จับตาสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงใน 2 พรรคการเมืองใหญ่ “พลังประชารัฐ-เพื่อไทย” ที่ดูเหมือนว่าพรรคหนึ่งอยากจะปรับเปลี่ยนโครงสร้างกรรมการบริหารพรรคใหม่ แต่ยังติดๆ ขัดๆ ขณะที่อีกพรรคชัดเจนว่าน่าจะได้ตัวหัวหน้าพรรคคนใหม่
วันนี้ (28 ต.ค.) คอการเมืองต้องจับตาความเคลื่อนไหวของ 2 พรรคการเมืองใหญ่ในฟากฝั่งรัฐบาลและฝ่ายค้านในปัจจุบัน คือ พรรคพลังประชารัฐ-พรรคเพื่อไทย
เริ่มกันที่การประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่ 9.00-12.00 น. ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ ขอนแก่น (KICE) ในธีม “พรุ่งนี้เพื่อไทย เพื่อชีวิตใหม่ของประชาชน” ที่ไฮไลต์ไคลแมกซ์อยู่ที่การเปลี่ยนแปลงหัวหน้าพรรคจาก สมพงษ์ อมรวิวัฒน์
โดยชื่อที่จะมานั่งกุมบังเหียนแทนนั้น ช่วงแรกมีชื่อของ สุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้านในเวลานี้ แต่ปรากฏว่าวันสองวันนี้ชื่อมานิ่งอยู่ที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หลายสมัย แว่วๆ ว่าแกนนำพรรคพูดคุยกันแล้วตกผลึกว่าหากเป็น สุทิน จะทำให้ทั้งหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคเป็นโควตาของภาคอีสานทั้งคู่ เนื่องจากตำแหน่งแม่บ้านพรรคยังคงไว้วางใจให้ ประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.โคราช นั่งทำหน้าที่ต่อไป
ดังนั้นเมื่อกวาดสายตามองไปทั่วพรรค ชื่อเลยมาหยุดอยู่ที่ “หมอชลน่าน” ที่เป็นกำลังสำคัญของพรรคในการทำงานในสภามาโดยตลอด
อย่งาไรก็ตาม มีกระแสข่าวที่น่าตกใจอีกอย่างก็คือ ในงานประชุมใหญ่วันนี้ “อุ๊งอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวคนเล็กของอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร จะเข้าร่วมประชุมเพื่อส่งกำลังใจให้กับสมาชิกด้วย
คงต้องรอดูสถานการณ์ที่ส่งตรงมาจากขอนแก่นว่าจะมีบิ๊กเซอร์ไพรส์อะไรเพิ่มเติมอีกรึเปล่า
ลุ้น “ผู้กองคนดัง” อยู่หรือหลุดตำแหน่งแม่บ้าน พปชร.
ข้ามกลับมาที่ กทม. ณ ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ ย่านถนนรัชดาภิเษก ฝั่งตรงข้ามอาคารศาลอาญา ตั้งแต่เวลา 12.30 น. เป็นต้นไป จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งจะมีหัวหน้าภาคทุกภาคเข้าร่วมประชุมด้วย
ซึ่งความเคลื่อนไหวในพรรคแกนนำรัฐบาลอันดับ 1 นั้น ดูเหมือนจะเขม็งเกลียวมาตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (25 ต.ค.) ที่มีการพูดคุยหารือกันนอกรอบหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เสร็จสิ้น ระหว่างนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ กับ 6 รัฐมนตรีของพลังประชารัฐ ที่ในเวลาต่อมามีความพยายามที่จะปรับโครงสร้างกรรมการบริหารพรรคโดยมีเป้าหมายอยู่ที่การแซะเก้าอี้เลขาธิการพรรคที่ “ผู้กองธรรมนัส” นั่งอยู่ในเวลานี้
แต่จนแล้วจนรอด แหล่งข่าวในพรรคเปิดเผยว่า การพูดคุยกันของบรรดาแกนนำในพรรคดูเหมือนยังไม่สะเด็ดน้ำ เพราะขนาดเมื่อวานนี้ (27 ต.ค.) มีคนบอกว่าได้ยิน “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ บ่นออกมาดังๆ ในทำนองว่า “ถ้าไม่เอาธรรมนัส แล้วจะเอาใคร”
ก็ต้องมาลุ้นกันต่อว่าที่สุดแล้วกลุ่มที่พยายามขับเคลื่อนเพื่อเปลี่ยนแปลงการกำหนดทิศทางในพรรคจะทำสำเร็จหรือไม่ เพราะเอาจริงๆ แล้วมันไม่ได้เกี่ยวโยงกับแค่ตัวผู้กองคนดังเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องความสัมพันธ์ของ 3 ป. รวมไปถึงโควตาเก้าอี้รัฐมนตรีที่ว่างอยู่ 2 ตำแหน่งด้วย
งานนี้น่าจับตาจริงๆ เพราะเสียงที่คำรามออกมาจากแถวๆ มูลนิธิป่ารอยต่อฯ ถึงขั้นว่า “พร้อมจะเลิกเล่นการเมือง” หลังเจอขู่ว่าถ้าไม่ยอมให้ปรับเปลี่ยนมือทำงานข้างตัวออกจากตำแหน่ง ก็อาจเสี่ยงต่อการที่นายกฯ จะไปตั้งพรรคใหม่ก็ตาม
ได้ลุ้นกันยาวๆ ล่ะครับพี่น้อง