“ขนมข้าวฟ่าง เป็นยังงัยนะ” เพื่อนสาวคนหนึ่งเอ่ยถามด้วยความสงสัย เมื่อได้เห็นเมนูของหวานแนะนำในร้านอาหารชื่อดัง “สวนผักโอ้กะจู๋” สาขาสยามแสควร์ วัน ซึ่งเชื่อว่าหลายคนอาจจะไม่คุ้นชื่อนี้สักเท่าไหร่เช่นกัน เพราะเป็นขนมหวานไทยที่ไม่ได้พบได้บ่อยๆ และน้อยร้านมากที่จะหยิบเมนูนี้ขึ้นโต๊ะ วันนี้มีโอกาสได้ไปลิ้มรสพอดีค่ะ ครั้งนี้จึงขอชวนคุยเรื่อง ขนมข้าวฟ่าง กันสักหน่อย เริ่มจากขนมข้าวฟ่าง ที่ร้านโอ้กะจู้ ถ้วยนี้ก่อนนะคะ
ข้าวฟ่างกะทิสด สวนผักโอ้กะจู๋
แม้จะเริ่มเปิดตัวมาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาแต่ก็นับได้ว่าเป็นน้องใหม่ที่ถูกใจสายสุขภาพอย่างมาก ที่ร้านโอ้กะจู๋มี ขนมข้าวฟ่างใบเตยกะทิสด เสิร์ฟคู่ไอศครีมกะทิฟักทอง (Sweet Sorghum with Coconut Milk) ระบุลงในเมนู ใครได้ชิมแล้วคงเข้าใจได้ตามกันว่า เป็นขนมหวานไทยราดกะทิที่หวานน้อยถูกใจ แต่คงความหอมมันของกะทิใบเตยไว้
ทั้งเบรกความหนุบหนับของแป้งกวนที่หลายคนอาจจะไม่คุ้นลิ้นด้วยไอศกรีมกะทิฟักทองรสหวานอ่อน ซึ่งความหวานนี้มาจากน้ำช่อมะพร้าวค่ะ เนื้อสัมผัสของไอติมฟักทองที่นี่แตกต่างจากไอติมกะทิทั่วไป เพราะไม่ใช้ส่วนผสมของนม แต่เมื่อทุกส่วนประกอบได้ตัดรสเค็มเล็ก ๆ จากน้ำกะทิสด ลงตัวมากทีเดียว
ของหวานที่ไม่หวานจัดถ้วยนี้ ราคา 89 บาท ตั้งแต่ 1-31 มกราคมนี้ (ที่สาขาในกรุงเทพยังมีจำหน่ายทุกสาขา ตรวจสอบราคาใกล้บ้านที่ร้านสาขาอีกครั้งนะคะ) เมนูนี้ไม่มีส่วนผสมของนมวัวและไข่เหมาะกับชาววีแกนและผู้ที่รับประทานอาหารเจด้วยค่ะ
ข้าวฟ่าง สุดยอดธัญพืช
ข้าวฟ่าง ต้องยกให้เป็นหนึ่งในสุดยอดธัญพืชเลยนะคะ เห็นเมล็ดเล็ก ๆ อย่างนี้นอกจากอุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย ยังมีไฟเบอร์สูง ในตำราแพทย์ทั้งแผนไทยแผนจีน ถือเป็นธัชพืชพลังหยาง มีฤทธิ์ฟื้นฟูบำรุงร่างกาย ทั้งย่อยง่ายและมีวิตามินบีสูง
สรรพคุณขนาดนี้แต่เกษตรกรไม่นิยมปลูก หันไปปลูกข้าว ข้าวโพดกันมากกว่า แม้ข้าวฟ่างจะทนทานต่อโรคพืชและความเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศได้ดีและมีหลากหลายสายพันธุ์ นักวิชาการเล่าว่าข้าวฟ่างมีประวัติยาวนานมากกว่า 3,700 ปี และหากย้อนประวัติศาสตร์กองทัพสมัยก่อนต้องมีข้าวฟ่างพกไว้เป็นเสบียง
ด้วยระบบทุนนิยมที่แปรผันพร้อมวิถีการบริโภค ข้าวฟ่างในเมนูอาหารไทยหาได้น้อยลงทุกวัน ในร้านขนมหวานแทบไม่เห็น เว้นแต่บางครอบครัวในต่างจังหวัดที่ยังคุ้นเคยเช่นครอบครัวผู้เขียนเอง เราเห็นคุณยายปลูกข้าวฟ่างไว้ที่สวนหลังบ้านเสมอ ไม่นานก็ออกช่อออกรวง เมื่อถึงช่วงเก็บเกี่ยวท่านจะใช้เคียวตัดมัดเป็นช่อแขวนตากไว้ข้างบ้าน
เมื่อถึงเทศกาลลูกหลานมารวมตัวกัน ก็นำข้าวฟ่างที่แห้งดีแล้วมาตำเพื่อกะเทาะเปลือกออก ล้างให้สะอาด นำมาต้มจนเมล็ดสุกบานจึงเติมน้ำตาล แล้วกวนเข้ากับแป้งมัน (ผสมน้ำแล้ว) ได้เป็นขนมข้าวฟ่างหรือ เปียกข้าวฟ่าง รอปรุงน้ำกะทิจากมะพร้าวขูดคั้นสดกับเกลืออีกที ราดฉ่ำ ๆ เป็นที่ชื่นชอบของสมาชิกในครอบครัวมาเสมอ
อย่างไรก็ตามขนมข้าวฟ่าง มีรสสัมผัสและกลิ่นเฉพาะ ในความรู้สึกส่วนตัวมีกลิ่นหญ้าแห้งเบา ๆ เนื้อละเอียดแต่ก็มีเทกเจอร์เล็ก ๆ ต่างจากการกินเต้าส่วนข้าวโพด ที่หลายคนคุ้นเคย บางร้านอาจมีเทคนิคการทำที่แตกต่างมีรสฝาดติดเบา ๆ แต่หากใช้เมล็ดเก่าเก็บ จะมีกลิ่นสาปชัดมาก ไม่ค่อยอร่อย
หากใครอ่านมาถึงบรรทัดนี้ แล้วยังไม่เคยลองขนมข้าวฟ่างน้ำกะทิ โดยเฉพาะคนที่ไม่ชอบรสหวานแนะนำให้ไปลองที่ร้านโอ้กะจู๋ หรือหากใครได้มีโอกาสได้เจอตามร้านอื่น ๆ ก็ลองมาชิมขนมไทยโบราณเมนูนี้กันได้
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
FB สวนผักโอ้กะจู๋ OHKAJHU.Official
https://www.facebook.com/ohkajhuorganic
ดูสาขาทั้งหมด
https://www.ohkajhuorganic.com/branch/
หรือติดต่อ
ร้านสวนผักโอ้กะจู๋ สาขา SIAM SQUARE ONE
เวลา 10:00 – 21:30 น. (ทุกวัน)
โทร. 082-444-2251