คำผกา ชี้ก้าวไกลตั้งรัฐบาลแค่ 310 เสียง หวังใช้เสียง ปชช. ปลุกจิตสำนึกส.ว.

Home » คำผกา ชี้ก้าวไกลตั้งรัฐบาลแค่ 310 เสียง หวังใช้เสียง ปชช. ปลุกจิตสำนึกส.ว.


คำผกา ชี้ก้าวไกลตั้งรัฐบาลแค่ 310 เสียง หวังใช้เสียง ปชช. ปลุกจิตสำนึกส.ว.

‘อั๋น’ ร้องไห้ดีใจคนตื่นตัวไปเลือกตั้ง ทำให้ประเทศมีความหวัง ‘คำผกา’ ชี้ก้าวไกลตั้งรัฐบาลแค่ 310 เสียง หวังใช้เสียงประชาชน ปลุกจิตสำนึก ส.ว.

เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 16 พ.ค. 2566 ข่าวสดออนไลน์ จัดรายการ “ข่าวจบ คนไม่จบ” ดำเนินรายการโดย อั๋น ภูวนาท คุนผลิน และแขก ลักขณา ปันวิชัย หรือคำ ผกา ในหัวข้อ “การเมืองไทยเปลี่ยนเกม ก้าวไกลผนึกเพื่อไทย จัดตั้งรัฐบาล ล้มช้างบ้านใหญ่ สูญพันธุ์”

คำ ผกา กล่าวว่า ครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งที่เรารอคอย เพราะการเลือกตั้งปี 2562 ในกติกาที่รู้ว่าเขาออกแบบมาทุกอย่าง เพื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร ได้สืบทอดอำนาจ คสช.ต่อ เราอยู่ภายใต้รัฐบาล คสช. อยู่ภายใต้การบริหารประเทศ โดยมีมาตรา 44 กำกับมา 4 ปี แล้วเลือกตั้งปี 2562 ปลดล็อกมาแค่นิดเดียว ทำให้เราอยู่ใต้รัฐบาลประยุทธ์ มาอีก 4 ปี

คำ ผกา กล่าวต่อว่า ทุกคนรู้ว่าพรรคเพื่อไทยได้ป๊อปปูลาร์โหวตสูงสุด แต่ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ เพราะมี ส.ว. 250 คน แล้วพรรคไทยรักษาชาติโดนยุบ มีคะแนนปัดเศษ ทำให้เกิดพรรคเล็กมา 14-15 พรรค ได้ส.ส.มาพรรคละคน พรรคเล็กกลายเป็นมุ้งแห่งอำนาจการต่อรองในการยกมือผ่านกฎหมาย เกิดสภาพแวดล้อมระบบนิเวศงูเห่า สวนกล้วย แล้วเป็น 4 ปีแห่งความพังพินาศแห่งการบริหารประเทศ

คำ ผกา กล่าวอีกว่า เราล่มสลายทุกมิติ ทั้งการท่องเที่ยว การค้า เศรษฐกิจ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โควิด ทุกคนเห็นความล้มเหลวกับตัวเอง คนที่เคยหลงผิดสนับสนุนรัฐประหาร คนที่เคยหลงผิดสนับสนุนให้มี ส.ว. เลือกนายก หรือสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ก็รู้สึกว่าพอแล้ว

คำ ผกา สภาวะที่ทุกคนมีร่วมกันคือจะอ้วกกับความล้มเหลวทุกมิติของประเทศ เราเป็นประเทศเดียวในอาเซียนที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ทุกคนวิเคราะห์ว่า การเมืองงูเห่า การเมืองสวนกล้วย ไม่ได้เกิดจากสันดานนักการเมืองอย่างเดียว แต่เกิดจากกติกาและระบบที่ออกแบบให้สามารถเล่นการเมืองแบบนี้ได้ จึงมีการแก้ไขกติกาให้เป็นการเลือกตั้งแบบคู่ขนาน มีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ สามารถเลือกส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลือก ส.ส.เขตได้ เพื่อไม่ให้มี ส.ส.ปัดเศษ

คำ ผกา กล่าวต่อว่า มีปัจจัยที่น่าสนใจคือความแตกแยกระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ กับ พล.อ.ประวิตรจนถึงขั้นแยกออกเป็น 2 พพรค คือ พลังประชารัฐกับรวมไทยสร้างชาติ ทำให้เขาต้องไปแย่งคะแนนกันเอง อันนี้เป็นผลดีกับฝั่งประชาธิปไตย

คำ ผกา กล่าวอีกว่า ตรงกันข้ามฝั่งประชาธิปไตยก็มี 2 พรรคที่แข่งและแย่งคะแนนกัน คือ พรรคเพื่อไทย กับพรรคก้าวไกล แต่การแย่งคะแนนกันระหว่างพรรคเพื่อไทยกับก้าวไกล เป็นการแข่งกันระหว่างพรรคการเมือง แต่ไม่ได้สร้างผลเสียกับประชาชน เพราะเป็นพรรคประชาธิปไตยทั้งคู่ พรรคไหนจะชนะ ประชาชนก็ได้ประโยชน์

คำ ผกา กล่าวอีกว่า ถ้าเราเชียร์พรรคไหน อยากให้พรรคเราชนะ ก็ต้องสู้กัน งัดทุกกลยุทธ์มาแข่งกันเพื่อให้เสียงมากที่สุด แต่ไม่ได้ทำลายล้างกระบวนการประชาธิปไตย แต่การแข่งขันกันระหว่างพรรคของ พล.อ.ประยุทธ์ กับ พล.อ.ประวิตร เป็นการทำลายล้างต่อองคาพยพของกลุ่มก้อนที่จะสืบทอดอำนาจเผด็จการและรัฐประหาร

คำ ผกา กล่าวต่อว่า ความตื่นเต้นตื่นตัวทางการเมือง คนที่เชียร์พรรคก้าวไกลกับเพื่อไทย ต้องช่วยกันออกไปใช้สิทธิ์ มองในแง่นี้ บันไดขั้นที่ 1 เรามีความตื่นเต้นที่จะปลดแอกของเราทุกคนออกจากระบบสืบทอดอำนาจตรงนี้ เกิดวัฒนธรรมประชาธิปไตยที่หยั่งรากลึกลงไปในดิน

คำ ผกา กล่าวอีกว่า ทุกคนรู้ว่าเสียงของตัวเองมีความหมาย ทุกคนรู้ว่าการเลือกตั้งมีความหมาย แม้จะยังไม่สมบูรณ์แบบ เพราะมี 2 มิติที่คู่ขนานกัน คือการแข่งกันเรื่องแคมเปญ และการแข่งกันที่นโยบาย แต่วันนี้ทุกคนเจอกับล็อก 376 เสียง เพราะพรรคที่ได้อันดับ 1 รวมกับพรรคที่ได้อันดับ 2 เสียงไม่พอจะไปปิดสวิตช์ ส.ว.

ด้าน อั๋น กล่าวว่า ตนไม่หวังอยู่แล้วว่าพรรคเดียวจะได้ 376 เสียง มันเกินฝันไปนิดนึง แต่ในที่สุดอย่างน้อยสิ่งที่เห็นเป็นรูปธรรมและจับต้องได้ คือคนตื่นตัวกับการเลือกตั้งกันมาก รู้สึกดีที่มีคนออกมา กทม.ออกมาด้วยสถิติสูงุสดในประวัติศาสตร์ชาติไทย ทุกคนกระตือรือร้น หวงแหนในสิทธิ์และ 1 เสียงของตัวเอง ที่ผ่านมาตนพูดเรื่องนี้มาตลอด และรู้สึกโดดเดี่ยว เหมือนเอาตัวเองมาเสี่ยงตาย อยู่ดีๆ ก็เอาตัวเองออกมายืนแลกกับอะไรไม่รู้ แต่มาเห็นวันนี้ดีใจแทบจะร้องไห้(ก้มหน้าร้องไห้)

คำ ผกา กล่าวต่อว่า เราไม่ต้อนรับการรัฐประหารอีกต่อไปแล้ว เราเป็นเจ้าของประเทศ เราเป็นเจ้าของสิทธิการเมืองของเรา และไม่มีใครพรากสิทธินั้นไปจากเราได้ ทุกครั้งที่เราเลือกตั้ง คือการที่เราอนุญาตให้นักการเมืองใช้สิทธิของเราแค่ 4 ปี พอครบ 4 ปี อำนาจนั้นจะกลับมาที่เราอีกครั้ง ขอให้ประเทศไทยเป็นแบบนี้

อั๋น กล่าวว่า ตอนที่เห็นการพลิกครั้งนี้เกิดขึ้น ซึ่งอาจจะยังไม่มากพอ แต่มันก็มากเพียงพอ เมื่อคนส่วนใหญ่เห็นว่ามันไม่ปกติ ซึ่งเรารู้สึกกลัวมากว่าความไม่ปกติจะถูกทำให้ปกติในสังคมไทย เพราะที่ผ่านมาความล้มเหลวที่ถูกพยายามพูดว่าสำเร็จ เศรษฐกิจไม่ดีที่พูดว่าดี การประสบความสำเร็จที่เจ้าตัวเคลมผลงาน โดยที่ไม่สนว่าคนอื่นรู้สึกอย่างไร การพูดถึงความสำเร็จและความนิยมของตัวเองอย่างล้นเหลือ โดยที่ไม่ดูว่าในประเทศเขารู้สึกอะไรกันอยู่

อั๋น กล่าวอีกว่า เมื่อเลือกตั้งจึงได้คำตอบที่ใหญ่มากพอที่ทำให้รู้ว่า สิ่งที่หลายๆ คนรู้สึก และเราพยายามพูดมาอย่างต่อเนื่องหลายปี มันมีคนเห็น มีคนฟัง มีคนได้ยิน มีคนเข้าใจ เราไม่ได้โดดเดี่ยว เรารู้สึกเหมือนกัน ซึ่งคนที่เลือกต่างไม่ได้แปลว่าผิด แต่การเลือกตั้งมันมากพอให้เรามีหวัง

คำ ผกา กล่าวว่า ประชาธิปไตยไม่ใช่ไข่ทองคำ ไม่ใช่แม่ห่านแม่เป็ด ไข่มาปุ๊บเป็นทองคำเหลืองอร่ามมันจะงดงาม อยากให้ทุกคนเตรียมใจไว้ว่า จุดเริ่มต้นเราได้อำนาจการเมืองกลับคืนมาเป็นของประชาชนอีกครั้ง แต่เราต้องยืนอยู่บนโลกแห่งความจริง โปรดรู้และเข้าใจ ทำจิตใจให้สงบต่อความจริงที่ว่า การปกครองในระบอบประชาธิปไตยจะเต็มไปด้วยความวุ่นวาย การถกเถียง การต่อรองแย่งชิงกันระหว่างกลุ่มผลประโยชน์ต่างๆ

เช่น ของเราอาจเป็นสหภาพแรงงานสื่อ หรือการต่อสู้เพื่อเสรีภาพของสื่อ ผลประโยชน์ของคนอื่นอาจจะเป็นความต้องการที่ดินทำการเกษตร แต่อีกกลุ่มอาจจะบอกว่าพื้นที่การเกษตรทำลายป่าไม้ เราต้องการพื้นที่ป่าอนุรักษ์มากกว่านี้ พวกเกษตรกรควรไปเพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้มาก ใช้ที่ดินให้น้อย เอาที่ดินที่เหลือไปปลูกป่า นี่คือการต่อรองระหว่างผลประโยชน์ของกลุ่มต่างๆ และมันจะทำให้เราทะเลาะกันเยอะมาก

คำ ผกา กล่าวต่อว่า หลังการเลือกตั้งแล้วเข้าสู่โหมดของประชาธิปไตย เราจะเจอกับความวุ่นวาย ผลประโยชน์ จะทะเลาะเบาะแว้ง จะมีบรรยากาศแห่งความน่าเบื่อหน่ายหลายอย่าง ภายใน 4 ปีหลังจากนี้จะไม่ได้ราบรื่น ไม่มีได้ผลไม้สุกรอเราอยู่ในเร็ววัน แต่เป็นสิ่งที่พวกเราจะต้องยึดโยงอยู่กับกระบวนการประชาธิปไตย แล้วพามันไปให้ถึงฝั่งจนกว่าจะมีการเลือกตั้งอีกครั้ง

“วันนี้เราได้เริ่มต้นดีมากๆ คือพรรคที่สนับสนุนระบบเผด็จการอำนาจนิยมต่างๆ อ่อนแอลงโดยพร้อมเพรียงกัน พรรคพลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ ประชาธิปัตย์ 3 พรรคนี้อ่อนแอลงอย่างมีนัยยะสำคัญ ถ้า 3 พรรคนี้จะปิดกิจการ แล้วเกิดการย้ายพรรคของพรรคการเมือง ไปอยู่ในพรรคอื่น ขอร้องให้ทุกคนสงบอย่าเพิ่งไปด่าเขา เพราะนักการเมืองต้องหาสังกัด แล้วเราควรจะดีใจว่าพรรคเหล่านี้จะสูญพันธุ์”

คำ ผกา กล่าวต่อว่า วันนี้คนของพรรคประชาธิปัตย์ก็ออกมาเคลื่อนไหวว่า ถ้าไม่อยากจะสูญพันธุ์ ต้องโหวตให้ พิธา เป็นนายกฯ แต่ถ้าคุณไม่ยืนอยู่บนหลักการประชาธิปไตย สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรรม พรรคคุณอาจต้องปิดกิจกการ ส.ส.ในพรรคจะต้องไปหาสังกัดใหม่

“พรรคการเมืองแบบภูมิใจไทย ชาติไทยพัฒนา หรือประชาชาติ แม้จะมีอุดมการณ์แตกต่างกันออกไป อาจจะไม่ได้ถูกใจเรา คือดีกรีความเป็นอุดมการณ์ประชาธิปไตยไม่ได้เข้มข้น โปรดวางพรรคเหล่านี้ไว้ในพรรคภูมิภาคนิยม เพราะเขาเป็นตัวแทนกลุ่มผลประโยชน์ของภูมิภาคเขา จังหวัดเขา”

“พรรคประชาชาติก็เป็นตัวแทนของผลประโยชน์ของคน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ภูมิใจไทยก็เป็นตัวแทนกลุ่มคนในอีสานใต้ ชาติไทยพัฒนาก็เป็นตัวแทนของคนสุพรรณฯ อย่าเพิ่งไปดูถูกเหยียดหยามเขา แต่ถ้าเขาทำงานไม่ดี เราด่าได้ เขาไปคุมกระทรวงไหน แล้วคอรัปชั่น ต้องตรวจสอบ แต่อย่าเพิ่งไปแปะป้ายว่า เป็นพรรคบ้านนอก เป็นพรรคผู้รับเหมา สิ่งนี้ไม่ดีต่อกระบวนการประชาธิปไตย”

คำ ผกา กล่าวอีกว่า กระบวนการประชาธิปไตยเราต้องการความเข้มแข็งของสถาบันพรรคการเมือง เราต้องการเห็นพรรคการเมืองมีอายุยืนยาว มีการปรับโครงสร้างพรรค มีการรีแบรนด์พรรค มีเปลี่ยนถ่ายเลือดเก่าเลือดใหม่ เพื่อให้มีพรรคการเมืองทำงานเป็นโซ่ข้อกลางระหว่างประชาชนกับการเข้าไปอยู่ในอำนาจรัฐ หรือการทำงานในสภานิติบัญญัติ เพื่อออกกฎหมาย ผ่านกฎหมาย หรือยกเลิกกฎหมาย หรือการทำงานของฝ่ายค้าน เพื่อตรวจสอบรัฐบาล สิ่งนี้จำเป็นมากในกระบวนการประชาธิปไตย

คำ ผกา กล่าวต่อว่า คนไทยไม่ได้อยู่กับกระบวนการประชาธิปไตยนานจนเราตกผลึก เราถูกล้างสมองกับนักการเมืองเลว ตนออกมาปกป้องการซื้อเสียงมาตลอดว่าอย่าไปวุ่นวายกับมันมาก เพราะไม่ใช่ตัวแปรเยอะแยะ แล้วเห็นไหมว่าซื้อแล้วชนะหรือไม่ ดูชลบุรี บ้านใหญ่ชนะแค่ 1-2 เขต ระยองปลิวไปทั้งจังหวัด สมุทรปราการ ยกจังหวัด ภูเก็ตยกเกาะ

อั๋น ถามว่า ทำไมก้าวไกลถึงหยุดที่ตัวเลขแค่ 310

คำ ผกา กล่าวต่อว่า เขามั่นใจว่าจะใช้เสียงของประชาชนเรียกร้องความสง่างาม ความมีหิริโอตัปปะ ศักดิ์ศรี หรือเกียรติภูมิของ ส.ว. ให้ทำในสิ่งที่ถูกต้องโดยมีจิตสำนึกที่แท้จริงแม้ไม่มีอะไรมากดดัน จุดนี้เป็นเดิมพันว่า ส.ว. 250 คน มีกี่คนที่มีตรงนี้

อั๋น กล่าวต่อว่า มีโอกาสเสี่ยงอยู่บ้าน เพราะเราไม่รู้ว่าเราคาดหวังกับคนที่ไม่ควรคาดหวังหรือไม่ แต่ตนรู้สึกว่าเป็นการวัดใจ ในวันที่คนทั้งหมดในประเทศจับตามองว่า ส.ว.จะเลือกอะไร จะได้เห็นไปเลยว่าใครเป็นใคร และคุณยึดโยงกับประชาชนหรือยึดโยงกับอะไร ต่อให้ ส.ว.ไม่นึงถึงอนาคตตัวเอง แต่คุณจะรีไทร์แล้วตายไปพร้อมกับความทรงจำสุดท้ายนี้หรือ

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ