จีนยกย่องความสำเร็จ – วันที่ 8 พ.ย. ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า องค์การอวกาศแห่งประเทศจีน (CMSA) เชิดชูความสำเร็จของ หวัง ย่าผิง นักบินอวกาศสัญชาติจีน ที่สร้างประวัติศาสตร์จากการเป็นผู้หญิงคนแรกในประวัติศาสตร์แดนมังกรที่เดินอวกาศ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 พ.ย.
หวัง ย่าผิง พร้อม ไจ่ จื้อกัง นักบินอวกาศชาย ดำเนินการเดินอวกาศอย่างประสบความสำเร็จเป็นเวลา 6.5 ชั่วโมง ในช่วงเช้ามือของวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น และตอนนี้อยู่ที่สถานีอวกาศเทียนกงแห่งใหม่ของจีน.
ทั้งสองเป็นส่วนหนึ่งของสมาชิกทีมลูกเรืออวกาศ 3 คน ที่เดินทางมากับยานอวกาศเฉินโจว-13. ส่วนสมาชิกลูกเรือคนที่สาม คือ เย่ กวงฟู นักบินอวกาศชายอีกคน ที่อยู่บนสถานีอวกาศเพื่อสนับสนุนการเดินอวกาศของสองนักบินข้างต้นจากโมดูลหลัก.
โกลเบิล ไทม์ สื่อทางการจีน รายงานระหว่างการเดินอวกาศว่า ทีมลูกเรือติดตั้งอุปกรณ์กันสะเทือน (suspension device) และต่อเชื่อมต่อการถ่ายโอน (transfer connectors) กับแขนหุ่นยนต์ของสถานีอวกาศ. ทีมลูกเรือยังทดสอบความปลอดภัยของอุปกรณ์ที่รองรับ รวมถึงชุดอวกาศที่ผลิตในประเทศของจีน.
นับเป็นครั้งแรกที่ทีมลูกเรืออวกาศดังกล่าวออกมาจากสถานีอวกาศดังกล่าว ตั้งแต่เดินมาถึงเมื่อวันที่ 16 ต.ค. โดยไม่นานหลังก้าวออกมาจากห้องโดยสารของสถานีอากาศ หวังโบกมือให้ผู้ชมที่อยู่บนโลกและกล่าวว่า เธอรู้สึกดีมาก ซึ่งปรากฏในวิดีโอที่เผยแพร่โดยศูนย์ควบคุมการบิน ที่กลายเป็นไวรัลบนสื่อสังคมออนไลน์ของจีน.
ทั้งสามลูกเรือยานอวกาศเฉินโจว-13 จะเดินอวกาศอีก 1 หรือ 2 ครั้ง ในช่วง 6 เดือนที่อยู่บนสถานีอวกาศ ซึ่งเป็นระยะเวลายาวนานที่สุดที่นักบินอวกาศจีนอยู่ในอวกาศ.
จีนตั้งเป้าที่จะให้สถานีอวกาศดังกล่าวมีลูกเรือเต็มรูปแบบและเปิดภายในเดือนธ.ค. 2565. ก่อนหน้านี้ ในเดือนกันยายน นักบินอวกาศชาวจีนอีก 3 คนประสบความสำเร็จในการอยู่ที่สถานีอวกาศเป็นเวลา 3 เดือน. ระหว่างนั้น ทั้งสามพวกเขาทำงานในโมดูลหลักของสถานีและเดินอวกาศ 2 ครั้งเพื่อติดตั้งอุปกรณ์.
หวังเป็นสตรีคนที่สองของจีนที่ขึ้นไปในอวกาศ ต่อจาก หลิว หยาง ที่สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการไปกับยานอวกาศ เฉินโจว-9 ในปี 2555.
ในการให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็นในปี 2558 หวังย้อนช่วงนาทีแรกที่มองจากอวกาศลงมาบนโลกว่า “เมื่อฉันมองออกไปนอกหน้าต่างเป็นครั้งแรก ฉันรู้ความหมายที่แท้จริงของพลังแห่งชีวิต… ความสวยงามแบบนั้นเกินกว่าที่จะเข้าใจได้”
สื่อทางการจีนและ CMSA ย้ำความสำเร็จของหวังเช่นกัน หลังการเดินอวกาศที่ประสบความสำเร็จเมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 พ.ย. ทั้งนี้ ที่ผ่านมามีเพียงผู้หญิง 15 คนทั่วโลกที่เดินอวกาศตั้งแต่ปี 2527 ซึ่งประเดิมโดย สเวียตลานา ซาวิตสกายา นักบินอวกาศจากโซเวียต. จนถึงตอนนี้ นักเดินอวกาศผู้หญิงส่วนใหญ่เป็นนักบินอวกาศจากองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (นาซา) ของอเมริกา.
นายหยาง ยู่กวง รองประธานคณะกรรมการขนส่งอวกาศของสหพันธ์อวกาศนานาชาติ ให้สัมภาษณ์โกลเบิล ไทม์ ว่า นักเดินอวกาศหญิงเป็นส่วนสำคัญของอวกาศ และหวัง ย่าผิง ทิ้งร่องรอยของตัวเองในหน้าประวัติศาสตร์ด้วย “ความกล้าหาญ”.
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีกรแสะยกย่องอย่างล้นหลามจากช่องทางการและสื่อของรัฐ แต่การรายงานข่าวส่วนใหญ่ยังครอบคลุมภาษาเกี่ยวกับเพศ ที่เกิดการเหมารวมเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างชายและหญิง.
โกลเบิล ไทม์ ยกตัวอย่างว่า นักบินอวกาศหญิงมีข้อได้เปรียบในการมี “บุคลิกอ่อนโยนซึ่งดีสำหรับการทำงานเป็นทีม”. และยังอ้างคำพูดของนักวิจัยอวกาศที่เกษียณอายุในกรุงปักกิ่ง ซึ่งเสริมว่า นักบินอวกาศหญิง “มีความแน่วแน่มากกว่าด้วยสภาพจิตใจที่ปรับตัวได้”, “มีความไวต่อปัญหารอบข้างมากกว่า” และสื่อสารได้ดีกว่านักบินอวกาศผู้ชายในทีม.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
3 นักบินอวกาศจีนกลับสู่โลก เสร็จสิ้นภารกิจ 90 วันในอวกาศ