‘ชวน’ แนะกก.บห. รีบแจงสังคม คดี ‘ปริญญ์’ เหตุกระทบชื่อเสียง–ผู้สนับสนุนพรรค การันตีพ่อปริญญ์ไม่ใช่นัการเมืองที่มีอิทธิพล ขอตร.ปฏิบัติหน้าที่อย่าเกรงใจใคร
เมื่อเวลา 12.20 น.วันที่ 18. เม.ย. ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาภายในพรรคประชาธิปัตย์ กรณีนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ตกเป็นผู้ต้องหาคดีอนาจารฯ และล่วงละเมิดทางเพศในหลายคดี เนื่องจากมีผู้เสียหายหลายราย ว่า เรื่องภายในพรรค ต้องถามฝ่ายบริหารพรรค (กก.บห.) ตนไม่ขอไปก้าวล่วง
และคิดว่าปัญหาภายในพรรคการเมืองเป็นเรื่องที่มีได้เสมอ แต่มีน้อยที่สุดจะดีกว่า ทั้งนี้พรรคประกอบไปด้วยคนก็หนีไม่พ้นที่จะต้องมีปัญหาอยู่บ้างไม่มากก็น้อย จึงเป็นหน้าที่กรรมการบริหารพรรคต้องดูแลรับผิดชอบ เพราะเป็นเรื่องที่กระทบต่อชื่อเสียงของพรรคและกระทบต่อความรู้สึกของผู้สนับสนุน เรื่องนี้จึงจำเป็นที่กรรมการบริหารพรรคต้องชี้แจง เพราะหลายเรื่องบางทีการไม่ชี้แจงจะยิ่งทำให้เกิดความเข้าใจผิด
“โดยส่วนตัวไม่มีบทบาทในการเข้าไปแทรกแซงหรือตัดสินใจอะไร แต่ก็ให้คำแนะนำว่าเรื่องอะไรก็ตามที่เมื่อมามีปัญหาเกิดขึ้นในพรรคก็พยายามยึดหลักไว้ว่าเราเป็นพรรคการเมืองที่ยึดเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต และความถูกต้องเป็นหลัก ต้องยีดหลักนี้ไว้ และเมื่อมีอะไรต้องพยายามหาโอกาสชี้แจง เพราะหลายเรื่องผมดูแล้วมีความเข้าใจผิดจากผู้จัดรายการในโทรทัศน์ บางทีก็ไม่ค่อยตรงนัก ดังนั้นถ้ามีโอกาสก็อยากให้พรรคชี้แจง”นายชวน กล่าว
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าเรื่องที่เกิดขึ้น จะกระทบต่อภาพรวมของพรรค นายชวน กล่าวว่า ไม่มีเรื่องอะไรที่ไม่กระทบ เวลาคนพูดเรื่องดีก็กระทบในทางที่ดี พอเรื่องที่ไม่ปกติก็กระทบในทางที่ลบ แต่ก็เชื่อหลักอันหนึ่งว่าพรรคประชาธิปัตย์ยึดความถูกต้อง เพราะฉะนั้นไม่มีอะไรที่จะอยู่เหนือกฎหมาย ขอให้มั่นใจว่าพรรคยึดหลักนี้มาตลอด
จนกระทั่งเคยมีคำหนึ่งตอนที่ตนเป็นนายกฯว่า เราไม่สามารถที่จะทำให้ทุกคนเป็นคนดีเหมือนกันหมดได้ แต่ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งความจริงเรื่องนี้เป็นสาระสำคัญมากในระบอบประชาธิปไตยแบบของเรา ถ้ากฎหมายไม่ศักดิ์สิทธิ์ประชาธิปไตยก็ไปไม่รอด ถ้าไปได้ก็ติดหล่ม ลุ่มๆดอนๆ ดังนั้นความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายเป็นเรืองสำคัญ ถูกหรือผิดก็ต้องว่าไปตามนั้น
เมื่อถามว่ามีการเรียกร้องถึงขั้นให้กรรมการบริหารพรรคแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกทั้งคณะ นายชวน กล่าวว่า กรณีใดที่เกี่ยวกับกรรมการบริหารพรรคก็ต้องไปสอบถามกรรมการบริหารพรรค
เมื่อถามต่อว่า ตามข้อบังคับพรรคแล้ว เรื่องมาตรฐานทางจริยธรรมสามารถย้อนตรวจสอบกลับไปได้หรือไม่ แม้เขาจะลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคแล้ว นายชวน กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องถามกรรมการบริหารพรรค แต่ตามข้อบังคับพรรคมีอยู่แล้ว เพราะพรรคประชาธิปัตย์ถือเป็นพรรคที่ยึดหลักนี้อยู่แล้มเราจะเห็นว่าเมื่อเวลามีรัฐมนตรีถูกร้องเรียน ทั้งที่ไม่จริง แต่มีการกล่าวหาเข้ามาทางพรรคก็ต้องพิจารณา เช่นให้ออกไปก่อนและสอบภายหลัง ปรากฏว่าไม่มีความผิด ตนคิดว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นแบบอย่างของการปฏิบัติเรื่องนี้ตลอดมา
“ผมอยากเรียนว่าท่านศุภชัย พานิชภักดิ์ และครอบครัวก็ดี ถึงแม้ท่านศุภชัยจะเคยเป็นรองนายกรัฐมนตรีก็ตาม แต่ไม่ใช่เป็นนักการเมืองที่มีอิทธิพลที่จะไปกลั่นแกล้งหรือทำอะไรให้บ้านเมืองผิดปกติ ผมรู้จักท่านมา ผมเป็นนายกฯ ท่านเป็นรองนายกฯ ท่านศุภชัยก็ไม่เคยมีปัญหาในทางที่ผิดหรือใช้อิทธิพลใดๆ ก็ตาม ไม่มี
พวกเรามั่นใจได้ว่าขอให้เจ้าหน้าที่ของบ้านเมืองปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด อะไรถูกผิดก็ว่าไปตามกฎหมาย อย่าไปเกรงใจใคร และในส่วนพรรคประชาธิปัตย์ขอให้มั่นใจว่าเราไม่ทำอะไรก็ตาม ที่จะไปทำให้ถูกเป็นผิดหรือผิดเป็นถูก และไม่ไปบังอาจไปคุกคามเจ้าหน้าที่ เราไม่ทำ ขอให้มั่นใจได้” นายชวน กล่าว