‘ชัยวุฒิ’ เตรียมลุย กัมพูชา 11 ก.ค. ลงเอ็มโอยู กวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เผยรับร้องเรียนกว่าหมื่นคดี ลั่นถ้าอยู่ในไทยเดี๋ยวก็จับได้
เมื่อเวลา15.35 น.วันที่ 8 ก.ค. 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู)ในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กับทางรัฐบาลกัมพูชา ว่า ในวันจันทร์ที่ 11 ก.ค.นี้ ตนพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตัวแทนจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จะเดินทางไปที่กัมพูชา เพื่อลงนามบันทึกความเข้าใจ(เอ็มโอยู)ในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์
นายชัยวุฒิ กล่าวต่อว่า เอ็มโอยูดังกล่าว จะมีรายละเอียด อาทิ เรื่องการจับกุมดำเนินคดี การส่งผู้ร้ายข้ามแดน เป็นต้น และจะมีการตั้งคณะทำงานร่วมกันแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ได้ ทั้งนี้ เราตรวจสอบพบว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มีสำนักงานอยู่ที่กัมพูชา ทางกระทรวงดิจิทัลฯ และตำรวจจึงร่วมกันทำงาน เพื่อจะปิดกั้นและจับกุมดำเนินคดีขบวนการดังกล่าว โดยได้รับความร่วมมือกับทางกัมพูชา และการลงนามครั้งนี้
นายชัยวุฒิ กล่าวอีกว่า ความร่วมมือระหว่างไทยและกัมพูชาเป็นก้าวสำคัญ หากประสบความสำเร็จ จะทำให้ขบวนการนี้ที่ตั้งอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ไม่สามารถก่อเหตุได้อีกต่อไป จากการดำเนินงานที่ผ่านมา มีการร้องเรียนและแจ้งความคดีทางออนไลน์กว่าหมื่นคดี ต้องยอมรับว่าการสืบสวนสอบสวนคดีเหล่านี้ทำได้ยาก เพราะต้องสืบหาต้นตอผู้กระทำผิด ขณะที่คนร้ายพยายามหลบหนีการจับกุม
เมื่อถามว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์เริ่มปรับรูปแบบการหลอกลวงโดยใช้หมายเลขจากในประเทศหลอกลวงผู้เสียหาย นายชัยวุฒิ กล่าวว่า หากเป็นกลุ่มที่ก่อเหตุในไทย ตำรวจจับกุมดำเนินคดีอยู่แล้ว และจับกุมกลุ่มที่ใช้เครื่องมือด้วยวิธีการต่อสายครั้งเดียวไปถึงหลายเบอร์ ถ้าขบวนการนี้อยู่ในไทยเดี๋ยวก็ถูกจับ แต่ที่มีปัญหาคือมีสำนักงานในต่างประเทศ ทำให้ต้องประสานงานกับรัฐบาลประเทศนั้นๆ เพราะเราไม่มีอำนาจไปดำเนินคดีในดินแดนอธิปไตยอื่น
เมื่อถามว่านายกฯ ได้กำชับเรื่องติดตามแก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นพิเศษหรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า นายกฯ เป็นห่วง เพราะคนไทยในปัจจุบันใช้สื่อโซเชียลและอินเตอร์เน็ตมากขึ้น โดยทำธุรกรรมต่างๆ เช่น ซื้อสินค้า ลงทุน หรือธุรกรรมการเงิน ผ่านระบบออนไลน์ จำนวนมาก แม้จะป้องกันอย่างดี แต่คนร้ายสามารถใช้ช่องทางนี้หลอกลวงประชาชน ทำให้เกิดมูลค่าความเสียหายในแต่ละปีค่อนข้างมาก