคนอยู่ด้วย อยากสอนเขาว่ายน้ำ เพราะเห็นว่าเขาว่ายไม่เป็น แต่ทางสมปองกลับว่ายน้ำได้เก่งมาก ทั้ง ๆ ที่พระจะมีข้อห้ามไม่ให้ว่ายน้ำ แล้วตัวเขาก็บวชมาตั้งแต่เด็ก คนที่คิดไม่ดีกับตนในเรื่องนี้ ก็จะถูกทำร้ายไปเอง และจะส่งผลต่อบุพการีด้วย เรายอมตายแทนลูกได้ จะกล้าทำชั่วแบบนี้เหรอ จากนี้ก็จะให้กฎหมายจัดการไป
กรณีเงิน 1 ล้านที่ นายสมปองบอกจะคืนเงินให้นั้น ทางลูกของติ๋ม ทีวีพูลเผยว่า เงิน 1 ล้านนั้นเป็นสิ่งที่ระบุในสัญญา แต่จริง ๆ ความเสียหายมากกว่านั้น ถ้าวัดกันเป็นตัวเงินก็หลายล้านมาก ก็คงต้องมาคุยกันก่อน และคงไม่เก็บยอดเต็ม ก็ต้องดูว่านายสมปองจะไหวแค่ไหน เพราะมีนัดต้องถ่ายทำแล้ว แต่กลับเป็นแบบนี้ได้ โดยทางติ๋ม ทีวีพูลยืนยันเรื่องนี้ เราแค่ต้องการปกป้องลูกเท่านั้น เขาทำงานครั้งแรก แล้วก็ถูกเทแบบนี้ ตนจึงอยากให้มันจบตรงนี้
ส่วนเรื่องไวน์นั้น วันแรกที่เขามาทานมื้อเย็นกับตน เราก็สอนเขาวางตัวทุกอย่าง และสอนเขาดื่มไวน์ด้วย แถมยังสอนการทานสลัดว่าต้องวางช้อนแบบไหน ส่วนเรื่องตู้ไวน์นั้น เขาบอกตนไม่ต่ำกว่า 5 ครั้ง ว่าต้องมีตู้ไวน์ในห้องตน และต้องมีทุกยี่ห้อ เขาเอาหมด ถ้าเราไม่เอามาให้ เขาจะจ่ายเลย 5 หมื่น เขาพูดเหมือนเด็กงอแง จะเอาให้ได้
ตนอยู่วงการนี้มานาน ก็บอกได้ว่าคนไหนคบได้ อย่าให้สื่อเห็น คนไหนคบไม่ได้ คนนั้นหวังทำร้ายเราแน่นอน เขาบวชเป็นพระมานาน อาจไม่รู้ว่าโลกภายนอกโหดร้ายแค่ไหน ปกติเราคุยกันแต่เรื่องงานเป็นหลัก ถ้าเขามีข่าวไม่ดี ก็จะกระทบกับภาพลักษณ์ มีผลต่อเรตติ้งแน่นอน
ด้านดร.สมพงษ์ โมฆรัตน์ เพื่อนสนิทนายสมปอง เผยว่า ตนยังไม่มีโอกาสคุยกับสมปอง แต่ความเป็นเพื่อนยังเหมือนเดิม สิ่งหนึ่งที่รู้จักจากตัวเขา คือเขามั่นใจตัวเองสูงมาก และมีความรับผิดชอบต่องานมาก ตัวเขาเคยบอกตนว่า เราไม่มีสิทธิ์ยกเลิกงานที่เขาว่าจ้างหรือเชิญมา ยกเว้นป่วยจนเข้ารพ. แต่ตอนนี้ตนยังคิดว่าหัวหน้าทีมเราเปลี่ยนไปขนาดนี้เลย เหมือนฝันอยู่ไหม
“ที่ตนไม่ได้ติดต่อไป เพราะรู้นิสัยเขา ถ้าเขาไม่ถามแสดงว่ายังไหว ปล่อยให้เขาตัดสินใจไป ไม่กล้าจะเสนอความคิดเห็น แต่ก็ยังห่วง ตนยังทำงานกับทีวีพูลเหมือนเดิม ก็จะทำเต็มที่ ยอมรับว่าหลังสึกมา ก็จะเขิน ตกใจเวลาแม่ค้าผู้หญิงทอนเงินให้ ยังให้เขาวางเงินอยู่ ไม่กลับรับ บางทีเดินสวนกับสาว เราก็หลบจนเขาตกใจก็มี”