กระแต แจงท่าเต้น “แหกกีฯ” หลังโดนวิจารณ์เกินงาม ตั้งใจให้เป็นกระแส เข้าใจคนด่า ไม่คิดฟ้อง

Home » กระแต แจงท่าเต้น “แหกกีฯ” หลังโดนวิจารณ์เกินงาม ตั้งใจให้เป็นกระแส เข้าใจคนด่า ไม่คิดฟ้อง


กระแต แจงท่าเต้น “แหกกีฯ” หลังโดนวิจารณ์เกินงาม ตั้งใจให้เป็นกระแส เข้าใจคนด่า ไม่คิดฟ้อง

กระแต แจงท่าเต้น “แหกกีฯ” หลังโดนวิจารณ์เกินงาม ตั้งใจให้เป็นกระแส เข้าใจคนด่า ไม่คิดฟ้อง

วันที่ 8 เม.ย.66 ที่ ร้าน EVEANDBOY ชั้น1 เมกา บางนา นักร้องลูกทุ่งสาวเซ็กซี่ กระแต อาร์สยาม หรือ กระแต นิภาพร บุญยะเลี้ยง เจ้าของแบรนด์ KATHY AMREZ Cosmetic ให้สัมภาษณ์หลังมาร่วมงานเปิดตัว “ลิปยิปซี” Kathy Amrez Hya Glow ถึงเอ็มวีเพลง Awake กับท่าเต้น “แหกกีพีระมิด” ที่โดนวิจารณ์ว่าเกินงาม พร้อมแจงชุดที่ใส่เซฟตี้อย่างดีไม่มีโผล่ ก่อนจะเผยถึงเรื่องบ้านที่สร้างมา 3 ปี งบบานปลายเกือบร้อยล้าน ยอมรับเป็นคนขี้อวดเพราะไม่เคยมี แต่อยากให้มองเป็นการสร้างแรงบันดาลใจ

ถามถึงเอ็มวีล่าสุด Awake ที่มาที่ไปยังไง? “เอ็มวีตัวล่าสุดชื่อเพลงว่า Awake ที่แปลว่าตื่นหรือฟื้นขึ้นมา ซึ่งหลายคนคาดหวังว่ามันเป็นเพลงเต็มของเรา แต่ว่าจริงๆ มันคือเพลงเปิดตัวสินค้าลิปทองคำสักปาก เอ็มวีเพลงนี้ลงทุนเยอะมาก ด้วยความที่เราเป็นนักร้องและทำแบรนด์เครื่องสำอางด้วย เลยรู้สึกว่าก็ต้องทำเพลงเปิดตัวโฆษณา

ซึ่งมันน่าจะเข้ากับตัวเองและเราก็ถนัดในเรื่องแบบนี้ด้วย เพลงนี้ก็เลยลงทุนเป็นล้านเลย แต่ทุกคนก็งอแงมากบอกว่าเราแกง เพราะความยาวมันแค่นาทีกว่า ไม่ได้แกงเพราะเดี๋ยวจะมีเพลงเดี่ยวจัดเต็มแน่นอน”

ขนาดแค่นาทีกว่ายังฮือฮาสุดๆ โดยเฉพาะชุดที่อันคัตสูงมาก? “ด้วยความที่เราเห็นแม่บี(บียอนเซ่) รวมถึงนักร้องฝรั่งคนอื่นใส่กัน เราก็รู้สึกว่าใส่แล้วมันดูเฟียร์ซอ่ะ ดูมั่น ดูสตรอง เลยรู้สึกอยากใส่บ้างแค่นั้นเอง เรียกว่าเป็นคอนเซ็ปต์ที่ไม่รู้ว่าจะโป๊ไหม ถ้าคนจะมองว่าโป๊ก็โป๊ แต่สำหรับเรารู้สึกว่าเริ่มชินแล้วและเราก็เสพงานต่างชาติ ซึ่งเขาก็ใส่กันแบบนี้เป็นปกติและมันอยู่ในจอ แต่ถ้าเดินตลาดแล้วก็ไม่ใส่แบบนั้นอยู่แล้ว”

เซฟยังไงเพราะหลายคนทั้งส่องทั้งซูม? “เราเซฟตี้หนักมาก คือที่เห็นเนี่ยถ้าเกิดไม่เซฟมันจะไม่มั่นใจเลย เวลาเต้นมันจะกลัวโผล่ แต่อันนี้เราเต้นด้วยความมั่นใจเพราะว่าเซฟหนักมาก ไม่เห็นแน่นอน คือเราจะใส่เป็นชั้นในที่แนบเนื้อแต่มันเป็นสีเนื้อที่มองไกลๆ แล้วมองไม่ออกและเข้ากับสีผิวเดียวกับเราเลย นอกจากนี้ยังมีอีกหลายตัวที่เย็บติด เอาเป็นว่าถ้าเย็บติดหนังได้เย็บไปแล้ว”

นอกจากชุดแล้ว เรื่องของท่าเต้น “แหกกีพีระมิด” ก็แซ่บมาก อันนี้คือตั้งใจให้เป็นกระแสเลยไหม?มันเป็นท่า แหกกีพีระมิด จริงๆ ถามว่าตั้งใจให้เป็นกระแสไหม เราก็พูดตรงๆ เพราะเราทำธุรกิจวงการบันเทิงแล้วเพลงมันก็สั้นแค่นาทีกว่า ดังนั้นเราก็ต้องหาอะไรที่เป็นกิมมิกแล้วว่าฉันจะเอาท่าไหนดี เลยได้ท่านี้มา แต่ก็ไม่กล้าชวนทุกคนทำเพราะกลัวคอหัก

หลายคนมองว่าท่ามันเกินงามไปไหม? “อาจจะเป็นเพราะว่าชุดไง ถ้าเกิดว่าเราใส่ขายาวก็อาจจะไม่โดน แต่ครั้งนี้มันตัดมาแค่ 2 ชุด ก็มีแค่นั้น แล้วก็ให้คนตัดดูแล้วว่ามันมีท่านี้นะ เราจะใส่ชุดนี้เต้นจริงๆ เหรอ แต่ก็ต้องใส่เพราะเราไม่มีการฟิตติ้งใดๆ”

เรียกว่าเป็นคนที่ขยับตัวทำอะไรก็โดนดราม่าไปหมด? “จริงๆ ทำใจอยู่แล้ว เรารู้หมดแหละว่าทำแบบนี้ต้องโดนด่าแน่ๆ พูดง่ายๆ ว่าในวงการบันเทิงก็เป็นธุรกิจตัวหนึ่ง พอเรามาเป็นนักธุรกิจเรารู้ว่ากลุ่มเป้าหมายเราคือใคร คนชอบแบบไหน เวลาเราลงรูปทำบุญนุ่งขาวห่มขาว คนกดไลก์อยู่ 200 พอเราใส่ชุดแบบนี้คนกดไลก์ 2 แสน เพราะฉะนั้นมนุษย์ทุกคนชอบเสพผลงานอะไรแบบนี้

เราอยู่ในวงการบันเทิงธุรกิจเราก็ต้องทำเอาใจทุกคน สุดท้ายจะโดนว่าโดนด่าก็ต้องยอมรับมัน แต่เราไม่ได้รู้สึกท้อแท้หรือเสียใจเพราะเข้าใจ เรียกว่าทำอะไรได้แบบนั้น ถ้าเราแต่งตัวเรียบร้อยเขาก็ไม่ว่าเรา แต่พอเราแต่งตัวแบบนี้เขาว่าเราแน่ๆ แต่จะเข้าใจหรือไม่เข้าใจอันนี้ยากมากที่จะไปอธิบายให้ทุกคนเข้าใจ คนเข้าใจก็จะรู้ว่านี่คืองาน แต่คนที่ไม่เข้าใจก็จะด่าหนักมาก ดูไม่แพง ไม่สวย ไม่มีคุณค่า”

อยากตอบกลับคอมเมนต์เหล่านี้ไหม? “เคยบอกเขาว่าเราเหมือนเป็นตัวแทนผู้หญิงยุคใหม่ เดี๋ยวนี้ผู้หญิงมีความมั่นใจมากขึ้นใส่ชุดว่ายน้ำใส่อะไรก็อยากจะอวดความพยายามกว่าเราจะได้หุ่นแบบนี้ไม่ได้นั่งเฉยๆ เราเหนื่อยเราออกกำลังกาย

บางคนก็จะดูถูกว่าผู้หญิงแต่งตัวแบบนี้ไม่มีคุณค่า ไม่อยากให้เอาบรรทัดฐานของตัวเองไปวัดคุณค่าคนอื่น แต่ละคนมันมีความชอบไม่เหมือนกัน ถ้าคุณชอบแต่งตัวเป็นแบบผู้หญิงไทยกุลสตรีไทยอันนั้นคือเรื่องที่ดี แต่คนนี้ไม่ได้จริงๆ ไม่ถนัด เพราะเป็นคนที่รู้สึกว่าชอบที่จะพรีเซ้นต์ตัวเอง”

ย้อนไปถึงเรื่องเพลงที่ตั้งใจให้ดูเป็นสากล แต่บางคนบอกว่าสุดท้ายก็หนีไม่พ้นกลิ่นลูกทุ่ง? “อันนี้พอเห็นปุ๊บเราก็รู้สึกว่าลูกทุ่งแล้วมันยังไงเหรอ แล้วก็ไปนึกถึงตอนแม่ผึ้ง(พุ่มพวง ดวงจันทร์) ที่บอกตลอดว่าคนชอบดูถูกลูกทุ่ง ว่าเชยบ้านนอก แม่เลยจะเป็นคนที่นำเทรนด์สากลเข้ามา

ในสมัยนั้นแม่ผึ้งก็เป็นยุคบุกเบิก เราก็รู้สึกว่าเราก็เป็นลูกทุ่งคนหนึ่งที่ก็อยากมีความอินเตอร์ แล้วอยากเอาความเป็นสากลมายกระดับลูกทุ่งเหมือนกัน แต่สุดท้ายพอเราจะสากลจะอะไรก็ตาม เลือดเราเป็นลูกทุ่ง ฉะนั้นมันมีความลูกทุ่งมันก็น่ารักนะ”

มันจี๊ดไหม เพราะเราเกิดมาจากลูกทุ่ง? “ไม่ได้รู้สึกว่าเจ็บจังเลยโดนด่าลูกทุ่ง ฉันเป็นลูกทุ่ง ฉันมีกิน มีทุกวันนี้ก็เพราะลูกทุ่ง แต่ฉันรู้สึกว่าจะร้องลูกทุ่งแบบแนวเดียวไปตลอดมันก็น่าเบื่อเนอะ”

อยากจะอัพเกรดความเป็นลูกทุ่งให้มันดูอินเตอร์ขึ้นใช่ไหม? “ใช่ค่ะ เพราะทุกวันนี้ยังไงคนก็ยังมองกระแตเป็นลูกทุ่ง อย่างเพลง Awake หนูร้องสากลทั้งเพลงเลยนะ ภาษาอังกฤษหมดเลย คนก็ยังบอกสรุปนางยังเป็นนักร้องลูกทุ่งอยู่ไหม คือคนก็ยังจำเราในภาพลูกทุ่ง แต่ไม่เป็นไรค่ะ เพราะคนไม่ได้ติดตามเราทุกคน คนที่ติดตามเราจริงๆ จะรู้ว่าเรามีหลายแนว แร็พ สตริง ลูกทุ่ง สากล ได้หมด เป็นคนที่ทำได้ทุกอย่าง”

เรียกว่ายิ่งด่า ยิ่งดัง? “ด่าได้ด่ามาเลย ไม่ฟ้องด้วย มีคนบอกให้ฟ้องเลย แต่หนูว่ามันเสียเวลา ต้องไปหาทนาย ไปขึ้นศาล สุดท้ายไม่ได้เงิน ยกกระเช้า ยกมือขอโทษ มันเสียเวลาชีวิตเรา เราไปไลฟ์ขายของดีกว่า”

ในมุมของเราที่ออกมาไม่ถึง 1 นาที มันประสบความสำเร็จกับธุรกิจเราไหม? “ประสบความสำเร็จมากนะคะ (เกินความคาดหมาย?) ด้วยความที่เราทำธุรกิจเครื่องสำอางและเป็นนักร้องด้วยก็ทำให้มาเชื่อมกันเพื่อให้มันเกิดกระแส ในวงการมันต้องมีกระแสอยู่แล้ว จะมากจะน้อยก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยมีกระแสก็ดีใจ แต่อยากให้ทุกคนมองเห็นถึงความตั้งใจในเรื่องของการทำเพลง โปรดักชั่น แสง สี เสียง

ทุกอย่างมันไม่ใช่แค่ถ่ายเสร็จกลับบ้านนะ มันมีการคิด มีกระบวนการหลายอย่างกว่าจะได้ ทีมงานก็เหนื่อยมากก็เลยอยากให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้กับพวกเราและทีมงาน ช่วยแชร์ อย่างน้อยทีมงานจะได้หายเหนื่อยกัน เพราะว่าถ่ายกันเหนื่อยมาก ซ้อมเต้นกันเยอะ

คิดว่าน่าจะถูกใจสำหรับวัยรุ่นยุคใหม่ก็จะบอกว่าแซ่บ ชอบ คนชอบก็ชอบ คนไม่ชอบก็ด่าๆ ก็จะมีสองประเภท ซึ่งเราเข้าใจหมดเลย เราเข้าใจหมดเลย เรารับได้ คนที่ไม่เข้าใจ คนที่เขาไม่ชอบก็ไม่ผิด เพราะเขาไม่ชอบ แต่คนชอบก็สรรเสริญ(หัวเราะ)”

ถามถึงเรื่องบ้าน 100 ล้านก็โดนด่าอีก สร้างยังไม่เสร็จสักที เลยโดนบอกว่าอวดรวยอยู่นั่น? “ก็ปกติค่ะ เราก็แค่ยอมรับว่ามันเป็นเรื่องจริง เราก็อวดจริงๆ(ยิ้ม) คนไม่เคยมี เราก็บอกว่าเราไม่เคยมี เราไม่ได้เกิดมาจากตระกูลที่เขามีแล้วรวยเลย เราเกิดมาจากศูนย์ เราเป็นเด็กบ้านนอกตัวดำๆ เข้ากรุง สู้ชีวิต ฝ่าฟันทุกอย่าง จนเรามีด้วยตัวเอง ด้วยลำแข้ง เราเลยรู้สึกอยากเป็นกำลังใจให้กับคนที่เหมือนหนู มีความฝันเหมือนกัน

วันนึงเราทำความฝันเราสำเร็จ เราก็อยากแชร์สิ่งดีๆ อยากให้ทุกคนเห็นว่าเราสำเร็จจริงนะ แต่ถ้าจะมองว่าเราอวดก็อวด(ยิ้ม) แต่เราไม่ได้รู้สึกว่าฉันรวย ฉันอวดบ้าน ไม่ได้รู้สึกอย่างนั้น แต่หนูรู้สึกว่าหนูอยากให้ทุกคนเห็นว่าหนูทำได้ ให้ทุกคนเห็นฉันประสบความสำเร็จนะ กับความสู้ ความอดทน ความพยายามอย่าหยุด อย่าย่อท้อ”

มันบานปลายไปเท่าไหร่แล้ว? “(หัวเราะ) ตอนนี้ไม่ได้นับเลย แต่ว่าไม่ได้ทำทีเดียวนะคะ ทำมาจะ 3 ปีแล้ว ค่อยๆ ทำทีละห้อง มีก็เอาไปโปะ รวมๆ กันก็น่าจะเกือบๆ 100 แล้ว”

อะไรที่เสร็จไปแล้วบ้าง? “ด้านนอกจะเป็นเทวาลัย ยังไม่เสร็จค่ะ(หัวเราะ)​ ทำยากด้วย แล้วเขาแกะสลักทั้งห้องเลย อยากให้ทุกคนเห็นห้องนี้มาก น่าจะชอบกันสำหรับสายมูนะคะ ด้านนอกก็จะมีตกแต่งสวน มีสระว่ายน้ำ ก็ค่อยๆ ทำ แต่ด้านในเริ่มเสร็จหมดแล้วก็เลยเริ่มเปิดให้ทุกคนเห็นกัน น่าจะมีอีกหลาย EP. ต้องอวดอีกหลาย EP. เลย (หัวเราะ) ก็ให้ทำใจไว้ก่อนเลย ถ้าดูแล้วรู้สึกมีแรงบันดาลใจก็ดีใจ แต่ถ้าดูแล้วรู้สึกว่าหมั่นไส้ อีนี่มันอวดรวย ก็ขอโทษด้วย (หัวเราะ)”

อีกกี่เปอร์เซ็นต์? “กระแตว่าไป 70 แล้วนะ อีก 30 ก็คือเทวาลัย สระว่ายน้ำ สวน (แต่ก็ปาไป 100 ล้านแล้ว?) มันดีเทลเยอะ อย่างอ่างอาบน้ำมันก็ 7 หลัก แต่ที่ทุบทิ้งก็หลายบาทเลย เป็นอุทาหรณ์ให้สำหรับคนที่กำลังทำบ้านหรืออนาคตจะทำบ้าน ใจเย็นๆ สุดๆ นะ อย่ารีบเลย เพราะพอเรารีบ มันไม่ถูกใจก็ต้องแก้ ซึ่งเป็นทุกคนแน่ๆ”

อยากให้พูดถึงคนที่ดูเราเป็นต้นแบบ? “หนูว่าต้องมีเป้าหมายชัดเจน กระแตเป็นคนมีเป้าหมายว่าฉันจะเป็นศิลปิน ฉันจะเป็นนักร้อง เราจะหาทางเลย ฉันจะต้องฝึก ฉันจะต้องร้อง ฉันจะต้องทำทุกอย่างมากกว่าคนอื่น เพื่อที่จะให้ตัวเองเด่น ให้ตัวเองเข้าไปสู่วงการนั้น และพอเราได้เป็นนักร้องแล้วมันก็อยู่เฉยๆ ไม่ได้ ต้องพัฒนาและฝึกฝนสร้างผลงาน ทำทุกอย่างตลอดเวลา ทุกคนสามารถเป็นได้ในสิ่งที่ตัวเองฝัน

แต่อย่าเพิ่งพูดว่าไม่ได้ ฉันเป็นไม่ได้ ฉันทำไม่ได้หรอก คำว่า “ไม่” มันจะขวางเราเลย แต่ถ้าคุณสั่งตัวเองว่าฉันจะทำได้ ฉันต้องทำได้ มันจะหาแนว หาทางทำให้สำเร็จเอง เพราะฉะนั้นลองก่อน ชีวิตคนเรามันมีมือมีเท้าเท่ากัน โอกาสมีเท่ากัน ถ้าใครไม่สามารถหาโอกาสได้ สร้างโอกาสให้ตัวเอง สร้างมูลค่าให้ตัวเอง แล้วไปสู้กัน บอกเลยว่าความสำเร็จในชีวิตเกิดขึ้นได้แน่นอน ห้ามท้อ”

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ