คาใจ! ผู้ช่วยช่างภาพข่าวช่องดังดับ ญาติไม่เชื่อประสบอุบัติเหตุ

Home » คาใจ! ผู้ช่วยช่างภาพข่าวช่องดังดับ ญาติไม่เชื่อประสบอุบัติเหตุ

ช่างภาพดับ

ผู้ช่วยช่างภาพข่าวช่องดัง ดับสลด หลังถูกรถชน ญาติคาใจ ไม่เชื่อประสบอุบัติเหตุ เร่งส่งร่างผ่าชันสูตร วอนตำรวจช่วยไขคดี

จากกรณีชาวบ้านพบ นายพิชิต คำแก้ว หรือ น้าเหม่ ผู้ช่วยช่างภาพข่าวช่องดัง ประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ล้ม บาดเจ็บสาหัส อยู่ถนนชนบทเป็นถนนลูกรังในพื้นที่หมู่ที่ 8 ต.กุดน้ำใส อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมา ก่อนนำส่ง รพ.จัตุรัส แต่อาการสาหัสมาก เนื่องจากตับฉีกเสียหาย 80% ไหลปลาร้าหัก มีรอยเขียวช้ำที่หัวไหล กะโหลกร้าว ตัวบูดบวม พบอวัยวะภายในค่อยๆ หยุดทำงาน จึงต้องตัวส่งรักษาต่อที่ รพ.ชัยภูมิ

โดยญาติติดใจสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ เพราะพบว่ามีสภาพบาดแผลตามร่างกายหนักสาหัสกว่าการที่รถประสบอุบัติเหตุ ซึ่งแผลส่วนใหญ่มีลักษณะคล้ายกับคนถูกทำร้ายร่างกายมากกว่า อีกทั้งพบว่ารถจักรยานยนต์ล้มตะเคียงฝั่งขวา โดยคนเจ็บตัวอยู่ติดกับรถจริง แต่พบหันหัวไปทางท้ายรถรถจักรยานยนต์แทน

จากการสอบถาม น.ส.รัตติพร ขามจตุรัส อายุ 41 ปี ภรรยาของนายพิชิต กล่าวว่า สามีมักกลับมาที่บ้านช่วงเสาร์-อาทิตย์ เพื่อมาเยี่ยมพ่อกับแม่ซึ่งชรา แต่ล่าสุดคุณพ่อป่วยจึงกลับมาเยี่ยมพ่อ โดยช่วงค่ำวันที่ 30 มิ.ย. 67 นั่งกินข้าวเหนียวส้มตำกับหลาน ก่อนบอกแม่ว่าจะไปร่วมงานศพที่บ้านงานตรงข้ามบ้าน ก่อนออกไปช่วง 3 ทุ่ม ซึ่งแม่ก็พยายามห้าม แต่ก็ออกไป หลังไปงานศพทราบว่าจะไปเถียงนาเพื่อน แต่ไปไม่ถึง ประสบเหตุก่อน โดยมีลุงซาเล้งเป็นคนไปพบ ซึ่งตนก็ไม่ได้ทราบไทม์ไลน์หลังออกจากบ้านงานเลย และปกติก็ทำงานอยู่คนละจังหวัด ไม่ได้กลับบ้านกับสามี สามีกลับคนเดียว

ทั้งนี้จากสภาพบาดแผลตามร่างกายมันหนักมาก ทำไมรถจักรยานยนต์แทบไม่เสียหาย จึงมองว่ามันสวนทางกัน อีกทั้งเป็นถนนในหมู่บ้านไฟฟ้าส่องสว่างไม่มี และเส้นทางก็ไม่ได้ราบ ประกอบกับนิสัยสามีเรื่องการขับขี่รถก็ขี่ปกติ รวมถึงช่วงอายุก็ไม่มีความจำเป็นต้องขับรถซิ่งอยู่แล้ว

แต่ถ้าจะเป็นการทำร้ายร่างกายหรือไม่ก็ตอบไม่ได้ เนื่องจากสามีเป็นคนอัธยาศัยดี ไม่มีศัตรู แต่ตนไม่สามารถยืนยันได้ 100% เพราะไม่รู้ว่าเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นเกิดอะไรขึ้น ส่วนอุบัติเหตุบนท้องถนน ก็ยังไม่ได้รับเบาะอะไร เพราะมุ่งมาที่สามี ซึ่งตอนนี้สาหัสมากๆ ดังนั้นอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งคลี่คลายสาเหตุในครั้งนี้ว่าเป็นอุบัติเหตุ หรือเกิดจากอะไรกันแน่ ตนเองในฐานะภรรยาและคนในครอบครัวจะได้สบายใจ

ต่อมาเมื่อเวลา 15.52 น. วันที่ 2 ก.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แพทย์ไม่สามารถช่วยชีวิต นายพิชิต เอาไว้ได้ เนื่องจากอวัยวะภายในได้รับความเสียหายอย่างหนัก ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของครอบครัว ญาติ เพื่อนสนิท ตลอดจนคนใกล้ชิด

อย่างไรก็ตาม น.ส.รัตติพร และครอบครัวยังคงคาใจถึงสาเหตุที่ทำให้ นายพิชิต ได้รับบาดเจ็บสาหัสว่ามาจากการเกิดอุบัติเหตุจริงหรือไม่ จึงตัดสินใจส่งร่างมาชันสูตรพลิกศพที่ นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ โดยมีเพื่อนร่วมงาน ซึ่งเป็นอาสามูลนิธิเพชรเกษม ขับรถไปรับร่างจากรพ.ชัยภูมิ ไปส่งที่รพ.ตำรวจเอง และมีเพื่อนๆ ทีมข่าวที่ลงพื้นที่มาพร้อมกับนายพิชิต ในภารกิจประชุม ครม.สัญจร รอส่งร่างอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ