จุรินทร์มั่นใจ ประชาธิปัตย์ทะยานไปข้างหน้า เชื่อเลือกตั้งที่จะถึง กวาดส.ส.ได้เยอะกว่าเดิม เพราะคนเรียนรู้มากขึ้น เมินเพื่อไทยแลนสไลด์ ทุกอย่างอยู่ที่ประชาชน
วันที่ 15 พ.ค.2565 พรรคประชาธิปัตย์จัดงานสัมมนาพรรคภาคใต้ที่จ.สงขลา ภายใต้สโลแกน “อุดมการณ์ทันสมัย ทำได้ไว ทำได้จริง” โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี รมว.พาณิชย์และหัวหน้าพรรคได้เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.สงขลาทั้ง 9 เขต โดยมั่นใจว่าพรรคจะทะยานต่อไปข้างหน้า สู่ความสำเร็จต่อไปในอนาคตได้ และพรรคจะคัมแบ็กอย่างแน่นอน
โดยวันนี้ถือว่าเป็นวันที่สำคัญที่สุดวันหนึ่งของพรรคประชาธิปัตย์ภาคใต้บ้านเรา เพราะเป็นวันที่เรามารวมพลังกัน เพื่อคืน ส.ส.ภาคใต้ 14 จังหวัดให้กลับคืนมา เชื่อว่าด้วยพลังของพวกเราทุกคนประชาธิปัตย์ทำได้ ขอให้นำสิ่งที่ตนได้สื่อสารในวันนี้ ส่งต่อไปยังพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน โดยเฉพาะคนปักษ์ใต้บ้านเรา ด้วยการทำหน้าที่เป็นลำโพงให้กับพรรค
จากการที่ตนทำหน้าที่เป็นหัวหน้าพรรคมาได้ 3 ปี ภาพรวมของพรรคได้ร่วมกับกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกทุกคน ทำให้พรรคสามารถเดินหน้าไปได้ไกลพอสมควร ถ้าเป็นเครื่องบินก็เทคออฟแล้วและขึ้นไปได้ แม้ตกหลุมอากาศบ้าง แต่เดี๋ยวมันจะขึ้นไปได้ต่อ
ขอขอบคุณสมาชิกทุกคนที่คอยพูดคำว่า “หัวหน้าสู้ๆ” และจับมือกัน ขออย่าท้อถอย อย่าท้อแท้ อย่าสิ้นหวัง เพราะในทุกวิกฤตมีโอกาสเสมอ การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาภาคใต้ พรรคประชาธิปัตย์อาจจะได้เก้าอี้แค่ 23 ที่นั่ง แต่การเลือกตั้งครั้งหน้า ขอให้ได้ 30 หรือ 40 ที่นั่ง และตนเชื่อว่า พรรคประชาธิปัตย์ทำได้ มั่นใจว่าถัดจากนี้ไปพรรคจะเดินขึ้น และต้องได้ส.ส.มากกว่าการเลือกตั้งที่ผ่านมา
สำหรับยุทธศาสตร์ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ของภาคใต้ ทั้งด้านนโยบายและตัวบุคคล ถือว่ามีความพร้อมอย่างมากเพราะได้มีการเตรียมตัวผู้สมัครมานาน และเชื่อว่ายุทธศาสตร์และนโยบาย ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะที่ผ่านมาได้ทำผลงานทั้ง ราคายาง ราคาปาล์ม รวมถึงนโยบายประกันรายได้ พืชผลทางการเกษตร ดังนั้นคิดว่าพรรคประชาธิปัตย์จะสามารถดูแลชาวภาคใต้ได้ครบวงจร
จากการเลือกตั้งซ่อมที่จ.ชุมพร และสงขลา ที่ผ่านมา ได้พิสูจน์ว่าจิตวิญญาณความเป็นสถาบันการเมืองของประชาธิปัตย์นั้นกลับมาแล้ว ไม่อย่างนั้นเราไม่ชนะ ประชาธิปัตย์ชนะเพราะคนปักษ์ใต้เห็นแล้วว่าระหว่างพรรคการเมืองเฉพาะกิจกับพรรคการเมืองที่เป็นสถาบันทางการเมือง สุดท้ายประชาชนเลือกอะไร
จุดนี้จึงเป็นจุดขายสำคัญที่ประชาธิปัตย์ต้องปลุกจิตวิญญาณนี้กลับคืนมา ขอย้ำว่าประชาธิปัตย์อยู่ได้ด้วยอุดมการและผลงาน แม้บางยุคตกต่ำ แต่ไม่ได้หมายความว่าวันรุ่งขึ้นจะโตต่อไม่ได้ แม้วันนี้มี ส.ส. น้อยก็ไม่ได้แปลว่าวันข้างหน้าจะมี ส.ส.มากอีกไม่ได้ ดังนั้น “ประชาธิปัตย์ คัมแบ็ค” จึงเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น
ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยประกาศเดินหน้าปลุกคนเสื้อแดง หวังคะแนนแลนด์สไลด์ทั่วประเทศ ว่า ทุกพรรคมีสิทธิ์ที่จะประกาศทิศทางของตัวเอง ความมุ่งหวังอะไร แต่ความมุ่งหวังนั้นก็เป็นไปได้ทั้งสำเร็จและไม่สำเร็จ
ตนมองว่าการเมืองในช่วงหลายยุคหลายสมัยที่ผ่านมา ประชาชนจะได้เรียนรู้ในแต่ระยะเวลาใครบริหารประเทศแล้วทำประโยชน์อะไรให้กับบ้านเมือง ในรูปแบบไหนอย่างไร และในยุคที่พรรคการเมืองมีอำนาจ ประเทศ ต้องประสบกับปัญหาอะไรบ้าง ซึ่งตรงนี้เป็นข้อมูลสำคัญในการตัดสินใจของประชาชน