ชายตื๊อขอไลน์กระเป๋ารถเมล์สาว แต่ไม่ได้ โมโหทำร้ายร่างกาย อ้าง "ป่วย ลืมกินยา"

Home » ชายตื๊อขอไลน์กระเป๋ารถเมล์สาว แต่ไม่ได้ โมโหทำร้ายร่างกาย อ้าง "ป่วย ลืมกินยา"
ชายตื๊อขอไลน์กระเป๋ารถเมล์สาว แต่ไม่ได้ โมโหทำร้ายร่างกาย อ้าง "ป่วย ลืมกินยา"

เพจ Bangkokbusclub.com ชุมชนคนรักรถเมล์ ได้โพสต์คลิปชายวัยกลางคน พูดคุยกับพนักงานเก็บเงินค่าโดยสารที่นั่งอยู่หลังคนขับรถเมล์ สักพักชายคนดังกล่าวก็ยื่นโทรศัพท์ให้กับพนักงานฯ แล้วลุกขึ้นมาใช้มือขวาตบเข้าที่ศีรษะพนักงานฯ 1 ครั้ง ก่อนที่จะลงรถไป

โดยทางเพจระบุข้อความว่า เหตุเกิดบนรถเมล์สาย 2-33 (บัวทองเคหะ-MRT บางซื่อ) เมื่อช่วงต้นเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา ผู้โดยสารชายพยายามขอเบอร์ขอไลน์พนักงานหญิง แต่พนักงานปฏิเสธ จึงถูกผู้โดยสารตีและลงจากรถไป ซ้ำผู้โดยสารยังไปรายงานขนส่ง หาว่าพนักงานกิริยาวาจาไม่สุภาพ พนักงานจึงต้องนำคลิปนี้ไปแสดงเป็นหลักฐานให้ขนส่งยุติเรื่องให้ แต่เจ้าหน้าที่ขนส่งก็มาบอกว่า “เราต้องใจเย็นมากกว่านี้ เพราะเราทำงานบริการ”

ญาติของพนักงานผู้เสียหายทนไม่ไหว จึงนำคลิปนี้เผยแพร่สู่สังคม เพื่อเตือนภัยพนักงานด้วยกัน พร้อมกับตั้งคำถามว่า “ทำงานบริการต้องปล่อยให้คนใช้บริการกดขี่ยังไงก็ได้หรอ จะตีหรือด่ายังไงก็ได้หรอ?”

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ เขตการเดินรถที่ 7 กลุ่มการปฏิบัติการเดินรถ 1 หมู่บ้านบัวทองเคหะ ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทแง จ.นนทบุรี ที่เป็นต้นสาย รถเมล์สาย 2-33 เส้นทางขับระหว่างบัวทองเคหะ-MRT บางซื่อ

จากการสอบถามหัวหน้ากอง 1 เขตการเดินรถที่ 7 กล่าวว่า ตนเพิ่งเห็นคลิปเหตุการณ์เมื่อเช้า ยังไม่เจอตัวพนักงานคนดังกล่าว ดังนั้นจะต้องสอบสวนว่าเหตุการณ์วันนั้นเป็นอย่างไร ซึ่งได้เรียกทั้งคนขับรถและพนักงานเก็บเงินให้เข้ามาพบในวันนี้

ด้านพนักงานหญิงผู้เสียหาย อายุ 24 ปี เผยว่า ตนพนักงานเก็บเงินสาย 134 แต่มาทำงานแทนวันเกิดเหตุ วันนั้นคือวันที่ 3 ธ.ค. เวลาประมาณ 13.00 น. รับผู้โดยสารคนก่อเหตุมาจากหน้ามหาวิทยาลัยราชพฤกษ์ เพื่อมุ่งหน้าถนนนครอินทร์ ซึ่งผู้โดยสารแจ้งว่าจะไปลงที่บางใหญ่ หน้าห้างสรรพสินค้า

เมื่อผู้โดยสารขึ้นมาได้นั่งแถวกลางติดประตูทางขึ้น ตนจึงเดินไปเก็บเงินฉีกตั๋วให้ปกติ จากนั้นชายคนดังกล่าวได้ย้ายมานั่งตรงข้ามที่ตนนั่ง ท่าทางเขาปกติทุกอย่างเหมือนผู้โดยสารทั่วไป

ก่อนเกิดเหตุเขาพยายามขอแอดไลน์ตน ตนได้ปฏิเสธไป และสอบถามว่าจะลงที่ไหน ซึ่งเขาแจ้งว่าจะลงที่ห้าง แต่เขาก็พยายามขอไลน์ตนอยู่ 3 รอบ ซึ่งตนก็ปฏิเสธทุกรอบ จากนั้นตนได้ย้ายมานั่งด้านหลังคนขับ เขาก็ย้ายตามมานั่งด้านหลังตน

ตนรู้สึกว่าเขาเริ่มประชิดตัว พยายามยื่นโทรศัพท์เขาให้ รอบสุดท้ายเขานั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามตน บอกว่า “พี่ครับ ผมขอไลน์พี่หน่อย” ตนก็ปฏิเสธแล้วบอกให้เขาไปนั่งด้านหลัง ตนเริ่มเอะใจจึงจะหยิบโทรศัพท์เพื่อจะถ่ายคลิปเขา จากนั้นเขาได้เข้ามากระชากและตบตน

หลังเกิดเหตุตนยังไม่ได้แจ้งความ เพราะรอคลิปจากบริษัท ตนเพิ่งได้คลิปหน้ารถมา และทางหัวหน้าแนะนำให้ตนไปแจ้งความ

จากที่ตนดูเขาเหมือนคนปกติทั่วไป แต่เขาดูเลิ่กลั่กและจ้องมองมาที่ตนตลอด ตนก็พยายามมองกระจกเพื่อดูพฤติกรรมเขาตลอด คอยระวังตัวและเริ่มกลัว เพราะตนเพิ่งมาทำงานเมื่อวันที่ 4 ก.ย.

นอกจากนี้ ตนยังถูกรายงานความประพฤติเมื่อวันที่ 19 ธ.ค. ว่ากิริยาวาจาไม่สุภาพ ตนยืนยันว่าไม่ได้พูดไม่ดี แต่จากพฤติกรรมที่เริ่มคุกคามตน ตนก็มีว่าเตือนเขาไปบ้าง เพราะตนยังกลัวว่าเขาจะมีอาวุธขึ้นมาด้วย ซึ่งหลังเกิดเหตุคนขับรถได้ให้เขาลง ตนก็ไม่รู้จะระวังตัวยังไง เพราะทำงานตรงนี้ก็ต้องเจอผู้โดยสารจำนวนมาก แต่คนนี้น่าจะอารมณ์แปรปวน หลังจากนี้จะเดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีผู้ก่อเหตุต่อไป

ในขณะเดียวกัน มีผู้โดยสารที่อยู่ในเหตุการณ์ ได้เข้ามาคอมเมนต์ในเพจ เล่าถึงเหตุการณ์ทั้งหมดซึ่งตรงกับที่พนักงานเล่า อีกทั้งหลายๆ คนยังแนะนำว่าควรแจ้งความเพื่อเอาผิด และองค์กรควรปกป้องดูแลพนักงานของตน ซึ่งเป็นผู้ถูกกระทำ

ล่าสุด ที่องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ เขตการเดินรถที่ 7 กลุ่มการปฏิบัติการเดินรถ 1 หมู่บ้านบัวทองเคหะ ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี หัวหน้ากลุ่มงานปฏิบัติการเดินรถได้เรียกพนักงานที่ถูกทำร้ายเข้าสอบถามรายละเอียดเรื่องราวที่เกิดขึ้น และความต้องการที่จะดำเนินการ ก่อนจะมีการเจรจาไกล่เกลี่ยกับชาย อายุ 47 ปี พ่อของผู้ก่อเหตุ

ชาย อายุ 21 ปี ผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ตนได้ขึ้นรถมาจากวงเวียนราชพฤกษ์ จะไปตลาดบางใหญ่ ตนคุยกับพี่เขาและขอไลน์เพื่อจะติดต่องาน เขาบอกว่าไม่ให้ ไม่ได้เล่น ส่วนที่ไปทำร้ายเพราะโมโหและหงุดหงิด แล้วเขาก็ตะเพิดลงจากรถกลางทาง บริเวณนครอินทร์

วันนั้นตนไม่ได้กินยา ตนป่วย รักษามานานแล้ว พ่อแม่รู้เรื่องแล้ว ตนจึงจะมาขอโทษพี่เขา รู้ว่าตบเขาแรง ตนไม่อยากให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก และไม่อยากยุ่งอะไรต่อไป ตนอยากขอโทษพี่เขาด้วย

หัวหน้ากลุ่มงานปฏิบัติการเดินรถ กล่าวว่า พนักงานเก็บค่าโดยสารจะไปแจ้งความไว้ เพื่อป้องกันตัวเองไว้หากมีการก่อเหตุครั้งที่ 2 ก็อยากให้จบกันเพราะก็รู้ว่าทางนั้นเขาเป็นยังไง

ด้านผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนเอาความปลอดภัยของตัวเองไว้ก่อน จะนำหลักฐานกล้องวงจรปิดไปให้ตำรวจดู จะได้รู้ความเป็นมายังไง

ขณะที่พ่อผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า ตนเพิ่งทราบเรื่อง ไม่รู้ว่าวันเกิดเหตุลูกชายลืมกินยาก่อนออกจากบ้านหรือเปล่า ลูกชายรักษาที่ รพ.ศรีธัญญา ต้องคุยกับภรรยาว่าการรักษาไปถึงขั้นไหน เพราะก่อนหน้านี้ไม่มีอาการ

จากนี้ก็จะดูแลลูกชาย เพราะนอกจากเสื่อมเสียตัวเขาเองแล้ว ยังเสื่อมเสียมาถึงตนและโรงเรียนด้วย จะกำชับว่าไม่ให้ทำแบบนี้อีก ตนก็ยินยอมตามที่ผู้เสียหายต้องการ หากจะแจ้งความตนก็พร้อมให้ดำเนินคดี เพราะน้องจะได้เข็ด

หลังผู้เสียหายได้พูดคุยกับพ่อของผู้ก่อเหตุ ซึ่งได้กล่าวขอโทษแทนลูกชายที่เป็นออทิสติก และสัญญาว่าจะควบคุมดูแลให้มากกว่าเดิม ก็ได้เดินทางเข้าแจ้งความลงประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.บางกรวย

ส่วนเรื่องที่พนักงานถูกร้องเรียนนั้น ผู้ก่อเหตุได้ไปแจ้งความไว้เป็นกลักฐานที่ สภ.ปลายบาง เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. เวลา 21.11 น. ว่าถูกพนักงานเก็บค่าโดยสารด่าทอด้วยคำหยาบ และมีการส่งเรื่องร้องเรียนไปยังกรมการขนส่งทางบก กทม. จนมีการเรียกพนักงานเข้าสอบสวน ทางกรมการขนส่งทางบกได้เห็นคลิปเหตุการณ์ จึงไม่มีการลงโทษ และให้ยุติเรื่องร้องเรียน

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ