คำผกา ชวนคิด หยุดยาวก.ค. 15 วัน ข้าราชการได้เปรียบ ทำงานคุ้มภาษีหรือไม่ ยกต่างประเทศ หยุดยาวกำหนดเป็นปี รู้ล่วงหน้า ทุกคนควรได้สิทธิเท่ากัน
วันที่ 21 มิ.ย.2565 ข่าวจบ คนไม่จบ! วิเคราะห์เจาะลึก ถึงพริกถึงขิง จากมุมมอง “อั๋น ภูวนาทและ แขก คำผกา” กับ 3 วิพากษ์เผ็ดร้อน 3 ประเด็นฮอต เตามหาเศรษฐี ,ดารุมะ วอยเชอร์ทิพย์, ก.ค.หยุดฉ่ำ รัฐทัวร์ทั่วไทย โดยพิธีกรคืออั๋น-ภูวนาท คุนผลิน และคำผกา ลักขณา ปันวิชัย สำหรับเรื่องก.ค.หยุดฉ่ำ 15 วันผุดซ้ำรัฐทัวร์ทั่วไทยนั้น ทางอั๋นเผยว่า ตอนแรกคิดว่าเป็นข่าวปลอมหรือเปล่า ต้องเช็กก่อนไม่กล้าแชร์ ประชดประชันให้ขำหรือไม่ ก่อนจะพบว่าทางข้าราชการหยุดรวมวันเสาร์-อาทิตย์จะหยุดยาวถึงครึ่งเดือนด้วยกัน
โดยเริ่มจากวันที่ 13 ก.ค. เป็นวันอาสาฬหบูชา วันพุธที่ 14 ก.ค.เป็นวันเข้าพรรษา วันที่ 15 ก.ค.จึงแถมให้หยุด รวมเสาร์อาทิตย์ก็เลยหยุดยาวได้ 5 วัน จากนั้นวันที่ 28 ก.ค. เป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษา หลังจากนั้นวันศุกร์ที่ 29 ก.ค. เพื่อให้หยุด รวมเสาร์อาทิตย์จะได้เดินทางกัน คงเพื่อกระตุ้นให้คนเดินทางกระจายรายได้ พยุงเศรษฐกิจ ให้เงินหมุนไป โดยโปรโมทให้เที่ยวเมืองไทยก่อน
อ่านข่าว เดือนก.ค.หยุดกันจุกๆ เปิดวันหยุด-วางแผนเที่ยว รวมแล้วได้ถึง 15 วัน
ตนกำลังจะไปต่างประเทศเหมือนกัน แต่เข้าใจว่าเราต้องรณรงค์ให้เที่ยวในประเทศมากขึ้น แบ่งใจมาเที่ยวไทยด้วย อย่าลืมกัน
ทางคำผกาเผยว่า ประเทศนี้ค่อนข้างเหนือล้ำมาก ที่ข่าวจริงแล้วดูเหมือนข่าวปลอมมาก ตอนแรกเราก็นึกว่าเป็นเพจล้อเลียนทำขึ้นมา เพื่อหลอกด่าหรือไม่ ปรากฎว่าเป็นเรื่องจริง
สำหรับวันหยุดนั้น อันดับแรก มันหยุดเฉพาะหน่วยงานราชการ คำถามคือข้าราชการทุกคนรับเงินเดือนจากภาษีของประชาชน แต่ 1 เดือน ทำแค่ 15 วัน ต้องมาดูว่าเดือนก.ค. ข้าราชการจะทำถึง 12 วันหรือไม่ แต่รับเงินเดือนภาษีประชาชนเต็มๆ
อีกทั้งการมีวันหยุดขนาดนั้น งานเอกสารเพื่อบริการประชาชน มันก็ขาดตอนไปด้วย ความล่าช้าต่างๆ ก็จะบังเกิด และประเทศไทย มักจะบอก 7 วันทำการ 3 วันทำการ คนก็ไม่รู้ว่าจะเป็นกี่วัน หากหักวันหยุด ก็ไม่ใช่วันทำงานแล้ว ทุกอย่างก็จะช้าไปหมด นี่คือพูดในแง่ประสิทธิภาพของการทำงาน เอกชนไม่หยุดก็ได้รับผลกระทบไปด้วย
หากจะทำงานวันหยุด ข้าราชการก็จะได้รับค่าล่วงเวลาที่มาทำในวันหยุด ประเมินว่าข้าราชการทำงานคุ้มค่ากับเงินเดือนหรือไม่ เวลาอยากกระตุ้นการท่องเที่ยว มันจะต้องเพิ่มเงินในกระเป๋าประชาชนก่อน เพิ่มวันหยุดกับลดภาษีสรรพสามิต เพิ่มศักยภาพของประชาชน อะไรจะคุ้มต่อประชาชน
การเพิ่มวันหยุด ทำให้มันหยุดเยอะแยะไปหมด ช่วงหยุดทั่วไป ในต่างประเทศไม่มีหยุดเทศกาลเยอะขนาดนี้ มีกฎหมายกำหนดแรงงานว่ามีสิทธิหยุดได้กี่วัน หากมากกว่านั้นก็ไปคุยกับฝ่ายทรัพยากรของบริษัทตัวเองไป สิทธิที่จะหยุดลาพักร้อนเหมือนกัน มันจะผลัดกันหยุด แต่บริษัทไม่หยุดเลยแม้แต่วันเดียว อาจจะปิดเฉพาะช่วงหยุดยาวเกือบ 2 อาทิตย์ ทุกคนก็จะเข้าใจว่ามันคือ โกลเด้นวีก ทุกคนก็จะไม่ทำอะไรเลย เตรียมตุนอาหาร เพราะร้านปิดหมด
เราควรใช้กฎหมายแรงงานที่เสมอหน้ากันทั้งข้าราชการและพนักงานเอกชน ประเทศไทยควรใช้วิธีที่สากลแบบนี้ ต้องเข้าใจว่าเราเป็นรัฐโลกวิสัย ทุกศาสนาเท่าเทียมกัน แต่ทำไมวันทางพุทธศาสนาเท่านั้น ที่ประกาศเป็นวันหยุด ซึ่งขัดกับรัฐโลกวิสัย ไม่ใช่ว่าให้เอาวันหยุดของทุกศาสนามารวม แต่ไม่ควรเอาวันหยุดของศาสนามานับเป็นวันหยุด รัฐโลกวิสัย รัฐฆราวาสจะไม่ทำแบบนี้ เพราะทุกศาสนามีสถานะเท่าเทียมกัน
ทางอั๋นคิดว่า วันหยุดเทศกาลใหญ่ๆ เช่นสงกรานต์ มีกำหนดเลยว่า หยุดไป 10 วันเลย มีกำหนดชัดเจน ทุกปีอยู่ตรงนี้ สามารถวางแผนได้ เพราะรู้ว่ามันหยุดยาว ซึ่งข้าราชการมีเยอะ มากถึง 2.5 ล้านคน แต่ละคนเดินทางต่อทริป ใช้เงิน 4.1 พันบาท รวมกินเที่ยว เดินทาง 90% ก็จะมีมูลค่าสูงไป 7 เท่า แต่เราประเมิน 2.5 เท่า มีเงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาท ซึ่งไม่ผิด แต่ต้องมองให้รอบด้าน
มันมีโครงการข้าราชการทัวร์ทั่วไทย ให้หยุด 2 วัน ไม่ต้องติดกันก็ได้ ไปเลือกเอง เพื่อช่วยให้เกิดการกระตุ้น แต่ความเสียหายมันคุ้มไหม ถ้าทำแบบนี้ จะมีประสิทธิภาพดีเลิศ ถ้าทำงานได้ดี ประชาชนจะไม่ว่าเลย
คำผกาเผยว่า เราไม่รู้ว่าวันหยุดแบบนี้ ปีหน้าจะอยู่ตรงไหน วางแผนไม่ได้ และรายได้หมุนเวียน มันคำนวณที่เราติดต่อข้าราชการไม่ได้แล้วหรือยัง งบประมาณรายจ่ายประจำปี เกือบทั้งหมด เป็นเงินเดือนและสวัสดิการของข้าราชการ ซึ่งเป็นงบที่ทำให้ประเทศก้าวหน้า มีแค่ 20 % ของงบเหล่านี้ ส่วนอีกกว่า 70% เป็นงบจ่ายเงินเดือนข้าราชการ
ตนขอยกตัวอย่างญี่ปุ่นมีประชากร 100 ล้านคนเทียบกับไทย 70 ล้านคน แต่เรามีข้าราชการมากกว่าเขา 2 เท่า สิ่งที่เราต้องคิด คือลดการใช้มนุษย์ในข้าราชการ งานเอกสารต้องลด ถ้าเราเอาระบบคอมพิวเตอร์มาทำงาน จะลดงานข้าราชการเกือบครึ่ง ไม่ใช่ให้ไล่ออก แต่ก็ต้องทำแผนเออร์ลีรีไทร์ และพัฒนาทักษะข้าราชการให้ดีมากกว่าเดิม ใช้เวลา 10 ปี ค่อยๆ ลดบทบาทข้าราชการ มีการกระจายอำนาจ ให้ข้าราชการไปสังกัดหน่วยงานปกครองท้องถิ่น โดยใช้งบประมาณท้องถิ่น
10 ปีเกิดขึ้นได้ ในการปฏิรูประบบราชการไทย แล้วเอาเงินนั้นมาใช้พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน
“อะไรที่มันเป็นแห่งรัฐ มันดูอุ้ยอ้าย มันต้องอาศัยการปฏิรูป น่าจะต้องดูตรงนี้ ไม่ใช่ไล่คนออก แต่ต้องจัดสรรให้ได้ประสิทธิภาพคุ้มค่า”