‘จุรินทร์’ มั่นใจเลือกตั้งซ่อมชุมพร ปชป.คว้าชัย ชี้ ‘ลูกหมี’ หลุด ส.ส. เพราะก่อการดี ตอบปมทหารแทรกแซงเลือกตั้ง บอกจับไม่ได้ก็ต้องละอายใจ

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 8 ม.ค. 2565 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรค นายประกอบ รัตนพันธุ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช นายธีระชาติ ปางวิรุฬห์รักษ์ อดีตส.ส.ชุมพร ลงพื้นที่พบปะประชาชนที่หน้าตลาดเทศบาลเมืองชุมพร เพื่อขอคะแนนสียงให้สนับสนุนนายอิสรพงษ์ มากอำไพ ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส. เขต 1 โดยมีชาวบ้านมายืนรอต้อนรับและมอบดอกไม้เป็นกำลังใจด้วย ทั้งนี้ นายจุรินทร์ได้แวะพูดคุยกับเจ้าของห้างร้านต่างๆ พ่อค้า แม่ค้า มอเตอร์ไซค์รับจ้างตลอดทาง โดยสอบถามชีวิตความเป็นอยู่ และขอเสียงให้แก่นายอิสรพงษ์ ขณะที่ทีมงานหาเสียงชูป้าย ระบุว่า “เป็นกำลังใจให้ ส.ส.ลูกหมี เลือกตาร์ท เบอร์ 1”

นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า จากการลงพื้นที่ได้เสียงตอบรับจากประชาชน ทั้งที่ชุมพรและสงขลา เห็นได้จากประชาชนจำนวนมากตื่นตัวไปฟังปราศรัยเมื่อคืนที่ผ่านมา พรรคได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่นจากคนใต้ เชื่อว่าผู้สมัครของเราทั้งสองเขตจะได้รับชัยชนะเข้ามา ส่วนที่พรรคพลังประชารัฐส่งผู้สมัครนั้น ต้องบอกว่าทุกพรรคการเมืองมีสิทธิ์ที่จะหาเสียง แต่นโยบายก็เป็นนโยบายร่วมกัน

นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า ส่วนที่บอกว่าขอส.ส.คนละครึ่งนั้น คงไม่ใช่ประเด็นสำคัญ คือ ส.ส.ที่จะได้รับเลือกต้องมาจากสถาบันการเมืองที่ประชาชนมั่นใจว่าไม่เสียของ ประชาชนฝากผีฝากไข้ได้ในอนาคต ไม่ใช่เลือกตั้งครั้งหน้าไม่มีแล้ว ต้องไปหาที่พึ่งใหม่ ทั้งนี้ นายอิสรพงษ์ เป็นคนรุ่นใหม่ มีคุณสมบัติเหมาะสมในการที่จะเข้าไปทำงาน ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดขาย การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้เกิดจากอุบัติเหตุทางการเมืองกับนายชุมพล จุลใส จำเป็นต้องพ้นจากส.ส. เพราะไปก่อการดีให้กับบ้านเมือง ทุกคนทราบดีในเรื่องนี้ ซึ่งนายอิสรพงษ์เป็นตัวแทนของนายชุมพล มั่นใจนายอิสรพงษ์จะดูแลประชาชนแทนนายชุมพลได้

นายจุรินทร์ กล่าวถึงการใช้อำนาจรัฐ เสธ.ต. เข้ามาแทรกแซงในการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ และเหตุการณ์รอบยิงรถแห่หาเสียงของพรรคกล้าว่า อำนาจไม่ใช่มีไว้เพื่อทำผิดกฏหมาย การมีอำนาจรัฐไม่ใช่มาใช้ในทางไม่ถูกต้อง หรือเอารัดเอาเปรียบใคร แต่ต้องตระหนักว่าแม้จะจับไม่ได้ไล่ไม่ทันก็ต้องละอาย และคิดด้วยว่าสมควรและเหมาะสมหรือไม่ เพียงใด ซึ่งเป็นจิตสำนึกเฉพาะพรรค เฉพาะบุคคล ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งซ่อมหรือเลือกตั้งใหญ่ และไม่เชื่อว่าประชาชนอยากเห็นสิ่งเหล่านี้

นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า ประชาชนไม่ได้สบายใจกับการใช้อำนาจรัฐในทางที่ไม่ถูก หรือรังแกพรรคการเมืองอื่น หรือมาข่มขืนใจให้เลือกพรรคโน้นพรรคนี้ ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพโดยเฉพาะประชาชนคนใต้มีการตื่นตัวทางการเมืองมาก เช่นเดียวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับพรรคกล้า ควรให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบว่าเป็นเรื่องส่วนตัวหรือเป็นเรื่องการเมือง

“เราไม่สามารถตอบแทนได้ว่าคือเรื่องอะไร ถ้าเป็นเรื่องการเมืองก็ต้องดูว่าการเมืองแบบไหน และใครเป็นคนทำ มองให้ลึกรอบด้าน ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหาคำตอบ ตนไม่ได้อยู่ในฐานะที่ตอบแทนได้ แต่ประเด็นสำคัญ คือไม่ต้องการเห็นการใช้ความรุนแรง ไม่ว่าจะเกิดจากการกระทำของใครก็ตาม อยากให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสงบ และให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ” นายจุรินท์ กล่าว

ด้าน นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้มีความมั่นใจและเห็นถึงพลังของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ต่างออกมาร่วมมือกันทำเพื่อพรรค ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นสถาบันหลักทางการเมืองของประเทศ เมื่อนำเสนอนโยบายต่อสาธารณะแล้วก็นำไปสู่การปฏิบัติจริง เช่น การประกันรายได้ให้เกษตรกร อีกทั้งในส่วนของผู้สมัครนั้นถือเป็นคนรุ่นใหม่ เป็นผู้มีความรู้ความเข้าใจพื้นที่ของจังหวัดชุมพรเป็นอย่างดีมีความมุ่งมั่นในการทำงานบทบาทของนักการเมืองท้องถิ่น

“เชื่อมั่นว่าสิ่งต่างๆ เหล่านี้ จะเป็นส่วนช่วยสำคัญที่จะทำให้พี่น้องประชาชนให้ความไว้วางใจให้ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ได้ทำหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ต่อไป ตนจึงมั่นใจว่าการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์คว้าชัยอย่างแน่นอน” นายนิพนธ์ กล่าว