คดีตำรวจคลั่ง ใช้มีดไล่แทงชาวบ้าน ญาติหวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม

Home » คดีตำรวจคลั่ง ใช้มีดไล่แทงชาวบ้าน ญาติหวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม

คดีตำรวจคลั่ง

คดีตำรวจคลั่ง ใช้อาวุธมีดไล่แทงชาวบ้าน จนเป็นเหตุใหม่ผู้เสียชีวิต 1 สาหัส 1 ญาติหวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม ถาม ทำไมไม่คลั่งในโรงพัก

วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2567 คดีตำรวจคลั่ง กลายเป็นประเด็นร้อนที่สังคมกำลังพูดถึงเป็นอย่างมาก เนื่องจากผู้ก่อเหตุเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเหตุเกิดขึ้นที่ ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช มีผู้เสียชีวิตจำนวน 1 ราย และได้รับบาดเจ็บสาหัสจำนวน 1 ราย โดย เหตุเกิดบนถนนหน้าศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนอำเภอชะอวด เขตเทศบาลตำบลชะอวด อ.ชะอวด ซึ่งอยู่ห่างจาก สภ.ประมาณ 400 เมตร จากการจับกุมทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือ ส.ต.อ.ชวนิล (สงวนนามสกุล) ผู้บังคับหมู่งานป้องกันปราบปราม สภ.ชะอวด ส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ทราบชื่อคือ 1.น.ส.วิจิตตรา (สงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี เป็นชาวบ้านอยู่ในตำบลชะอวด มีบาดแผลถูกแทงเข้าที่ลำคอ 2.น.ส.ประภา (สงวนนามสกุล) อายุ 69 ปี ถูกแทงด้วยมีดเข้าที่สะบักซ้าย 1 แผล แต่ทว่า น.ส.วิจิตตรา ทนพิษบาดแผลไม่ไหวได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา

จากการสอบถาม ญาติผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า คดีที่เกิดขึ้นดังกล่าวตนกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม เกรงว่าพี่สาว (ลูกพี่ลูกน้อง) จะตายฟรี เพราะความยุติธรรมไม่มีอยู่จริง ยิ่งผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจด้วย ก่อนหน้านี้เพื่อนตำรวจบอกกลับทางญาติผู้เสียชีวิตว่า ผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจป่วยทางจิต ญาติจึงตั้งข้อสงสัยว่า “ทำไมยังมาปฏิบัติหน้าที่ ทำไมไม่คลั่งแทงตำรวจโรงพักเดียวกัน?” จะได้ไม่ต้องมาฆ่าชาวบ้าน

  • ตำรวจคลั่ง ไล่แทงชาวบ้าน เสียชีวิต 1 สาหัส 1 ราย จ่อตรวจหาสารเสพติด
  • เพจดังปั้นกระแส เคสแม่น้องการ์ตูน ทวงความยุติธรรม หลังแม่โพสต์เศร้า
  • เปิด! สาเหตุตำรวจคลั่ง ไล่แทงชาวบ้าน คาดอาการกำเริบจากผลสุรา

ซึ่งเมื่อตอนเกิดคดี ทางญาติได้ไปสอบถามตำรวจ สภ.ชะอวด ว่าผู้ก่อเหตุชื่ออะไร? อยู่โรงพักไหน? ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่า “ไม่รู้จักชื่อ และไม่รู้ว่าโรงพักไหน” จนกระทั่งญาติได้ไปที่ สภ.ชะอวด เพื่อติดตามว่าตำรวจจับตำรวจที่ก่อเหตุมาจริงหรือไม่ แบบนี้จะให้เชื่อใจในการทำงานได้อย่างไร? การจับมาก็ไม่มีการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ หรือตรวจสารเสพติด ญาติ ๆ จึงรู้สึกคาใจ จนอยากเห็นหน้าผู้ก่อเหตุแบบชัดๆ

เบื้องต้น พ.ต.อ.สมพร กล่าวว่า สาเหตุของการก่อเหตุในครั้งนี้ จากการตรวจประวัติผู้ต้องหาทราบว่า “จ่าอาร์ม มีการรักษาอาการจิตเวชที่ รพ.จิตเวชสงขลา ตั้งแต่ปี 2565 และรับยาตามแพทย์สั่งมากินอยู่ประจำทุกเดือน ซึ่งครั้งต่อไปแพทย์นัดพบในวันที่ (5 มี.ค. 67) ที่จะถึงนี้ โดยในวันเกิดเหตุ จ่าอาร์มได้ดื่มสุรามาก่อนก่อเหตุ ตรวจวัดหลังเกิดเหตุได้ 49 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เบื้องต้น ตรวจสารเสพติดไม่พบสารเสพติดในปัสสาวะ ซึ่งสาเหตุที่ก่อเหตุน่าจะเกิดจากดื่มสุราจนเมาแล้วคลั่ง”

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ