จบศึกทนาย! ‘เดชา-ษิทรา’ จับมือจูบปาก เคลียร์เรื่องบาดหมาง รับผิดใส่สีตีข่าว

Home » จบศึกทนาย! ‘เดชา-ษิทรา’ จับมือจูบปาก เคลียร์เรื่องบาดหมาง รับผิดใส่สีตีข่าว


จบศึกทนาย! ‘เดชา-ษิทรา’ จับมือจูบปาก เคลียร์เรื่องบาดหมาง รับผิดใส่สีตีข่าว

จบศึกทนาย! ‘เดชา-ษิทรา’ จับมือจูบปาก เคลียร์เรื่องบาดหมางในอดีต รับผิดใส่สีตีข่าว เอฟซีบิวต์จนเกิดอารมณ์ วาเลนไทน์เตรียมนัดเหล่าทนายดังกินข้าว

กรณีความบาดหมาง ระหว่าง “ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์” และ “ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด” เคยเป็นไม้เบื่อไม้เมากันตลอด มีเรื่องฟ้องร้องกันหลายคดี ล่าสุดคดีทุกอย่างจบหมดแล้ว สองฝ่ายต่างถอนฟ้องกันทุกคดี จับมือเคลียร์ใจและขอโทษกันและกัน วันนี้เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงจูบปากกันได้

รายการโหนกระแสวันที่ 9 ก.พ. 65 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 สัมภาษณ์เปิดใจทั้งคู่ ถึงเรื่องราวความบาดหมางตลอด 4 ปี

ดีกันแล้ว?
ทนายตั้ม : เรียบร้อยครับเมื่อวันจันทร์

มันเกิดอะไรขึ้น?
ทนายตั้ม : จริงๆ แล้วเมื่อวันจันทร์ มีคดีที่ผมฟ้องอ.เดชา เรื่องคดีหมิ่นประมาทไว้ ก่อนศาลจะลงมา ได้มีโอกาสคุยกับอ.เดชา ปรับความเข้าใจกัน คุยถึงเรื่องที่ผ่านมา ว่ามีอะไรติดใจกันอยู่ ปรากฏว่าเคลียร์กันได้แล้ว เราเลยตกลงว่าถ้างั้นเราก็อย่าไปทะเลาะกันดีกว่า ต่างคนต่างไปทำงาน ส่วนนึงมาช่วยเหลือสังคมกันดีกว่า

พี่เดชา ไม่ติดข้องหมองใจกันแล้ว?
ทนายเดชา : ก็เคลียร์กันหมด ผมเป็นคนขอโทษเขาก่อนเลย ในรายการขออนุญาตยกมือไหว้(ยกมือไหว้) คือสิ่งที่ผ่านมา ตั้งแต่ 61 4-5 ปี เราก็ไปพาดพิงเขาเยอะ ต้องยอมรับ อะไรไม่ถูกต้องเราก็ต้องกล้าขอโทษ

กล้าทำกล้ารับ?
ทนายเดชา : แน่นอน ถึงอายุมากกว่า แต่บางสิ่งบางอย่างที่ทำก็ไม่เหมาะสม เราก็ต้องยอมรับความจริง เราขอโทษเขาก่อน

จริงๆ ทั้งสองท่าน รู้จักกันมาก่อนมั้ย?
ทนายเดชา : ก็รู้จักกันทางสื่อ เคยออกรายการกัน

จำไม่ผิด คุณเคยไปออกรายการคุณพุทธ ช่องอมรินทร์ คุณอยู่ฝั่งเดียวกัน คุณนั่งอยู่ฝั่งเดียวคุณ คุณลุยกับประธานแมงสาบ แล้วไปปะทุกันตอนไหน?
ทนายตั้ม : วันนั้นผมเจออ.เดชาครั้งแรก

ทนายเดชา : ผมว่าบางทีอยู่ที่เอฟซี กองเชียร์มันเยอะ เอฟซีที่เขาเชียร์ทนายตั้มกับที่เชียร์ผม บางทีเขาก็บิวต์ๆ แล้วเกิดอารมณ์ขึ้นมา เถียงกันไปเถียงกันมา แล้วผมเป็นคนหัวร้อนไง เป็นคนเก็บทรงไม่อยู่ นิสัย (หัวเราะ) ยอมรับความจริง หนึ่งหัวร้อน สองเก็บทรงไม่อยู่เป็นคนใจร้อน ก็มีเรื่องมีราวด่ากันไปเยอะแยะมากมาย

แต่ด้วยความสัตย์จริง ผมรู้จักสองท่านมานานมาก และสนิททั้งสองคน ผมเหมือนอยู่ตรงกลางในบางมุม แต่เชื่อมั้ยด้วยมารยาท ทั้งสองท่านไม่เคยมาพูดถึงกันให้ผมฟัง มุมการอยู่หน้าสื่อ หรือเบลมกัน มันเป็นละครมั้ย?
ทนายเดชา : มันเป็นข้อเท็จจริง บางทีในข้อกฎหมาย ผมเห็นอีกอย่าง ตั้มเห็นอีกอย่าง การเห็นไม่ตรงกัน หนึ่งอาจข้อกฎหมายด้วย สองอาจมีสิ่งที่เราไม่ชอบหน้ากันก็เสริมๆ กัน ทำให้กลายเป็นคู่กัน

สิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนถูกสร้างเป็นซีรีส์ มีทั้งพระเอก ผู้ร้าย ผลัดกันไปมา มองยังไง?
ทนายตั้ม : จริงๆ ผมกับอ.เดชา ทะเลาะกันตั้งแต่ปี 61 ได้ ปีนี้ 65 แล้ว 4 ปีแล้ว ตอนแรกมีคนพยายามเจรจาให้เราหลายครั้ง ตอนแรกเราโมโห เพราะเราคิดว่าเราเป็นฝ่ายที่ถูกกระทำไม่คุยอย่างเดียว แต่พอมาถึงจุดนึง เราก็คิดว่าเรื่องราวมันผ่านมาตั้งนานแล้ว อ.เดชาซึ่งก็เป็นผู้ใหญ่กว่า เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาเจอที่ศาลขอโทษผมและยกมือไหว้ ผมก็คิดว่าถ้าอย่างนี้เรามาคุยปรับความเข้าใจกันดีกว่า เราหยุดดีกว่า แล้วเอาเวลานี้มาทำงานให้ครอบครัว มีคดีอะไรที่เราพอจะช่วยเหลือสังคมได้ก็ช่วยกัน เพราะอ.เดชาแม่นข้อกฎหมายอยู่แล้ว มีอะไรต่อจากนี้ ผมก็โทรไปปรึกษาอาจารย์ได้

ทะเลาะกันครั้งแรกเรื่องอะไร?
ทนายตั้ม : ครั้งแรกก็ตอนไปออกรายการคุณพุทธนี่แหละ ตอนนั้นเรากะไปแฉประธานแมงสาบ อาจารย์บอกจะทำให้มันหยุดเลยในวันนั้น พอตอนกลางคืน อาจารย์โทรมาว่าจะไม่ดำเนินการแล้ว ทำให้ผมโมโห ผมเลยโพสต์ไป พอผมโพสต์ไปในทางไม่ดีเหมือนอาจารย์ไม่กล้าแล้ว ทำนองนี้ เอฟซีผมเลยไปทัวร์ลงอาจารย์เดชา มันก็เลยเหมือนผมเป็นฝ่ายเปิดศึกไปก่อน จริงๆ ถ้าอาจารย์ไม่ทำแล้ว ผมทำเงียบๆ ไปก็ได้ แต่ด้วยความที่เป็นผม ทนายตั้มมันไม่ยอมอยู่แล้ว มันต้องให้ทุกคนรู้ เอฟซีผมก็ไปทัวร์ลงอาจารย์ นี่คือจุดเริ่มต้นแห่งความบาดหมาง ผมไปโพสต์ในเฟซว่าใจไม่ถึงหลบไป คนรุ่นใหม่จะเดิน เท่านั้นแหละครับ (หัวเราะ) ทัวร์ไปลงเลย

ทนายเดชา : มาเยอะเลย เวลามาลงไม่ได้ลงครั้งเดียว อย่างเวลาผมไลฟ์ก็จะมีเอฟซีเขามาแสดงความคิดต่างๆ ด่าทอเราเยอะ เราก็เครียด โมโห เราก็ด่ากลับ คุณหนุ่มก็รู้ผมยอมที่ไหนล่ะ เอฟซีหายไป 4 หมื่น มีบางช่วง ด่าผมผมก็ด่ากลับ

ทนายตั้ม : นี่คือเริ่มแรก

หลังจากนั้นไปก่อหวอดจนมีคดีหนักขึ้น คืออะไร?
ทนายตั้ม : หลังจากนั้นมีคดีหวย 30 ล้าน เหมือนยืนคนละฝั่งกันและมีการโต้กันไปโต้กันมา ช่วงปลายๆ หวย 30 ล้าน อาจารย์มาเข้าข้างผมอยู่ 2 วัน ผมก็ดีใจ อาจารย์ไม่ด่าผมแล้ว มาชมผม แต่อีก 3 วันก็ด่าผมใหม่ (หัวเราะ)

ทนายเดชา : ก็เป็นเรื่องข้อกฎหมาย จริงๆ สื่อมาถามผมให้แย้งกับทางนี้ ผมพูดไปทางโน้นก็อัดมา ก็เลยเกิดข้อพิพาทกัน

โดนปั่น?
ทนายเดชา : จะเรียกงั้นก็ได้ คิดดู อย่างทนายตั้มพูดอย่างนี้ เขาไม่ได้ถามปกติ เขาถามว่าถ้าทนายเป็นคุณปรีชาจะโต้ยังไง แล้วจะมีเรื่องมั้ยล่ะ ทางโน้นก็ไม่พอใจเท่านั้นเอง

จุดเริ่มต้นฟ้อง มันเริ่มจากคดีไหน?
ทนายตั้ม : มันเริ่มจากผมถูกคนๆ นึงไปสร้างเรื่องว่าผมไปวิ่งเต้นอัยการ ทำปลอมแปลงเอกสาร คุณหนุ่มรู้จักดี แต่ตอนนี้คนไม่ค่อยรู้จักเขาแล้วครับ (หัวเราะ) พอเขามาเปิดประเด็น เหมือนต้องการดิสเครดิตผม คนๆ นี้เคยอยู่กับผม แล้วมาขอเปอร์เซ็นต์ผมในเรื่องหวย 30 ล้าน ตอนนั้นเขาคิดว่าผมต้องได้เปอร์เซ็นต์เท่านี้ๆ ก็เปิดมาขอว่าจะเอาทีมทนายเขา ซึ่งเขาคือทะแนะ จะเอามาร่วมทีมกับผม แล้วจะขอเปอร์เซ็นต์ ถ้าผมได้แบบนี้ ทีนี้พอผมปฏิเสธไป เพราะผมมีพี่ทนายอาคมอยู่แล้ว สองคนก็พอ เขาก็เกิดความไม่พอใจ เริ่มมาค่อนแคะไปเรื่อยๆ แล้วมันก็มีหลายเรื่อง พอคนดวงกำลังตก เรื่องนึงก็มีสองสามสี่มา อ.เดชา ตอนนั้นที่ไม่พอใจ เขาไปแชร์และด่าผมทุกวันเลยตอนนั้น วันนึงเลยให้ทีมงานรวบรวมคลิป แล้วไปแจ้งความอ.เดชา ฟ้องตรงต่อศาล

ไปด่าเขาทำไม?
ทนายเดชา : จำไม่ได้ มันก็ไปเรื่อย มีอะไรมาเราก็พูดไป มันมีข่าวมา ออกสื่อ เราก็เอามาวิเคราะห์ตามสไตล์ผม แค่นั้น

ทนายตั้ม : อ.เดชาก็ว่าเราไปวิ่งเต้นอัยการ ไปว่าเราปลอมแปลงเอกสาร นำสืบเท็จ วันนี้คุยกันแล้ว

เป็นคดีแรกที่ฟ้อง?
ทนายตั้ม : ผมฟ้องหลายคดี รวมหลายกรรม ไม่ได้ฟ้องแยก

ทนายเดชา : ฟ้อง 2 คดี 28 กรรม สองปีก็คูณเข้าไปถ้าติดคุก วันนี้จบดีแล้วไง (หัวเราะ) จะ 60 แล้ว ถ้าติดคุกอีกเท่าไหร่ก็ไม่รู้

คดีหมิ่นประมาท แล้วทางพี่เดชาฟ้องทนายตั้มบ้างมั้ย?
ทนายเดชา : ก็มีฟ้องกลับไป พวกหมิ่นประมาท ฟ้องแพ่ง ร้องเรียนมรรยาท เยอะแยะเหลือเกิน แล้วคดีผู้กำกับโจ้ก็ไปแจ้งความ ผมไปแจ้งเขาที่หาว่าตบทรัพย์ ตอนแรกผมจะไม่แจ้ง คุณบอกว่าถ้าแน่จริงก็ไปแจ้ง ผมก็เลยไปแจ้ง คุณเป็นคนเสี้ยมผม ผมเลยต้องไปแจ้งจับเขา

หลังจากนั้นยังไงต่อ?
ทนายเดชา : ก็มีคดีเยอะแยะมากมายไปหมด ทำนองเล่นกู กูก็เล่นมึง ไม่ยอมกัน จำไม่ได้ว่ากี่คดี เยอะ

ทนายตั้ม : จำไม่ได้ เราตกลงกันแล้วว่าจะถอนทั้งหมด เดี๋ยวจะไปนั่งลิสต์ ผมก็มีไปแจ้งความ ร้องมรรยาทเขาเหมือนกัน แต่จำไม่ได้ว่าเท่าไหร่แล้ว ถ้าเราตัดตรงนี้ไปได้ เราจะเหลือเวลา 30 เปอร์เซ็นต์ของชีวิตเลย ในการทำเรื่องเพื่อสังคมได้

เยอะมากเลยนะ?
ทนายเดชา : มันเยอะแยะ มันเสียเวลาทำมาหากิน แล้วต้องไปลุ้นว่าใครจะแพ้ใครจะชนะ จะมีความสุขยังไง

ไม่ใช่แค่คดีทนายตั้มอย่างเดียว มีฟ้องทนายคนอื่น?
ทนายเดชา : ผมก็ไปร้องทนายรณณรงค์ ร้องมรรยาท 2 เรื่อง ตะกี้ในเมื่อตกลงกับตั้มเรียบร้อย เลิก ก็ให้ตั้มไปบอกรณณรงค์ ว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวผมถอนให้ 2 คดี จบ

ทนายตั้ม : ผมก็เป็นกาวใจ คุยกับทนายทุกคนที่สนิทกัน ไม่ว่าจะทนายเจมส์ ทนายเกิดผล ทนายรัชพล ทนายอาคม ทนายรณณงค์ เดี๋ยววาเลนไทน์นี้จะนัดกินข้าวกับทนายเดชา

ไปด้วยได้มั้ย?
ทนายตั้ม : ได้ครับ เชิญเลย

ทนายเดชา : แต่อย่าไปปั่นอะไรเพิ่มอีกนะ

ก็พูดไปเรื่อย หาว่าผมไปปั่น?
ทนายเดชา : เมื่อกี้ลูกน้องคุณหนุ่มหาว่าผมไปอยู่ฝั่งตรงข้ามกับหมอปลา ผมไม่รู้เรื่องเลย หาว่าผมเป็นทนายวัดอไรต่างๆ ผมอยู่สำนักงานทั้งวัน ไม่เคยไปวัดอะไรเลย

ทำไมพี่เดชาชอบฟันคนโน้นคนนี้ไปเรื่อย?
ทนายเดชา : ไม่มีนะ ผมจัดรายการขำๆ สนุกสนาน

จะเริ่มถอนคดีกันยังไง?
ทนายตั้ม : นึกอะไรได้ก็ไปถอนครับ เราไม่มีเวลาอยู่แล้ว จะมอบอำนาจให้คนไปถอนทุกคดี และหวังว่าอนาคตจะไม่มีอะไรแบบนี้อีก

ทนายเดชา : ไม่มีแล้วครับ ขนาดคดีคุณแหม่มที่กาญจนบุรี

ตอนนั้นไปว่าทนายตั้มวิ่งเต้นอะไร?
ทนายเดชา : มันก็มีข่าวต่างๆ รายการผม เวลาไลฟ์ จะเอาข่าวต่างๆ มาเสนอ มีข่าวว่าทนายตั้มนำสืบเท็จ ปลอมเอกสาร วิ่งเต้นอัยการ เราดูจากข่าวไม่รู้ว่าจริงหรือไม่จริง

ดูจากข่าวหรือไปฟังจากใครมา?
ทนายเดชา : ดูจากข่าว อย่าไปพูดถึงเขาเลย เดี๋ยวคุณก็ต้องเชิญเขามา ดูจากข่าวดูจากอะไร เราไม่รู้หรอกข้อเท็จจริงเป็นยังไง แต่มาถึงวันนี้ เราพอทราบจากทนายตั้มแล้วว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง พอไม่เป็นความจริงปุ๊บเราก็ขอโทษเขา ในสิ่งที่เรานำเสนอไป เราไม่รู้หรอกว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องจริงหรือเปล่า เพราะเราไม่เห็น มีข่าวมา เราก็เอามาวิเคราะห์ ประกอบกับเราไม่ชอบขี้หน้าเขาอยู่แล้ว เราก็เสริมเพิ่มไป ทาสีเพิ่มเข้าไป

ต้องยอมรับ?
ทนายเดชา : มันเรื่องจริง ถ้าเราไม่ยอมรับในสิ่งที่เราผิดพลาด เราจะมานั่งทำไมตรงนี้

ฟังพี่เดชาพูดแล้วนี่คือคนจริง 2022 พี่ยอมรับว่าใส่สีตีข่าวเขาเลยเหรอ?
ทนายเดชา : ส่วนหนึ่งก็เพราะเราไม่ชอบขี้หน้าเขา ก็เรื่องจริง ใครๆ ก็รู้

พี่พูดแบบนี้ ต่อไปคนจะเชื่อมั่นในตัวพี่เหรอ?
ทนายเดชา : ไม่เป็นไร ไม่ต้องเชื่อผม ขอให้ผมเชื่อตัวเองก็พอแล้ว อะไรต่างๆ ที่ผมทำผิดไป เราก็ต้องสำนึก ยิ่งเรามีเหตุผลมาก คนยิ่งเกลียดเรามาก อะไรผิดพลาดก็แค่นั้น เราไม่ชอบขี้หน้าเขาอยู่แล้ว

จะมีเหตุการณ์แบบนี้อีกมั้ย?
ทนายเดชา : พอแล้วเหนื่อย 60 แล้ว พอแล้ว บอกลูกชายพอแล้ว ไม่เอาแล้ว ทุกวันนี้ชีวิตผมสุขสบายแล้ว ไม่ต้องทำงานแล้ว ทรัพย์สินก็พอมี ไม่ได้ร่ำรวยมาก แต่ก็ไม่ได้เดือดร้อน จริงๆ อยากเลิก อยากปิดสำนักงาน ก็ไม่รู้จะทำทำไม 60 แล้ว

ไปปลูกมะม่วง ทำสวนเหรอ?
ทนายเดชา : แต่ไม่เอาที่ส.ป.ก. นะ

ก็เป็นอย่างนี้ เดี๋ยวเขาฟ้องก็เป็นเรื่องอีก?
ทนายเดชา : ผมไปตรวจสอบแล้ว ว่าไม่มีหลักฐานว่าเขาไปวิ่งเต้นอัยการ ไม่มีหลักฐานว่าเขาปลอมเอกสาร เราก็ขอโทษเขา เขาฟ้องมาก็สมควรแล้วไง

วันจันทร์ที่ผ่านมา ศาลนัดไกล่เกลี่ยเหรอ?
ทนายตั้ม : นัดไต่สวนมูลฟ้อง ศาลจะมีคำสั่งเลย แต่พอคุยกันเรียบร้อย ผมก็ถอนวันนั้นเลย คดีอื่นก็ค่อยๆ ทยอยถอนกันให้หมด

ทำไมทนายตั้มถึงใจอ่อน?
ทนายตั้ม : ผมว่าเราทะเลาะกันมานานแล้ว เราเสียเวลากับตรงนี้ คนดู เอฟซีที่ติดตามเราทั้งสองคนก็ไม่ได้ประโยชน์ อย่างแรกคือผมเห็นความจริงใจของอ.เดชา พอเจอผม ผมเดินไปในห้องพิจารณา แกยกมือไหว้ขอโทษผม ทั้งที่ผมเด็กกว่าแกตั้งเยอะ แกน่าจะรุ่นพ่อผมได้แล้ว ผมก็รับไหว้แบบงง ตกใจ อ.เดชาเลยเข้ามาคุยว่าให้จบกันไป และปรับความเข้าใจกันหลายๆ เรื่อง ที่ผ่านมา มีใครไปเสี้ยมอะไรแก ทำให้แกโมโห แกบอกว่าที่มาทะเลาะกับผม ไม่ใช่เรื่องของแกเลย เป็นเรื่องของคนอื่นที่มายุแยง จริงๆ ผมกับเขาไม่ได้มีเรื่องอะไรกัน จะทะเลาะกันทำไม บอกเอฟซีผมไว้เลย ว่าผมกับทนายเดชาไม่ได้มีอะไรกัน ถ้ารักผมก็อย่าไปว่าอ.เดชา พอได้แล้วนะครับ มันควรจบได้แล้ว เดี๋ยวมาดูข้อดีที่เราสองคนจะมาร่วมกันทำงานเพื่อสังคมดีกว่า ผมว่ามีอะไรเด็ดๆ แน่นอน

ต่อไปก็มีโอกาสเชิญทนายทั้งสองมาช่วยเหลือชาวบ้าน?
ทนายเดชา : ยินดีครับ

ทนายตั้ม : ยินดีเลยครับ แต่เราต้องผ่านคดีคุณแหม่มกับคุณนุ่นไปก่อน (คดีเสี่ยก้องโดดรถเสียชีวิต)

ทนายเดชา : ยังต้องสู้กันต่อ แต่เอาเฉพาะเนื้องาน แต่ไม่มีอะไรว่ากันแล้ว เหนื่อย

ทนายตั้ม : เราคุยกันแล้ว เรายังมีเนื้องานที่อยู่คนละฝั่งกันอยู่ แต่ว่าผมรับปากจะไม่ไปพูดถึงอาจารย์ เอาแต่เนื้องาน เดี๋ยวไม่แน่ วันที่ 14 จะดำเนินคดีกับทางคุณแหม่มในเรื่องชู้สาว ผมก็บอกอาจารย์ตรงๆ เพราะเป็นหน้าที่ของผม หน้าที่อาจารย์คือช่วยเหลือลูกความ เรากำหนดขอบเขตกันแน่นอน ว่าตอนนี้เราเหมือนพี่น้องกัน แต่เรื่องงานก็ยังทำเต็มที่ให้ลูกความตัวเองต่อไป

ทั้งสองคนเหมือนนักมวย ขึ้นเวทีต้องต่อยกัน ลงมาก็เป็นเพื่อนกัน?
ทนายตั้ม : สมัยก่อนขึ้นเวทีก็ต่อยกันบนศาล พอลงจากเวทีก็ฟัดกันต่อหลังศาลด้วย (หัวเราะ)

จะไปต่อยกันหลังศาลเหรอ?
ทนายเดชา : มันก็มีอารมณ์กัน อะไรเกินเลย บางทีก็ควบคุมไม่อยู่ เราก็เป็นคนใจร้อน แก้ยาก

ทนายตั้ม : วันนั้นผมมาเบิกความ อาจารย์มาถามค้าน แล้วผมรู้อยู่แล้วอาจารย์เขาขึ้นง่าย ผมก็กวนๆ แกไป จนแกโมโหผม เลยท้าผมต่อย (หัวเราะ)

คุณก็แสบเหมือนกัน?
ทนายเดชา : ก็เป็นคนแบบนั้น มีอะไรเก็บไว้ไม่ได้ เป็นคนเปิดเผย

ตอนนี้ศาลดีใจมั้ย?
ทนายตั้ม : โห ดีใจครับ ท่านผู้พิพากษาบนบัลลังก์มาถ่ายรูปเมื่อวันจันทร์ ร่วมกันสามคน ผอ.ศาลอาญาก็มาแสดงความดีใจด้วย ท่านบอกโอ้ย จบกันได้ก็ดีแล้ว ไปช่วยกันทำงานดีกว่า คดีเต็มศาลไปหมดแล้ว

กรณีคุณอัจฉริยะ มีโอกาสจบแบบนี้มั้ย?
ทนายตั้ม : มันไม่ได้ตรงที่เขาไปดำเนินคดีผมแบบไม่สามารถถอนได้ ไปแจ้งความผมไว้หลายเรื่อง แล้วก็คาอยู่อย่างนี้ บางเรื่องสั่งไม่ฟ้องไปแล้ว บางเรื่องก็คาอยู่ ส่วนตัวผมก็รับผิดชอบในคดีของคนอื่นที่ดำเนินคดีกับนายอัจฉริยะด้วย ผมว่ายังไงก็คงไม่ได้

พี่เดชาก็เป็นเพื่อนทางพี่อัจ เป็นไปได้มั้ยที่จะคุยกับพี่อัจให้จบๆ ไปกับทางทนายตั้ม จะได้เริ่มต้นเซ็ตซีโร่ นับหนึ่งใหม่?
ทนายเดชา : ผมว่าเขาเป็นตัวของตัวเอง ใครจะไปโน้มน้าวเขายาก เท่าที่รู้จักกันมานานพอสมควร มีความเป็นตัวของเขาเอง ผมคิดว่าเขาคงต้องตัดสินใจของเขาเอง ผมคงไม่กล้าไปแนะนำอะไรเขาหรอก

วันนี้ทนายตั้มกับพี่เดชาพอเคลียร์กันจบแล้ว พี่จะมีปัญหากับพี่อัจมั้ย?
ทนายเดชา : ไม่มีหรอก ผมไม่เคยไปยุ่งอะไรเขา ไม่เคยไปพูดพาดพิงเขา ความสัมพันธ์ก็ไม่มี เขาโกรธมั้ยเราก็ไม่ทราบ เพราะเป็นเรื่องในใจเขา แต่เราไม่ได้มีปัญหากับเขา ไม่ได้ใส่ร้ายเขา

ได้คุยกันมั้ยเรื่องเคลียร์กับทางทนายตั้ม?
ทนายเดชา : ไม่ได้คุยกัน

เรื่องทนายเดชาจบโดยสมบูรณ์แบบ?
ทนายตั้ม : จบก็คือจบครับ ถอนทุกอย่าง แต่ย้อนไปนิดนึง ถามว่าผมจะกลับไปคบกับอัจฉริยะมั้ย ผมไม่กล้าครับ ผมระแวง

ทำไม?
ทนายตั้ม : คุณหนุ่มก็เคยโดนมากับตัวนี่ครับ (หัวเราะ)

พอกันทั้งคู่ มีแว้งกลับมาอีก?
ทนายตั้ม : ก็คิดว่าจะกลับมาถามผม แต่ไม่มีคดีความหรอก ผมระวังคำพูดอยู่แล้ว เราก็แยกส่วนกับอ.เดชา เราทำงานทนาย วิชาชีพเดียวกัน ส่วนทนายกับทะแนะไม่เหมือนกัน

ไม่ได้ว่าใคร?
ทนายตั้ม : เขาก็ยอมรับนี่ครับว่าเขาเป็นทะแนะ เวลาไปออกอะไรเขาบอกว่าเขาไม่ได้จบกฎหมาย เขาเป็นแค่ทะแนะ

เรื่องการทำงาน ทนายตั้มจะทำงานร่วมกับกลุ่มเพื่อน หรือจะมีพี่เดชาด้วยมั้ย?
ทนายตั้ม : ตอนนี้ผมขอเบอร์กับไลน์พี่เดชาแล้ว มีอะไรคงประสานกัน แล้วอย่างที่บอกไปตั้งแต่ต้น ได้คุยกับกลุ่มทนายความ ทุกคนแล้ว จริงๆ อยากไปกินข้าวด้วยกัน ได้พูดคุยกัน

ทนายดังๆ เขาโอเคมั้ย?
ทนายตั้ม : ผมคุยกับทุกคนเรียบร้อยแล้ว ทุกคนยินดีมากครับ ยินดีที่จะได้คุยกับอ.เดชา

พี่ล่ะโอเคมั้ย?
ทนายเดชา : เรายินดี เราแก่แล้ว เด็กๆ ว่าไงก็ตามนั้น จะ 60 แล้ว พวกนี้รุ่นลูกเรา เราจะได้เกษียณ ทะเลาะกันเหนื่อย

พี่ไปท้าเขาต่อยด้วย?
ทนายเดชา : อย่าไปพูดเลย ขาดอายุความแล้ว

ทนายตั้ม : (หัวเราะถูกใจ)

เราก็ไม่ธรรมดา?
ทนายเดชา : แก่แต่เก๋า สิ่งที่ผมมีคือความเก๋าเท่านั้นแหละ ถ้าจะบอกน้องๆ ก็แค่ความเก๋า แต่อะไรต่างๆ ความกระฉับกระเฉงคงสู้รุ่นเด็กไม่ได้ เราอายุ 60 แล้ว ใกล้สุดท้ายแล้ว

ถามในฐานะที่เป็นพิธีกร เรื่องนี้ถ้าไม่ถึงขั้นไต่สวน พี่จะจบมั้ย?
ทนายเดชา : คดีผมกับทนายตั้มทุกศาล ระดับอธิบดีศาลให้เจรจาทุกคดี ทนายตั้มเขาไม่เจรจา แต่ผมเจรจาทุกคดี

ทนายตั้ม : ก่อนหน้านี้อ.เดชาเขาอยากเจรจาทุกคดี แต่ผมโมโห ผมเลยบอกว่าไม่คุยทุกศาล พอมาวันนี้ ผมไม่ได้ใจอ่อน มันก็คิดได้ว่ามันถึงแก่เวลาแล้ว มันเสียเวลาตรงนี้มา 4 ปีได้แล้ว

อาจารย์เดชาเตือนผมตลอดว่าถ้าขอโทษได้ก็ขอโทษ ขึ้นศาลไม่สนุก ผมว่าเขาอยากประนีประนอม แต่คุณนักบู๊ ลุยหมด ตร.ก็ลุย?
ทนายตั้ม : ครับ

ทนายเดชา : อาจจะโกรธด้วย แต่ผมก็เข้าใจเขานะ ผมเจรจาตลอด ไม่ใช่เจรจาตอนไต่สวน แต่เขาอาจเสียหาย ยังทำใจไม่ได้เป็นเรื่องธรรมดา

ต่อไปไม่มีแบบนี้แล้ว?
ทนายเดชา : ไม่มีแล้ว พอแล้ว เห็นต่างได้ แต่อาจเสริมกันเรื่องวิชาการ จะเชิญเราสองคนมาก็ได้ คุณก็ปั่นไปเถอะ เหมือนส.ป.ก.

ทนายตั้ม : เดี๋ยวอาจารย์ก็หัวร้อนอีก

ทนายเดชา : อย่างส.ป.ก.ก็เสริมให้ได้ ว่าจะโดนกี่ดอก ส่วนน้องๆ ถ้ามีแนวคิด เราก็ไม่ไปขัด ไปหักหน้า ทำให้เขาเสีย ไม่เอาแล้ว

ทนายตั้ม : กลุ่มที่เรามีอยู่ตอนนี้คนอาจมองว่าเป็นสายบู๊ มีอ.เดชามาช่วยด้วย ความเก๋าอาจารย์เดชาจะทำให้กลุ่มเราแข็งแกร่งขึ้น เราช่วยเหลือประชาชนได้มากขึ้นด้วย

สุดท้ายอยากบอกอะไร?
ทนายเดชา : อยากบอกว่าที่ผ่านมาถ้าพี่ทำอะไรไม่เหมาะสมก็ขอโทษ อยากให้อภัยผม แค่นั้น

ทนายตั้ม : (ยกมือไหว้) ผมอภัยให้อาจารย์นะครับ แล้วก็ขอบคุณอาจารย์มาก ที่วันนี้มาให้ความจริงกับสังคม อาจารย์เป็นผู้ใหญ่แล้วมาขอโทษผมก่อน ผมซาบซึ้งมาก ถ้าสิ่งที่ผมทำกับอาจารย์ไป ไม่ว่าจะกระแนะกระแหนหรืออะไร ผมกราบขออภัยอาจารย์ ณ ที่นี้ด้วย

สำหรับผมอะไรที่เคยปั่นทำให้สองท่านมีปัญหากัน ตั้งแต่สมัยไหน?
ทนายเดชา : คุณสำนึกจริงเปล่านี่ (หัวเราะ)

ผมขอโทษจริงๆ จากใจ ถ้าผมเป็นส่วนนึงทำให้พี่สองคนผิดข้องหมองใจ ที่มาจากส่วนของผม ผมขอโทษนะพี่นะ อยากให้จับมือกันหน่อยในรายการ?
ทนายเดชา – ทนายตั้ม : (จับมือกัน)

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ