จนท.บุกทลายถ้ำค้างคาว พบ 25 คนซ่อนตัว อาศัยในถ้ำ นอนหนาวสั่น

Home » จนท.บุกทลายถ้ำค้างคาว พบ 25 คนซ่อนตัว อาศัยในถ้ำ นอนหนาวสั่น


จนท.บุกทลายถ้ำค้างคาว พบ 25 คนซ่อนตัว อาศัยในถ้ำ นอนหนาวสั่น

ทหารพราน ฉก-35 จังหวัดตาก บุกถ้ำกลางป่าทลายแหล่งซ่อนตัว พบ 25 คนนอนหนาวสั่น อาหารใกล้หมด

วันที่ 24 พ.ค. 65 พันเอกจักรพงษ์ เทพพันธุ์ ผบ.ฉก.ทพ.35 นำกำลังชุดเคลื่อนที่เร็วกองร้อยทหารพรานที่ 3508 พร้อมด้วยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 344 ท่าสองยาง ตำรวจ สภ.แม่เมย อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ร่วมกันนำกำลังเข้าลาดตระเวนบนเส้นทางภูเขาแนวชายแดนไทย-เมียนมา บริเวณป่าเชิงภูเขาพื้นที่หมู่บ้านแม่เหว่ยโพคี ต.แม่วะหลวง เพื่อสกัดกั้นการลักลอบขนแรงงานผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่ชายแดน

ต่อมาทหารพรานเดินเท้าไปถึงป่าเชิงภูเขาตรวจ พบรถกระบะ 2 คันไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จอดทิ้งไว้ในป่าและไม่พบเจ้าของรถทั้งสองคันทหารพรานจึงรีบวางกำลังปิดล้อมพื้นที่และตรวจพบบนเส้นทางภูเขาใกล้แนวชายแดนมีรถกระบะ 2 คัน รถจักรยานยนต์ 1 คัน ขับตามกันมา จอดอยู่ใกล้กับบริเวณใกล้กับปากทางเข้าถ้ำที่มีทางเข้าออกถ้ำไม่กว้างมากนักและชายคนขับ 3 คน เดินมุ่งหน้าไปที่ปากทางเข้าถ้ำแล้วหายตัวไปเป็นเวลานาน

เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังรีบเข้าไปตรวจสอบ สภาพด้านในค่อนข้างอับชื้นและมืดเต็มไปด้วยค้างคาว เจ้าหน้าที่พบอุปกรณ์หุงข้าวสนาม และปลากระป๋องจำนวนมาก ที่เปิดรับประทานแล้ว จากนั้นพบกลุ่มแรงงานผิดกฎหมายสัญชาติเมียนมาเป็นชาย 15 คน และเป็นหญิง 10 คน รวมทั้งหมด 25 คน หลบซ่อนตัวอยู่ภายในถ้ำซึ่งสภาพแรงงานทุกคนอยู่ในสภาพนอนหนาวสั่น

เจ้าหน้าที่ทหารพรานมอบเครื่องกันหนาว น้ำดื่มและอาหาร นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวคนไทยซึ่งเป็นคนขับรถที่มารับแรงงานทั้ง 25 คน ที่ปากถ้ำทราบชื่อ นายบัญชา อายุ 23 ปี นายจรัลอายุ 34 ปีและนายอัมรินทร์ อายุ 22 ปี ทั้งสามคนเป็นกลุ่มคนนำพาแรงงานจากถ้ำไปส่งที่หัวเมืองชั้นใน แต่มาถูกเจ้าหน้าที่ทหารพรานจับกุม ระหว่างการขนย้าย จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสามรายพร้อมแรงงานทั้งหมดส่งตรวจไปตรวจหาเชื้อโควิด ผลตรวจไม่พบติดเชื้อ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปสอบสวนเพื่อขยายผลต่อ

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า แรงงานทั้งหมดมีนายหน้าชุดแรกลักลอบนำพาจากประเทศเมียนมาลอบข้ามแม่น้ำเมย เข้ามาทางช่องทางธรรมชาติและนำไปหลบซ่อนตัวอยู่ภายในถ้ำในป่า เพื่อรอนายหน้าคนไทยชุดที่ถูกจับกุมมารับตัวอีกทอดหนึ่ง เพื่อจะเดินทางส่งไปทำงานที่หัวเมืองชั้นใน ซึ่งแรงงานทั้งหมดต้องจ่ายค่านายหน้าในการนำพาช่วยเหลือสูงถึงหัวละ 25,000 บาท เป็นขั้นต่ำ

โดยต้องหลบซ่อนตัวอยู่ภายในถ้ำที่เหลืออาหารแห้งและน้ำดื่มที่ใช้ประทังชีวิตเพียงน้อยนิดและต้องนอนขดตัวจากสภาพอากาศหนาวเย็นจากฝนตกหนักท่ามกลางค้างคาวภายในถ้ำสุดวังเวงน่ากลัวท่ามกลางความมืดมานานกว่า 2 วัน จนเจ้าหน้าที่ทหารพรานลาดตระเวนมาตรวจพบจนมาถูกจับกุมและเข้าช่วยเหลือ ล่าสุดเจ้าหน้าที่นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปดำเนินคดีที่ สภ.แม่เมย

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ