ครอบครัว 3 ชีวิตเหยื่อไฟแดงเสีย ยันฟ้องเรียกค่าเสียหายแน่ จี้หน่วยงานที่เป็นเจ้าของออกมาชี้แจง ตร.เตรียมแจ้งข้อหาคนขับ
จากกรณีสัญญาณไฟจราจรเสีย ตรงสี่แยกตลาดลาว ต.มาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง จนทำให้ นายสราวุธ อายุ 30 ปี ขับรถเก๋งโตโยต้า ยาริส สีขาว พุ่งชน รถจยย. 2 คัน มีผู้เสียชีวิต 3 คน โดยคนขับระบุว่าไม่ชินเส้นทางและคิดว่าผ่านได้ตลอด เลยไม่ได้เบรก เมื่อตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิดในจุดเกิดเหตุพบว่าเสียทั้งหมด จึงสอบพยานที่เห็นเหตุการณ์ และขอความร่วมมือสำหรับผู้ที่มีกล้องหน้ารถตอนเกิดเหตุช่วยส่งให้เจ้าหน้าที่ เพื่อเป็นหลักฐานประกอบการดำเนินคดี ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น (อ่าน : ไฟจราจรเสีย เก๋งป้ายแดงชนดับ3ศพ ตร.เผยวงจรปิดก็เสีย ไล่ขอกล้องหน้ารถคันอื่น )
ล่าสุดวันที่ 10 ก.ค. 65 พ.ต.ต.สมัย สาดี สว.(สอบสวน) สภ.มาบตาพุด เจ้าของคดี กล่าวว่า ขณะนี้ได้ทำการสอบสวน นายสราวุธ และตรวจสอบพยานหลักฐาน โดยยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา จากการตรวจสอบพบว่า ไฟสัญญาณจราจรเสียเฉพาะฝั่งเส้นทางที่รถเก๋งวิ่งมา ตรวจพบว่าไฟเขียว ไฟเหลือง ยังติดปกติ แต่พอถึงช่วงสัญญาณไฟแดง ปรากฏว่าไฟแดงกลับไม่ติดจะมืดไปเลย จึงเป็นสาเหตุให้ รถเก๋งที่พุ่งชน ไม่ได้เบรกเลยจึงพุ่งชนเต็มแรง
ส่วนเรื่องคดีเตรียมดำเนินคดีกับ นายสราวุธ ในข้อหาขับรถโดยประมาทจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งจะมีการเรียกตัวเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป ในเรื่องของการเยียวยา ทางรถเก๋งได้ทำประกันภัยประเภท1 และ พรบ.ซึ่งได้แจ้งให้ทางตัวแทนบริษัทประภัยทราบเรื่องแล้ว พร้อมชดใช้ค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นตามจริง ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ทำสัญญากันไว้ หากจะมีการเรียกร้องค่าเสียหายเพิ่มจากส่วนของเงินประกัน ก็เป็นสิทธิ์ของครอบครัวผู้เสียชีวิต ที่สามารถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายได้
นายประทีป นาคอุบล อายุ 64 ปี ช่างซ่อมรถร้านบริเวณสี่แยกที่เกิดเหตุ กล่าวว่า สำหรับเสาไฟแดงชำรุดหลังถูกรถชนจนล้มอยู่ในป่าหญ้าริมถนนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จึงทำให้ไม่มีเสาบอกสัญญาณ จะมีแต่สัญญาณไฟที่อยู่มุมสูงเท่านั้น ทำให้คนขับรถเก๋งที่บอกว่าไม่ชินเส้นทาง มองไม่เห็นสัญญาณไฟ เลยขับฝ่าไปขณะที่เป็นช่วงสัญญาณไฟแดง จึงขอฝากให้หน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบควรจะรีบเข้ามาซ่อมแซมโดยเร็ว ก่อนที่จะเกิดเหตุสลดขึ้นอีก
ด้าน น้องสาวของนายประดิฐศร ผู้เสียชีวิตกล่าวทั้งน้ำตาว่า เสียใจมากพี่เสียชีวิตกะทันหันแบบไม่ทันร่ำลา โดยเฉพาะลูกชายวัย 3 ขวบ ซึ่งเป็นลูกกับภรรยาเก่าที่เลิกรากันไป ที่ยังไม่รู้ว่าพ่อได้ตายแล้ว ยังคงร้องเรียกหาพ่อตลอด สงสารหลานมาก ออกจากบ้านไปทำงาน แค่เสี้ยวนาทีก็ไม่ได้เจอไม่ได้คุยกันอีกแล้ว ทำไมจึงต้องมาเกิดกับครอบครัวด้วย
ส่วนความช่วยเหลือจากคู่กรณี เบื้องต้นทางบริษัทประกันฯได้จ่ายเงินเบื้องต้นเป็นค่าจัดงานศพละ 30,000 บาท ส่วนที่เหลือจะมีการแจ้งรายละเอียดอีกครั้ง ส่วนกรณีการเรียกร้องเยียวยากับหน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบสัญญาณไฟจราจร ในจุดเกิดเหตุ จะมีการปรึกษากันอีกครั้ง เพื่อให้ได้รับความเป็นธรรม
ส่วน นายอนุกูล บุญยังแก้ว อายุ 35 ปี กล่าวว่า เบื้องต้นได้ปรึกษากันในครอบครัว ต้องการให้หน่วยงานที่เป็นผู้ดูสัญญาณไฟจราจรออกมาชี้แจง ทั้ง3คนที่เสียชีวิต เป็นเสาหลักของครอบครัว โดยไฟจราจรสี่แยกใหญ่เป็นเส้นทางเข้าออกนิคมอุตสาหกรรมที่มีรถเข้าออกจำนวนมาก แต่กลับปล่อยปละละเลยจนเกิดความสูญเสีย ทำไมจึงไม่รับผิดชอบเร่งการซ่อมแซมโดยเร็ว ซึ่งทั้ง 3 ครอบครัวผู้สูญเสียเตรียมฟ้องเรียกค่าเสียหายกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับไฟแดงสี่แยกตลาดลาว ที่เสียจนนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุ 3 ศพ ยังไม่มีหน่วยงานใดออกมาแสดงความรับผิดชอบว่าเป็นเจ้าของที่รับผิดชอบไฟจราจรดังกล่าว