‘จุรินทร์’ ลั่นค่าตอบแทน อสม. เริ่มในสมัยรัฐบาลปชป. โชว์ใจกว้าง ยกเป็นผลงานร่วมกันหลายพรรค ให้ประชาชน เป็นผู้ใช้ดุลพินิจเลือก

เมื่อวันที่ 8 มี.ค.2566 ที่โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี 3 พรรคร่วมรัฐบาล ต่างกล่าวอ้างผลงานในการเพิ่มค่าป่วยการ อสม. เป็น 2,000 บาทว่า เรื่องดังกล่าว เป็นผลงานร่วมกันของครม. ทั้งประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย และรวมไทยสร้างชาติ ถือเป็นผลงานร่วมกัน เพราะรัฐมนตรีที่ดูแลกรมส่งเสริมบริการสุขภาพ ซึ่งดูแล อสม. ก็คือรมช.สาธารณสุข จากพรรคประชาธิปัตย์ เป็นต้นเรื่องสนับสนุน ส่งเสริมให้ อสม. มีค่าตอบแทนเพิ่มขึ้นจาก 1,000 เป็น 2,000 บาท

สำหรับรมว.สาธารณสุข สังกัดพรรคภูมิใจไทย เป็นผู้เห็นชอบ จึงนำเข้า ครม.ได้ ก็ถือว่าเป็นผลงานของท่านด้วย และถ้านายกฯ หากไม่อนุมัติให้เข้า ครม. ก็จะไม่ได้อนุมัติ ต้องถือว่าเป็นผลงานของนายกฯ ด้วย จึงเป็นผลงานร่วมกัน ไม่ใช่ผลงานใครคนใดคนหนึ่ง

“ผมทราบเรื่องตั้งแต่ต้น เพราะรมช.สาธารณสุขมาปรึกษาเป็นเดือนๆ แล้วว่า อยากเพิ่มค่าตอบแทน อสม. จาก 1,000 เป็น 2,000 ผมก็เห็นด้วย เพราะถึงเวลาแล้ว ยืนยันว่าไม่ใช่เฉพาะผลงานภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ รวมไทยสร้างชาติ แต่เป็นผลงานร่วมกันที่ทำกันมา ก็แบ่งๆ กันไป ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง” นายจุรินทร์ กล่าว

นายจุรินทร์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ เป็นพรรคที่เริ่มต้นให้ค่าตอบแทน อสม. มาตั้งแต่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และตนเป็น รมว.สาธารณสุข ตอนนั้นเราเริ่มต้นให้ 600 บาท รัฐบาลถัดมาก็เพิ่มให้เป็น 1,000 บาท แล้วรัฐบาลนี้เพิ่มเป็น 1,500 เพราะช่วยเรื่องโควิด 500 บาท แล้วมาถึงปลายรัฐบาล เราก็ให้เป็น 2,000 ฉะนั้นจึงมเหมาะสม และ อสม.มีภารกิจเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม ได้ 2,000 บาทก็ยังไม่พอ แต่อย่างน้อยก็เป็นค่าเดินทาง ค่าป่วยการ เพราะพื้นฐานของ อสม. ก็คือ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ดังนั้น พื้นฐานคือเป็นอาสาสมัคร ไม่ได้หวังค่าตอบแทน แต่สิ่งนี้เป็นการช่วยค่าใช้จ่ายจากการเดินทางไปอาสาทำงานให้กระทรวงสาธารณสุข

ผู้สื่อข่าวถามว่าการที่พรรคพูดเรื่องนี้เป็นการใช้ประโยชน์ช่วงเลือกตั้งหรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า ไม่วิจารณ์ เป็นธรรมดาในตอนหาเสียงเลือกตั้ง ทุกคนต้องเอาผลงานไปบอกให้ประชาชน ประชาธิปัตย์ก็ต้องไปบอก แม้จะเป็นผลงานร่วมกัน เมื่อถึงเวลาเราก็ต้องไปบอกเหมือนกันว่าเราเป็นคนเริ่มต้น 600 บาท สำหรับเบี้ยยังชีพ อสม. ส่วนประชาชนจะเลือกใครนั้น อยู่ที่ดุลพินิ คงมีอีกหลายปัจจัยประกอบพิจารณา คงไม่ใช่เฉพาะเรื่องใดเรื่องหนึ่ง แต่เราก็พูดได้เต็มปากว่า ประชาธิปัตย์เป็นอีกพรรคหนึ่ง หรือหนึ่งในจำนวนพรรคที่สนับสนุนให้เพิ่มค่าตอบแทน อสม. เป็น 2,000 บาท

ผู้สื่อข่าวถามว่าการเพิ่มค่าตอบแทนดังกล่าว จะส่งผลต่อระบบงบประมาณ 2567 และถูกมองว่าจะเป็นภาระผูกพันหรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า เมื่อเพิ่มค่าตอบแทน ก็ต้องใช้เงินงบประมาณเพิ่มขึ้น จึงต้องเป็นไปตามสถานภาพทางการคลังของประเทศต่อไป แต่เรื่องนี้ถ้าจะเริ่มก็ต้องเป็นของงบประมาณปี 67 ซึ่งจะเริ่มวันที่ 1 ต.ค.2566 เป็นต้นไป ซึ่งขึ้นอยู่กับสถานการณ์และข้อเท็จจริงต่อไป อย่างน้อยครม.ชุดนี้ ได้อนุมัติเป็นหลักการไว้แล้ว