ชัชชาติไปจตุจักร ยันต้องเร่งช่วยผู้ค้า ไม่ทิ้ง ฟื้นฟู ผลักดันให้เป็นตลาดนัดระดับโลก ย้ำต้องมีมาตรการร่วมมือกัน เพราะพฤติกรรมคนเปลี่ยน ต้องทำให้ได้

วันที่ 28 พ.ค.2565 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้ว่ากรุงเทพมหานครลงพื้นที่ตลาดนัดสวนจตุจักร โดยได้พูดคุยกับประชาชนที่มาพบ รอถ่ายรูป และพ่อค้าแม่ค้าในตลาด โดยเจ้าตัวเผยว่า จะผลักดันให้เป็นตลาดนัดระดับโลก

นายชัชชาติเผยว่า ตนพยายามเก็บข้อมูล ไม่ได้มาสั่งการอะไร วันนี้ไม่ได้มาเจอผอ.เขตจตุจักร แต่มาฟังผู้ประกอบการมากกว่า โดยกทม.เป็นผู้รับผิดชอบตลาดนัดจตุจักร ตามมติครม.ปี 2561 โดยตลาดนัดจตุจักรนั้นเป็นตลาดนัดขนาดใหญ่ มีแผงขายทั้งหมด 8,500 แผง บวกกับต้นไม้อีก 800 แผง ทั้งหมด 9,300 แผง กทม.เก็บแผงละประมาณ 1,800 บาท ค่าเช่าได้ไปประมาณ 24 ล้านบาทต่อเดือน และต้องจ่ายค่าเช่าให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ปีละ 169 ล้าน ก็ได้กำไรนิดหน่อยเท่านั้น

ก่อนหน้านั้นจตุจักรมีคนมาเที่ยว 1 แสนคนต่อวัน แต่พอโควิด-19 ระบาดมา กระทบกระเทือนอย่างมาก ตอนนี้กลับมาได้แค่ 3 หมื่นคน ซึ่งผลกระทบไม่ได้เกิดกับผู้ขายเท่านั้น แต่ยังมีกลุ่มซับพลายเชน ทั้งคนที่เย็บสินค้าส่งมาขายที่แผง ตามตำบลในต่างจังหวัด

“พ่อค้าแม่ค้าที่ได้รับผลกระทบ เป็นยอดภูเขาน้ำแข็ง เพราะยังมีฐานอีกมากที่ได้รับผลกระทบตรงนี้”

ตอนนี้ที่เป็นห่วงคือ เราจะทำอย่างไรต่อ ก็ต้องมาดูตลาดนัดจตุจักร ที่ผ่านมาเศรษฐกิจไม่ดี เพราะร้านค้า ผู้ผลิตขายไม่ได้ พอโควิดซา ร้านค้าจะกลับมาได้ไหม ตอนเดินถนนรอบนอก ก็ดูคึกคัก แต่รอบนอกมีแค่ 800 ร้าน ที่เหลือข้างใน ปิดบริการไปเยอะมาก

จากเดิมเราควรเก็บได้เงินเดือนละ 20 ล้าน ก็เหลือแค่เดือนละ 7 ล้าน ผอ.ตลาดก็ลดค่าเช่าให้ครึ่งหนึ่ง แต่ก็ยังมีการปิดร้าน พอมาเดินข้างในเงียบเหงาเลย

ทั้งนี้ความซบเซาของตลาดนัดจตุจักรนั้น มาจาก 2 สาเหตุ มิติที่หนึ่ง คือ 1.นักท่องเที่ยวยังไม่กลับมา 2.คนเปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อเป็นออนไลน์หมด แม้โควิดจะหาย คนก็อาจจะไม่กลับมาที่จตุจักรแล้ว

ดังนั้นอนาคต ตลาดนัดจตุจักรจึงเป็นเรื่องที่ท้าทาย จะบริหารแบบราชการไม่ได้แล้ว ต้องเอามืออาชีพที่เข้าใจการตลาด อาจต้องขายทั้งแบบออนไลน์ และหน้าร้านพร้อมกัน ไปคุยกับร้านแบบนั้น ขายได้เพิ่มขึ้น ตลาดต้องมาช่วยผู้ประกอบการ อาจจะต้องมีแพลตฟอร์มรวมของตลาด กระจายไปทั่วโลก

เรื่องนี้วิธีคิดต้องเปลี่ยน ไม่ใช่ระบบราชการ ต้องมาช่วยผู้ค้าข้างใน ที่ผ่านมาตนก็ไม่เคยมาเดินข้างใน เราจะเดินอยู่แค่ถนนรอบนอกซึ่งดูคักคัก แต่เข้าไปนิดเดียว ลำบาก เป็นนโยบายที่ท่านผอ.ตลาดจตุจักรจะต้องช่วยดู เพราะเป็นฐานเศรษฐกิจใหญ่ มีผู้ค้าจำนวนมากที่ส่งของมาขายที่นี่

“นี่จึงเป็นนโยบายเร่งด่วนที่ต้องดูปากท้องของประชาชนในอนาคต”

ตนอยากให้มีการจัดกิจกรรมกระตุ้นให้คนไเข้ามาเดินข้างใน ต้องหาวิธีอย่างไรเพื่อที่จะกระตุ้น อาจจะต้องหาลานกิจกรรมตรงกลางหอนาฬิกา ทำอย่างไรให้คนเดินเข้ามา อาจจะหาร้านดึงดูด ไม่ต้องจ่ายค่าเช่า เอาร้านมาลงเพื่อให้คนเดินเข้ามา จัดโปรโมชั่นดึงให้คนรู้จักทั่วมากขึ้น

ส่วนตัวเชื่อว่าตลาดนัดจตุจักรน่าจะฟื้นได้ ถ้านักท่องเที่ยวกลับมา จตุจักรจะเป็นเสน่ห์ เต็นท์พวกนี้ก็น่าจะทำให้ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย ทำเป็นโดม เวลาฝนตก มีพายุ หรือว่ามีไฟไหม้ อาจเป็นอันตรายได้ ซึ่งมันมีผลต่อพฤติกรรมการเดินของคนด้วย

ที่นี่ มีทั้งระบบการจราจร รถไฟฟ้ามาตั้ง เรามีทุกอย่าง มีสมบัติระดับโลก ถ้าทำให้ไม่ดีก็แย่แล้ว ต้องทำให้ดีจนได้ ทำให้มันเปล่งประกาย อย่าไปกลัว หลายคนก็สู้ ไม่ยอมหนีจากจตุจักร เราก็จะไม่ทิ้งทุกท่าน ช่วยดูกันไป อาจจัดโครงการว่าเดือนนี้ต้องมาเที่ยวจตุจักร ทำทุกอย่างให้สมศักดิ์ศรีจตุจักร

ทั้งนี้นายชัชาติได้ตรวจไปยันห้องน้ำตลาดนัดจตุจักร พบว่าห้องน้ำหญิงสะอาด ส่วนห้องน้ำชาย ชำรุดเป็นจำนวนมาก โดยได้ไปดูห้องน้ำคนพิการด้วย

ขอบคุณที่มา มติชนออนไลน์