จากรณีที่ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแก้ปัญหาการแพร่ขยายพันธุ์ของปลาหมอคางดำ ในอำเภอระโนด จังหวัดสงขลา ในขณะนี้แม้เร่งรัดดำเนินการ ด้วยการรณรงค์ให้ชาวบ้านในพื้นที่ร่วมกันนำปลาหมอคางดำมาปรุงเป็นอาหารให้เพิ่มมากขึ้น เปิดจุดรับซื้อในพื้นที่บ้านบางหรอด ตำบลคลองแดน อำเภอระโนด เนื่องจากพบการระบาดในพื้นที่ตำบลคลองแดนและตำบลท่าบอน มากกว่าพื้นที่อื่นๆ ทั้งในลำคลองธรรมชาติ รวมถึงบ่อพักน้ำ ในบ่อเลี้ยงกุ้ง และบ่อกุ้งร้าง

ที่ทางชมรมผู้เลี้ยงกุ้งจังหวัดสงขลา ประเมินว่าน่าจะมีปลาหมอคางดำอยู่ประมาณ 50 ตัน แต่แม้จะเตรียมการ เปิดจุดรับซื้อ เพื่อรับซื้อปลาหมอคางดำในราคากิโลกรัมละ 15 บาท และประสานงาน เพื่อนำปลาหมอคางดำมาหมักเป็นปุ๋ย ณ จุดรับซื้อ เพื่อลดความเสี่ยงที่จะขยายพื้นที่ระบาดจากการขนย้าย

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดนั้นทางการยางแห่งประเทศไทยแจ้งว่า ต้องชะลอการรับซื้อออกไปก่อน เนื่องจากใช้งบประมาณ 50 ล้านบาท รับซื้อปลาหมอคางดำหมดแล้ว ทำให้จุดรับซื้อในอำเภอระโนดจังหวัดสงขลาต้องหยุดดำเนินการไปก่อน ทั้งที่ยังไม่ได้รับซื้อแม้แต่กิโลกรัมเดียว ในขณะที่ผู้เลี้ยงกุ้งรอที่จะกวาดจับปลาหมอคางดำออกจากบ่อเลี้ยง เช่นเดียวกับในลำคลองธรรมชาติ ที่ต้องเร่งรัดดำเนินการลดจำนวนปลาหมอคางดำก่อนที่จะถึงฤดูน้ำหลาก

นายภทรพล สังขไพทูรย์ ประธานชมรมผู้เลี้ยงกุ้งจังหวัดสงขลา กล่าวว่า หน่วยงานรัฐควรจะมีมาตรการที่ชัดเจนในการแก้ปัญหาเรื่องปลาหมอคางดำ เพราะจุดรับซื้อที่จังหวัดสงขลายังไม่ทันเปิดรับซื้อก็มีการสั่งชะลอโครงการฯไปแล้ว

ในขณะที่จำนวนปลาหมอคางดำมีอยู่จำนวนมาก และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งคลองธรรมชาติ บ่อพักน้ำ และบ่อกุ้งร้าง โดยทางชมรมฯเตรียมที่จะเปิดจุดรับซื้อปลาหมอคางดำและกวาดจับปลาหมอคางดำจากบ่อพักน้ำในวันที่ 23 ส.ค.นี้ และเตรียมพร้อมทุกอย่างไว้หมดแล้ว แต่สั่งเลื่อนการรับซื้อออกไปก่อน ทำให้กังวลว่าในฤดูน้ำหลาก จะระบาดไปในลำคลองในอำเภอใกล้เคียงรวมถึงทะเลสาบสงขลา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกเหนือจากปัญหาเงินที่ใช้ในการรับซื้อหมดแล้ว ส่วนหนึ่งอาจจะมาจากการรอแนวทางที่ชัดเจนในเรื่องนโยบาย ที่ยังอยู่ระหว่างการเตรียมโผคณะรัฐมนตรี เพื่อรอดูความชัดเจนจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในครม.ชุดใหม่ ภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี