กรณ์ บี้ รัฐบาล เร่งแก้น้ำมันแพง สับรมว.พลังงาน นี่ไม่ใช่เวลาเกรงใจเพื่อน

Home » กรณ์ บี้ รัฐบาล เร่งแก้น้ำมันแพง สับรมว.พลังงาน นี่ไม่ใช่เวลาเกรงใจเพื่อน


กรณ์ บี้ รัฐบาล เร่งแก้น้ำมันแพง สับรมว.พลังงาน นี่ไม่ใช่เวลาเกรงใจเพื่อน

‘กรณ์’ บี้ รัฐบาล เร่งแก้ปมน้ำมันแพง แนะ 3 ข้อ กำหนดราคาเพดานการกลั่น-เก็บภาษีลาภลอย-เข้มมาตรการประหยัดพลังงาน ฝากบอกรมว.พลังงาน นี่ไม่ใช่เวลาเกรงใจเพื่อน

เมื่อเวลาวันที่ 12 มิ.ย. 2565 ที่พรรคกล้า นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า พร้อมนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรค แถลงถึงวิกฤตพลังงานและราคาน้ำมัน ว่าปัญหาราคาพลังงานของไทยมาจากหลายปัจจัย ทั้งที่ราคาน้ำมันหน้าปั๊มของไทย ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับอาเซียน

แต่เนื่องจากมีการชดเชยราคาน้ำมันจากการกู้ในกองทุนน้ำมัน ที่เป็นปัญหาสร้างหนี้เพิ่มขึ้นจนเวลานี้จะอุ้มไม่ไหว เพราะสถาบันการเงินไม่สามารถแบกรับการกู้ได้อีกเนื่องจากเดิมกำหนดเพดานเงินกู้กำหนดไว้ที่ 2 หมื่นล้านบาท แต่รัฐบาลได้ยกเลิกไปแล้ว ขณะที่รัฐยังกู้ต่อเนื่อง ดังนั้นหากรัฐไม่ปรับนโยบายภายในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ จะทำให้เป็นหนี้ถึงกว่า 1 แสนล้านบาท

นายกรณ์ กล่าวต่อว่า สุดท้ายภาระชำระหนี้จะไปตกอยู่ที่ประชาชนโดยตรงผ่านภาษีที่มาจากค่าต๋ง ที่กองทุนน้ำมันจะเรียกเก็บกับประชาชนต่อไป ยิ่งสร้างหนี้มากยิ่งเก็บภาษีมาก นอกจากนั้นประชาชนกำลังรู้สึกว่าถูกปล้นเรื่องค่าการกลั่นน้ำมัน โดยประเทศไทยมีโรงกลั่นถึง 6 โรง ที่ส่วนใหญ่อยู่ในเครือของปตท. แต่ประเด็นคือส่วนต่างค่าการกลั่น นับตั้งแต่ปี 2563-2565

จากเป็นหลักสตางค์ ปรับเพิ่มถึงขึ้น 8.56 บาทต่อลิตร หรือเกือบ 10 เท่า ใช่ช่วงเวลา 3 ปี โดยที่ต้นทุนน้ำมันดิบไม่เปลี่ยนแต่รัฐบาลไม่มีคำอธิบายถึงเรื่องนี้ ขอถามว่าปตท. เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ทำไมรัฐบาลไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงในเรื่องนี้ได้

นายกรณ์ กล่าวต่อว่า พรรคกล้า มีข้อเสนอ 3 ข้อ ไปถึงรัฐบาล คือ 1)ควรกำหนดเพดานค่าการกลั่นโดยเฉพาะโรงกลั่นของปตท. ที่มีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจ กำหนดเรื่องต้นทุน และผลตอบแทน กำหนดเพดานที่เหมาะสม ไม่เป็นเครื่องมือทำกำไรเกินควร ในอดีตไม่เคยมีช่วงไหนที่ค่าการกลั่นทิ้งราคาน้ำมันดิบ และเราไปอิงราคาขายจากสิงคโปร์ไม่ได้อิงความเป็นจริง

2)ให้เก็บภาษีลาภลอย (Windfall tax) นำกำไรที่เกินควรมาช่วยประชาชน เช่น ชำระหนี้กองทุนน้ำมัน และนำมาชดเชยประชาชนต่อไป โดยพรรคกล้ากำลังเตรียมร่างกฎหมายฉบับนี้ เพื่อยื่นรัฐบาลและสภาต่อไป และ3)จริงจังกับมาตรการประหยัดการใช้พลังงาน โดย 4 เดือนแรกของปีที่ชดเชยราคาหน้าปั๊ม คือคนไทยใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะดีเซลเพิ่มถึง 15%

“ประเด็นเรื่องปัญหาเศรษฐกิจ การแก้ไขสถานะกองทุนน้ำมัน ค่าการกลั่นที่สูงขึ้น 10 เท่า สิ่งเหล่านี้อาจส่งสัญญาณว่าอีก 10 เดือนจะเลือกตั้งหรือไม่ และรัฐบาลต้องกล้าพูดความจริงกับประชาชน เพราะเราเสียโอกาสจากค่าการกลั่นมานานแล้ว ถ้าไม่แก้ปัญหาจะอยู่กับเราอีกนาน

ทั้งนี้ฝากบอกรมว.พลังงาน ที่เป็นลูกหม้อปตท. ว่าเวลานี้ไม่ใช่เวลาเกรงใจเพื่อน เรามีวิธีช่วยเหลือบ้านเมืองและประชาชน และเชื่อว่าคนที่อยู่ในอำนาจ จะแก้ปัญหานี้ได้ ที่สำคัญเวลานี้กองทุนน้ำมันติดหนี้จนเดี้ยง จนไม่สามาถชดเชยได้ เพราะไม่มีใครจะปล่อยเงินกู้ให้แล้ว”

ผู้สื่อข่าวถามว่ามองว่ารมว.พลังงาน ยังเหมาะสมที่จะอยู่ในตำแหน่งหรือควรปรับออกจากตำแหน่ง กล่าวว่าเมื่ออยู่ในอำนาจหน้าที่ ขอให้ทำทุกอย่างและควรจะทำเพื่อช่วยประชาชนแต่ไม่ใช่จะบอกว่าใครควรอยู่หรือไม่

ด้านนายอรรถวิชช์ กล่าวว่า วิงวอนรัฐบาลนำร่าง พ.ร.บ.ลาภลอยฯ มาปรับใช้ก่อน เพื่อแก้ปัญหากองทุนน้ำมัน ส่วนพรรคกล้าจะเร่งรายชื่อ 1 หมื่นคน เพื่อร่างกฎหมายภาษีลาภลอยต่อไป

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ