ใจดีมานานเกินไปแล้ว ซาร่า คาซิงกินี จะไม่ทน หลังโดนบูลลี่ด่าทอ เดินหน้าฟ้อง ดารา ก็โดนด้วย ลั่นขอสู้เพื่อตัวเองและลูก
เป็นคุณแม่ลูกสองที่ขยันทำงานเลี้ยงลูก สำหรับนางแบบสาว ซาร่า คาซิงกินี ผันตัวเป็นแม่ค้าออนไลน์ ขายน้ำพริกปลาร้า แต่ไม่วายเจอชาวเน็ตเข้ามาคอมเมนต์บูลลี่ ด่าทอไม่หยุด ล่าสุดสาวซาร่า ไม่ใจดีอีกต่อไป ใช้กฎหมายจัดการดำเนินคดี ซึ่งมีทั้งหมด 30 กว่าเคส ทั้งดาราในวงการ ทนายความ และชาวเน็ต โดย ซาร่า เปิดใจหลังมาร่วมงาน ลอยกระทงย้อนยุค ชูชัยบุรี ศรีอัมพวา ที่ตลาดน้ำอัมพวา สมุทรสงคราม
ซาร่า เผยว่า “เอาจริงๆ เราโดนตั้งแต่ 8-9 ปีแล้ว ตั้งแต่สมัยยังไม่มีแม็กซ์เวลล์ด้วยซ้ำ เหมือนเราก็โดนมาเรื่อยๆ แต่เราแค่ไม่ได้ออกมาพูด ณ วันนี้เราเลี้ยงลูกสองคน เราก็ทำอาชีพสุจริต จริงๆ เราเจอแบบนี้ทุกวัน เราก็เลยคิดว่าการที่เราเงียบ ทุกคนก็คงเหนื่อยไปเอง ก็คงไม่มาอะไรเราแล้ว แต่เอ๊ะทำไมเราเหนื่อยล่ะ ทำไมยังไม่หยุด เราก็ปรึกษาผู้จัดการและคุณพ่อคุณแม่ ช้อยส์มันมีอยู่แค่สองทางระหว่างเราลองไปทางซ้ายนิ่งที่สุดแต่ว่ามันก็ไม่ได้ทำให้ทุกคนหยุด เราต้องออกมาพูดแล้วทำอะไรสักอย่าง
ซาร่าคิดว่าที่เลือกมาทางขวาตอนนี้อาจจะไม่ได้ทำให้ทุกคนยุติในการที่จะมาบูลลี่เราหรือด่าทอเรา แต่ว่ามันอาจจะทำให้ทุกอย่างมันเบาบางลง อีกอย่างก่อนหน้านี้ด้วยข่าวต่างๆ นานามากมาย ซาร่าไม่มีโอกาสที่จะได้พูด ด้วยเราเพิ่งคลอดลูก บางอย่างเรายังไม่มั่นใจว่าอะไรพูดได้บ้าง อะไรควรพูด อันไหนมันเป็นยังไง ข้อมูลที่เราได้รับมามันถูกกลั่นกรองแค่ไหน เราก็เลยเลือกที่จะไม่พูด ปล่อยให้มันเงียบหายไป แต่ ณ วันนี้เหมือนทุกอย่างมันคลี่คลายลงแล้ว เรารู้ว่าอะไรมันใช่มันไม่ใช่ เราก็รู้สึกว่าเราไม่ได้กลัวกับสิ่งที่มันเกิดขึ้น เรากล้าที่จะพูดในสิ่งที่มันเป็นความจริง เพราะว่าก่อนหน้านี้ต้องยอมรับว่าเฟกนิวส์ค่อนข้างเยอะและเราตัดสินใจที่จะเงียบ มันไม่ได้แปลว่าเรายอมรับว่ามันคือเรื่องจริงแต่แค่ระยะเวลาและกระบวนการต่างๆ เรื่องที่มีหลายๆ อย่างมันยังไม่เคลียร์ ตอนนี้เราพร้อมแล้ว กล้าเผชิญทุกปัญหาที่มันเกิดขึ้น”
มองว่าทางที่เลือกถึงขั้นฟ้อง จะได้ลดความถูกบูลลี่ลงไป? “ฟ้องค่ะ ก็จะมีประมาณ 30 เคสเลย ฟ้องจะมีดาราในวงการ มีทนายความ และชาวเน็ตบางส่วนที่เราฟ้องไป ดูเป็นเคสบายเคส อยู่ที่ว่าจิตสำนึกเขาทำไปเพราะอะไร ถ้าเขามีจิตสำนึกที่รู้สึกว่าเขาไม่ได้ตั้งใจ จริงๆ แล้วเราเป็นคนใจดีนะ ถ้าเขามีจิตสำนึกจริงๆ แสดงความจริงใจกับเราจริงๆ ก็ไกล่เกลี่ยพูดคุยได้ แต่ถ้าใครที่คิดว่าฉันมีสิทธิ์ที่จะด่าเธอ ฉันจะด่าเธอ คุยกันไม่ได้ เราก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมายจัดการ จริงๆ เราก็เดินเรื่องมาสักระยะแต่ด้วยความที่สถานการณ์โควิดมันลำบากการเดินทางมันยาก เราก็เลยอะลุ้มอล่วย เข้าใจว่าหลายคนยังไม่ได้ฉีดวัคซีน เราก็เข้าใจทุกคนไม่ได้เร่งรีบอะไร ตอนนี้ประเทศเปิดแล้วทุกคนได้รับวัคซีนค่อนข้างทั่วถึงแล้ว เราก็ไปตามขั้นตอนแล้ว”
เราใจดีมานานแล้ว ถ้าไม่หยุด ยืนยันจะเดินหน้าต่อไป? “ค่ะ เราไม่ได้อยากใจร้ายกับใคร แต่เรามามองว่าเราเป็นลูกผู้หญิง มีลูกสองคน ณ วันนี้ถ้าเรายังปล่อยให้เรื่องมันเป็นแบบนี้ เด็กสองคนจะต้องโตมาเจอกับอะไร ถ้าวันนี้เราไม่ปกป้องตัวเอง ไม่เป็นตัวอย่างให้ลูกเห็น บางทีเหมือนเราเดินอยู่ดีๆ มีคนมาตีหัวเรา เราจะแบบไม่เป็นไรแล้วเดินผ่านไป เราอยู่ในยุคที่อะไรที่มันไม่ใช่ ไม่จริง เราไม่ควรจะเป็นคนที่ปล่อยให้คนมาทำร้ายเราจนเหมือนคนมาเอาเปรียบเรา ความเป็นซาร่าเองเป็นคนที่ไม่อยากจะมีเรื่องกับใคร ไม่อยากมีปัญหากับใคร อะไรปล่อยผ่านไปได้ก็ได้ แต่ว่าบาง
อย่างมันสอนให้เราเรียนรู้ว่า เราใจดีกับคนผิดคน เราก็ต้องสู้เพื่อตัวเองและลูก”
ถามถึงเรื่องที่เราโพสต์เป็นความอัดอั้นตันใจ หลายคนมองว่าไปโยงถึงใครอีกแล้ว? “ไม่โยง เอาอย่างนี้ดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใด เราไม่อยากจะพาดพิงถึงกันและกันแล้ว วันนี้ก็มาร่วมงานดีๆ ซาร่าไม่อยากจะไปพาดพิงถึงบุคคลใด ขอตอบในส่วนของเราและลูกและงานแล้วกันค่ะ”