คุกผู้ดีจับสุนัขเลี้ยงอดข้าวปางตาย จนท.สุดเดือดสืบล่าตัว2ปีไม่ลดละ

คุกผู้ดีจับสุนัขเลี้ยงอดข้าวปางตาย – วันที่ 10 มี.ค. เดลีเมล์รายงานการสิ้นสุดของคดีทารุณกรรมสัตว์ครั้งร้ายแรงในประเทศอังกฤษ กรณีเจ้า “ทิกกิ้” ลูกสุนัขสายพันธุ์เลอร์เชอร์ ถูกคู่รักที่เป็นเจ้าของทารุณให้อดอาหารและน้ำจนอยู่ในสภาพปางตาย ตั้งแต่เมื่อปลายปี 2562

คดีดังกล่าวถือเป็นหนึ่งในการทารุณกรรมสัตว์ครั้งรุนแรงที่สุดของมณฑลนอร์ทัมบาลันด์ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษอย่างไม่ลดละนานถึง 2 ปี เนื่องจากคดีดังกล่าวสร้างความสะเทือนใจให้สังคมอย่างมาก

หมายเหตุ ภาพประกอบและเนื้อหาต่อไปนี้มีความรุนแรง อาจประทบกระเทือนจิตใจผู้รักสัตว์

โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

เรื่องราวเริ่มขึ้นเมื่อช่วงก่อนเทศกาลคริสต์มาสในปี 2562 เจ้าหน้าที่สภาเมืองได้รับแจ้งจากนายเคอร์รี แพทเทอร์สัน อายุ 35 ปี และนางรีส มิลเบิร์น อายุ 30 ปี ว่าพบสุนัข (อายุ 3 ปี ชื่อ ทิกกี้) ถูกนำมาทิ้งที่ข้างทางในเมืองไบลธ์ เจ้าหน้าที่พิทักษ์สัตว์จึงเข้าตรวจสอบ

เจ้าหน้าที่คนดังกล่าว ระบุว่า ครั้งแรกราเห็นเจ้าทิกกี้นั้นรู้สึกสะอิดสะเอียนกับผู้ที่ทำให้มันต้องตกอยู่ในสภาพที่เห็นอย่างมาก เพราะผอมจนหนักติดกระดูก เห็บและหมัดเต็มตัว อยู่ในภาวะขาดน้ำและอาหารรุนแรงจนไม่มีแรงแม้แต่จะยันร่างตัวเองลุกขึ้นยืน ถือเป็นภาพที่สะเทือนใจที่สุดในชีวิตการทำงานของตนนาน 15 ปี

ด้านสภานอร์ทัมบาลันด์จึงประกาศขอให้เจ้าของของเจ้าทิกกี้เดินทางมารับตัวมันกลับบ้านหลังเจ้าหน้าที่ให้การช่วยเหลือไว้ได้ แต่หลายวันถัดมาทางสภากลับได้รับเบาะแสจากพลเมืองดีจำนวนมาก ระบุว่า แท้จริงแล้วเจ้าของของทิกกี้ก็คือนายแพทเทอร์สันกับนางมิลเบิร์น

นายแพทเทอร์สันกับนางมิลเบิร์น กล่าวยอมรับผิดต่อศาลเมื่อ 3 มี.ค. ที่ผ่านมา ทั้งยังเปิดเผยว่ากระทำทารุณในรูปแบบเดียวกันกับสุนัขเลี้ยงอีกตัวสายพันธุ์ สแตฟเฟอร์ดไชร์ บูล เทอร์เรียร์ ชื่อ เอ็นโซ เจ้าหน้าที่จึงรุดเข้าช่วยเหลือมันไว้ พบว่าอยู่ในสภาพแทบไม่ต่างจากเจ้าทิกกี้

ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสองคนด้วยการจำคุกนาน 12 สัปดาห์ พร้อมปรับอีก 120 ปอนด์ หรือราว 5,200 บาท โดยนายฟิลิป โซเดอร์เควสต์ โฆษกสภามณฑลนอร์ทัมบาลันด์ กล่าวว่า เป็นคดีทารุณกรรมสัตว์ครั้งร้ายแรงและน่าตกใจที่สุดเท่าที่ตนเคยพบมา

นายโซเดอร์เควสต์ ระบุอีกว่า คดีที่เกิดขึ้นทำให้เจ้าหน้าที่ของสภาเมืองทำงานอย่างไม่ลดละเพื่อต่อสู้นำตัวผู้กระทำทารุณกรรมสัตว์เช่นนี้มาลงโทษให้จงได้ แม้จะใช้เวลานานถึง 2 ปี แต่ในที่สุดก็ประสบผลสำเร็จ และเจ้าทิกกี้ รวมถึงเอ็นโซ จะได้พบกับตอนจบที่มีความสุข

ทั้งนี้ เจ้าทิกกี้ ได้รับความช่วยเหลือและฟื้นฟูสภาพร่างกายกลับสมบูรณ์แข็งแรงแล้ว รวมถึงได้เจ้าของใหม่และชื่อใหม่ด้วย ขณะที่เจ้าเอ็นโซนั้นยังอยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่และคาดว่าจะกลับมาแข็งแรงแล้วไปใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านใหม่กับเจ้าของใหม่ของมันได้ในที่สุด