ความหวังริบหรี่ วาฬเบลูกา หลงเข้าแม่น้ำฝรั่งเศส ไม่ยอมกินอาหาร ไม่กลับสู่ทะเล
วันที่ 7 ส.ค. บีบีซี รายงานความคืบหน้าภารกิจการช่วย วาฬเบลูกา ยาว 4 เมตร ที่พลัดหลงและติดค้างในแม่น้ำแซนของฝรั่งเศสว่า เจ้าหน้าที่พยายามอย่างยิ่งที่จะให้สัตว์กลับมามีความอยากอาหารและพลังงานที่จำเป็นในการกลับสู่ทะเล ทว่าความหวังที่สัตว์จะรอดแทบไม่มี
หลังวาฬเบลูกาที่ขาดสารอาหารอย่างเห็นได้ชัดมีคนพบครั้งแรกในแม่น้ำแซนเมื่อวันอังคารที่ 2 ส.ค. ห่างจากกรุงปารีสไปทางเหนือราว 70 กม. เจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามกระตุ้นให้สัตว์ว่ายน้ำออกไปแต่ไม่สำเร็จ และลองป้อนปลาแฮร์ริ่งแช่แข็งและปลาเทราท์มีชีวิตให้สัตว์กิน แต่สัตว์ดูจะไม่ยอมกินเช่นกัน
เจ้าหน้าที่จึงพิจารณาฉีดวิตามินแก่วาฬเบลูกาเพื่อกระตุ้นความอยากอาหารและช่วยให้สัตว์เดินทาง 160 กม. กลับไปในแม่น้ำและออกไปช่องแคบอังกฤษ ซึ่งสัตว์สามารถว่ายน้ำกลับไปถิ่นที่อยู่ของอาร์กติกได้ ทว่าการปล่อยให้สัตว์อยู่ในน้ำนิ่งและอุ่นระหว่างประตูแม่น้ำแซนไม่ใช่ทางเลือกดี
ลัมยา เอสเซ็มลาตี หัวหน้าสมาคมปกป้องสิ่งแวดล้อม ซี เชพเพิร์ด ฟรานซ์ (Sea Shepherd France) ที่พยายามช่วยวาฬเบลูกา บอกเอเอฟพีว่า สัตว์ต้องถูกเคลื่อนย้ายใน 24 ถึง 48 ชั่วโมงข้างหน้า แต่เงื่อนไขเหล่านี้ไม่ดีสำหรับสัตว์
เอสเซ็มลาตีกล่าวด้วยว่าผู้เชี่ยวชาญกำลังมีความหวังเล็กน้อยสำหรับสัตว์น้ำหนักน้อยอย่างเห็นได้ชัด และต่างสงสัยในความสามารถของสัตว์ที่จะกลับคืนสู่ทะเล แม้จะขับเรือเคลื่อนย้ายสัตว์ แต่อันตรายมาก หากไม่เป็นไปไม่ได้ อย่างไรก็ดี การุณยฆาตยังไม่ใช่วิธีที่จะนำมาใช้ตอนนี้
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ระบุเมื่อวันเสาร์ที่ 6 ส.ค. ว่า จุดเล็กๆ ปรากฏบนผิวหนังของวาฬเบลูกา แต่ยังไม่ชัดเจนว่านี่เป็นปฏิกิริยาต่อน้ำจืดในแม่น้ำแซนหรือไม่ (เมื่อเทียบกับแหล่งน้ำเค็มตามธรรมชาติ) หรือสัญญาณของการเสื่อมสุขภาพของสัตว์
ผู้สังเกตการณ์ทางวิทยาศาสตร์กล่าวว่าวาฬเบลูกาตัวนี้มีพฤติกรรมขี้เล่น ลอยขึ้นสู่ผิวน้ำเพียงช่วงสั้นๆ และส่งเสียงเพลงน้อยลง จึงเกิดความกังวลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสวัสดิภาพของสัตว์ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญต่างงงงวยว่า สัตว์สามารถพลัดหลงจากน้ำเย็นของอาร์กติกและอนุภูมิภาคอาร์คติก ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติ ได้อย่างไร
ทั้งนี้ วาฬเบลูกาบางครั้งว่ายน้ำลงไปทางใต้ในฤดูใบไม้ร่วงเพื่อหาอาหารในรูปของน้ำแข็ง แต่น้อยตัวที่จะเดินทางไกลจากบ้านเกิด