สมคิด ระบุ งบกลาโหมตั้งแบบหลงยุค ถามจะไปรบกับใคร ขอรัฐบาลจัดลำดับความสำคัญการจัดสรรงบ ซัด ประยุทธ์ ตีกินโกหกกลางสภา ปม หนี้จำนำข้าว
เมื่อเวลา 12.37 น. วันที่ 1 มิ.ย.2565 นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) อภิปรายว่า งบกระทรวงกลาโหม มีการปรับลดลงจากปี 65 แต่แม้จะลดลงมาก็ยังติดอันดับท็อป 5 ของกระทรวงที่ได้รับงบประมาณมากที่สุด ภารกิจหลักของกองทัพคืออะไร ทหารเข้าไปทำทุกเรื่อง แม้แต่การสนับสนุนการพัฒนาในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษตะวันออก (อีอีซี) ที่มีการตั้งวงเงิน 716 ล้านบาท นี่เป็นภารกิจหลักของกระทรวงกลาโหมด้วยหรือ
นายสมคิด กล่าวต่อว่า รวมถึงงบการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพ แผนงานยุทธศาสตร์พัฒนาศักยภาพการป้องกันประเทศ และพร้อมเผชิญภัยคุกคามทุกมิติของทุกเหล่าทัพ 7 หมื่นกว่าล้านบาท ถามว่าวันนี้เราจะไปรบกับใคร เราหลงยุคหรือไม่ กองทัพกำลังเดินไปทิศทางไหน งานไอโอทั้งหลายขอว่าอย่ามาทำในยุคที่สถานการณ์บ้านเมืองเปลี่ยนไปแล้ว ขอให้รัฐบาลจัดลำดับความสำคัญการจัดสรรงบประมาณได้หรือไม่ ตนไม่เห็นด้วยกับการจัดงบประมาณแบบนี้
นายสมคิด ยังกล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ชี้แจงการใช้หนี้โครงการจำนำข้าวว่า ท่านตั้งใจพูดหรือจำตัวเลขผิด เพราะโครงการจำนำข้าว มีกรอบวงเงิน 5 แสนล้านบาท แต่ท่านบอกว่า 9 แสนล้านบาท จะโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจไม่รู้ แต่ท่านโกหกกลางสภา อย่ามาตีกินกันแบบนี้ รมว.คลังมั่นใจจัดเก็บรายได้ตามเป้า
ต่อมา 12.55 น. นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ชี้แจงถึงการจะจัดเก็บรายได้ 2.49 ล้านล้านบาท ตามที่ตั้งเป้าไว้ได้หรือไม่ ว่า ที่ผ่านมามีการจัดเก็บรายได้สูงกว่าเป้าคือปี 2559 2561 2562 ส่วนปี 2557 2560 2563 และ 2564 จัดเก็บรายได้ต่ำกว่าประมาณการ เนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดี การจัดเก็บรายได้จึงไม่เป็นตามเป้า โดยปี 2563-2564 การจัดเก็บรายได้ลดลง เพราะเผชิญสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ต้องปิดประเทศ ต้องกู้เงินเพื่อชดเชยขาดดุล
นายอาคม กล่าวต่อว่า ส่วนปี 2565 การจัดเก็บรายได้ภาครัฐ เดือน ต.ค.64-เม.ย.65 จัดเก็บรายได้สุทธิ 1.27 ล้านล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 4 หมื่นกว่าล้านบาท คาดว่าสิ้นปี 2565 จะจัดเก็บรายได้ตามประมาณการ หรืออาจสูงกว่าก็ได้ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากอยู่ในภาวะราคาอาหารทั่วโลกสูงขึ้น และวิกฤตยูเครน-รัสเซีย อาจทำให้เศรษฐกิจไม่โตอย่างที่คาดไว้ แต่การส่งออกยังขยายตัวได้ตามที่คาดไว้ ส่วนปี 2566 เมื่อเปิดประเทศ จะรับรายได้จากนักท่องเที่ยว ทำให้มีฐานภาษี และรายได้จากนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น จึงคาดว่าจะจัดเก็บได้ ได้ตามเป้าหมาย 2.49 ล้านล้านบาท