สุรินทร์ ชาวบ้านหัวใสใช้เครื่องขยายเสียงเปิดล่อแมงกระชอน จับได้คืนละเกือบร้อยโล แม่ค้ามารับซื้อถึงที่ รายได้เข้าครัวเรือน ลูกค้านิยมกิน ช่วงนี้กำลังไข่ รสชาติมัน แถมทำเมนูได้สารพัดเมนู
6 พ.ค. 65 – ถนนข้างทุ่งนาท้ายหมู่บ้านโคกทม ต.โคกยาง อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ นายพิทักษ์ งามแฉล้ม อายุ 40 ปี ชาวบ้านตะหมาดปวง ม. 5 ต.บ้านไทร อ.ปราทาส จ.สุรินทร์
พาพ่อออกหาแมงกระซอนช่วงกลางคืน เพื่อนำไปขายสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัว รวมถึงนำไปประกอบเป็นอาหารกินกันในหมู่ญาติพี่น้อง โดยนำเครื่องขยายเสียงต่อเข้ากับลำโพง หรือฮอน
ก่อนนำเสียงแมงกระชอนที่โหลดจากยูทูบ มาเสียบเปิดต่อใส่เครื่องเสียง โดยใช้ไฟจากแบตเตอร์รถยนต์จำนวน 2 ลูก เปิดหลอกล่อให้แมงกระชอนบินมาตามเสียงหาลำโพง ที่ตั้งอยู่ด้านบนกระบะใส่น้ำ พร้อมเปิดไฟสีล่อและนำถุงพลาสติกมากั้นไว้ เพื่อให้แมงกระชอนที่บินมาหาไฟชนเข้ากับถุงพลาสติกและตกลงในกระบะที่อยู่ด้านล่าง
ตลอดเวลาที่มีการเปิดเสียงล่อแมงกระชอน พบว่ามีแมงกระชอนจำนวนมาก บินมาจากทั่วทุกทิศ มุ่งหน้ามาที่ลำโพงฮอน ก่อนจะบินเข้าหาหลอดไฟสี และตกลงในกระบะที่รองไว้ ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมง ก็จะได้แมงกระชอนเกือบครึ่งกระบะ จากนั้นก็นำตระกร้าพลาสติกมาตักใส่ถัง แล้วไปเก็บไว้ในถัง 200 ลิตรที่เตรียมไว้บนรถกระบะ
คืนหนึ่งสามารถจับแมงกระชอนได้ 50-100 กิโลกรัม มีแม่ค้ามารับซื้อในหมูบ้าน ราคากิโลกรัมละ 40 บาท สามารถสร้างรายได้ 2,000-3,500 บาท ต่อคืน ถือเป็นอาชีพหลักในการสร้างรายได้ในช่วงนี้ได้เป็นอย่างดี นอกเหนือจากการทำไร่ทำนา
นายพิทักษ์ งามแฉล้ม อายุ 40 ปี ชาวบ้านตะหมาดปวง บอกว่า ตนใช้เครื่องขยายเสียงกับหลอดไฟล่อเพื่อให้แมงกระชอน ตกลงไนอ่างที่ใส่น้ำไว้ เป็นวิธีแบบใหม่ เมื่อก่อนทำมาแล้วแล้วหลายวิธี ทั้งย่ำในโคลนหญ้าจับ ใช้มอเตอร์ไซค์เบิ้ลเครื่องล่อ ต่อมาก็เปิดเสียงล่อแล้วก็ใช้จับมือเป็นตัวๆ ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นวิธีล่าสุด คือนำกระบะที่ใช้ผสมปูนมาใส่น้ำรองไว้ที่ใต้หลอดไฟ
วิธีนี้ไม่ต้องเสียเวลาจับเลย คืนหนึ่งหากไม่มีฝนก็ได้ประมาณ 50-60 กิโลกรัม บางคืนก็เกือบ 100 กิโลกรัม ตรงนี้แล้วแต่สภาพอากาศ เพราะแมงกระชอนจะออกตามสภาพอากาศ ถ้ามีลมก็ไม่ออก แมงชอนจะออกหลังช่วงฤดูเก็บเกี่ยวเป็นต้นมา พอดินเริ่มแห้งก็จะเริ่มมีแล้ว
ส่วนตนเริ่มตั้งเครื่องเสียงล่อมาตั้งแต่หลังปีใหม่ ซึ่งพอเข้าหน้าร้อน ชาวบ้านเกือบทั้งหมู่บ้านก็ออกมาหาจองทำเลตั้งเครื่องล่อแมงชอนกัน แต่ถ้าเป็นช่วงนี้จะมีแต่ตัวไข่ รสชาติมันเต็มตัว นำไปทำอะไรก็อร่อย
หากผ่านพ้นช่วงนี้ เข้าสู่ฤดูฝนเต็ม ชาวบ้านก็จะไม่หากัน เพราะรสชาติจะไม่อร่อย ถือว่าตอนนี้เป็นธุรกิจหมู่บ้านไปแล้ว เป็นรายหลักก็ว่าได้ นอกเหนือจากการทำนาไร่ ตอนขายก็จะมีแม่ค้าเข้ามารับในหมู่บ้าน โดยเริ่มแรกต้นฤดูจะรับซื้อในราคากิโลกรัมละ 120 บาท พอเริ่มจับแมงชอนได้มากขึ้น ตอนนี้รับซื้ออยู่ที่กิโลกรัมละ 40 บาท
สำหรับปีนี้ตนสามารถจับได้คืนหนึ่งสูงสุดประมาณ 120 กิโลกรัม ส่วนเมนูที่เขานิยมนำไปทำกิน ก็จะเป็นจำพวก คั่ว ลาบ ยำ และตำน้ำพริก ถ้าจะกินแมงกระชอน ต้องเป็นช่วงนี้ รสชาติอร่อย หากใครสนใจสามารถสั่งซื้อได้ที่เบอร์ โทร.094-4603661