กัน จอมพลัง บุกโรงพัก ทวงถามความยุติธรรม หลังลุงเก็บของเก่า ถูกสาวไฮโซซิ่งรถหรูชนดับ กลับไม่ยอมชดใช้ค่าเสียหาย จะขอจ่ายแค่ 3.5 หมื่น
เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2565 ที่สภ.โกสัมพีนคร จ.กำแพงเพชร นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกัน จอมพลัง พร้อมทนายความและทีมงาน เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี หลังนายทองอินทร์ สีขำ หรือลุงร่อน อายุ 62 ปี ชาวบ้านต.โกสัมพี ถูกรถยนต์ชนเสียชีวิต ขณะจูงจักรยานหาเก็บของเก่าขาย
โดยลุงร่อนหาเงินมาจุนเจือครอบครัว ที่มีฐานะยากจน และใช้ชีวิตกันค่อนข้างลำบากอัตคัด ขนาดเสียชีวิตยังไม่มีแม้เงินที่จะมาจัดงานศพ จนชาวบ้านต้องช่วยกันบริจาคเงินจัดงานศพ และช่วยกันบริจาคเงินเพื่อมาสร้างบ้านพักอาศัยให้มีสภาพดีกว่าที่เป็นอยู่
นายกัณฐัศว์ กล่าวว่า อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดบริเวณทางแยกเข้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสนามเพรียง ถนนพหลโยธิน ขาขึ้น ในช่วงบ่ายของวันที่ 27 มิถุนายน 65 ทำให้ลุงร่อนเสียชีวิตคาที่ ส่วนเจ้าของรถยนต์คู่กรณีทางตำรวจสภ.โกสัมพี ได้ทำการตรวจสอบ
เบื้องต้นคู่กรณีและญาติผู้เสียชีวิตไม่สามารถเจรจาไกล่เกลี่ยกันได้ในเรื่องของการชดใช้ค่าเสียหาย เนื่องจากคู่กรณีได้เบี้ยวนัดผู้เสียหายและพนักงานสอบสวน ไม่มาเจรจาชดใช้ค่าเสียหายตามตกลง ถึง 2 ครั้ง ส่งเพียงทนายความมาแทนเท่านั้น
โดยครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 65 ผู้เสียหายได้เรียกร้องคู่กรณีเป็นค่าเสียหายจากประกันภัยภาคบังคับ และภาคสมัครใจ รวม 2 ล้านบาท แต่คู่กรณีไม่รับข้อเรียกร้องตาม โดยไม่ได้ข้อสรุปจำนวนเงินที่จะชดใช้ จึงได้นัดเจรจาอีกครั้งในวันที่ 15 กรกฎาคม 65 แต่ปรากฏว่าเจรจาไม่เป็นผลเพราะฝ่ายคู่กรณีที่ส่งตัวแทนมาจะขอชดใช้เพียง 35,000 บาท เป็นเงินช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเท่านั้น
สร้างความผิดหวังและเกิดความกังวลใจให้กับญาติผู้เสียชีวิตเป็นอย่างมาก เนื่องจากคู่กรณีเป็นถึงบุคคลมีชื่อเสียงแต่กลับไม่ยอมชดใช้ค่าเสียหาย ปล่อยให้คดียืดเยื้อมาโดยตลอด และมองไม่เห็นความเดือดร้อนของชีวิตและครอบครัวผู้อื่นที่ได้รับความสูญเสียเพราะความประมาทของตน
ขณะที่พ.ต.อ.ณัฐพล บุบผะศิริ ผกก.สภ.โกสัมพีนคร กล่าวว่า คดีดังกล่าวได้แยกเป็นสองส่วน คือคดีอาญาและคดีแพ่ง ในส่วนของคดีอาญาทางตำรวจได้ดำเนินการด้วยความยุติธรรมอย่างรวดเร็วเต็มที่ ในส่วนนี้มีความคืบหน้าไปมาก และในส่วนของคดีแพ่งได้เรียกคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาเจรจาตกลงกัน หากยังตกลงกันไม่ได้จะทำบันทึกและส่งต่อในสำนวนให้ไปตกลงกันในชั้นศาลต่อไป
ด้านนายชัชชัย สาลีนาค อายุ 36 ปี ผู้ที่ให้การดูแลครอบครัวผู้เสียหาย และเป็นผู้รับมอบอำนาจในการติดตามคดี กล่าวว่า ตอนนี้ยังอยู่ในชั้นสอบสวนว่าจะชี้มูลความผิดหรือดำเนินคดีไปทิศทางไหน ในส่วนของค่าเสียหายที่ตกลงกันไม่ได้คงต้องฟ้องทางแพ่งต่อไป ซึ่ง 2 ครั้งที่คุยกันไม่ลงตัว คู่กรณีไม่เคยมาเจรจามีแต่ส่งตัวแทนมา แถมจ่ายเงินมาเพียง 5 พันบาท เท่านั้นแล้วก็หายไปเลย
หากไปถึงชั้นศาลก็จะไม่ขอเจรจาไกล่เกลี่ยหรือต่อรองใด ๆ แล้ว เนื่องจากมีการผิดนัดถึง 2 ครั้ง จะขอดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะไม่มีความรัยผิดชอบด้านมนุษยธรรมกับครอบครัวผู้เสียหายที่เป็นผู้ยากไร้ใด ๆ เลย
นายกัณฐัศว์ เปิดเผยว่า วันนี้ได้เห็นสภาพยายแล้วรู้สึกตกใจมากว่ายายนั้นผอมโซขนาดนี้ บอกเลยว่าหากถ้าตนเป็นคู่กรณี ตนจะยิ่งต้องรีบช่วยครอบครัวยายให้เร็วที่สุด อยากให้นึกภาพคนอายุกว่า 80 ปี ต้องมาใช้ชีวิตลำพังหลังเสียลูกชายที่เป็นเสาหลักของครอบครัวจะลำบากขนาดไหน วันนี้ตนมาดูชีวิตความเป็นอยู่ของยายและติดคามคดีกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ต้องขอบคุณตำรวจที่ดำเนินการอย่างเต็มที่และจะเร่งรัดคดีให้รัดกุมและเป็นธรรมที่สุด ส่วนคู่กรณีของผู้เสียหายจะเป็นคนดังมีฐานะอะไรตนไม่กลัว ตนอยากช่วยยายให้ถึงที่สุด อยากให้เข้ามาช่วยดูแลยาย เพราะยายแก่มากแล้ว ยิ่งช่วยช้ายายจะยิ่งบอบช้ำไปมากกว่านี้