ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ดาวรุ่งวัย 18 ปี ได้ประสบอาการบาดเจ็บหนักที่บริเวณข้อเท้าของเจ้าตัว ระหว่างเกมที่ ลิเวอร์พูล ออกไปเยือน ลีดส์ ยูไนเต็ด จนทำให้เจ้าหนูอนาคตไกลรายนี้ ต้องถูกหามตัวออกจากสนามไปในทันที

เมื่อ โมฮัมเม็ด ซาลาห์ เพื่อนร่วมทีมผู้อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ ได้เห็นอาการที่ไม่ค่อยดีของเจ้าของเบอร์เสื้อ 67 จึงรีบกวักมือเรียกให้ทีมแพทย์วิ่งเข้ามาในสนาม โดยไม่ต้องรอให้ผู้ตัดสินหยุดเกมเสียก่อน จนทีมถ่ายทอดสดของพรีเมียร์ลีกตัดสินใจตัดภาพออกจากจุดเกิดเหตุในทันที ก็เป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงความรุนแรงของอาการบาดเจ็บในครั้งนี้ ที่กระทบต่อจิตใจของแฟนบอลได้ไม่น้อยเลย

อาการบาดเจ็บร้ายแรง ย่อมเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่อุบัติเหตุเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นกันได้ ซึ่งเจ้าหนู เอลเลียตต์ ก็ไม่ใช่คนแรกที่โดนอาการบาดเจ็บข้อเท้าเล่นงานไป ซึ่งวันนี้ Main Stand จะพาไปดูเคสต่าง ๆ ที่เคยเกิดขึ้นมา และเส้นทางการฟื้นฟูร่างกายของอดีตผู้เคราะห์ร้ายเหล่านี้กัน

อันเดร โกเมส (เอฟเวอร์ตัน)

อาการบาดเจ็บ: ข้อเท้าหัก
ระยะเวลาที่พลาดลงสนาม: 111 วัน / 17 นัด
อายุขณะบาดเจ็บ: 26 ปี

อาการบาดเจ็บของ อันเดร โกเมส ได้ถูกหยิบยกมาเทียบกับกรณีของ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ อยู่บ่อยครั้ง จากทั้งความรุนแรงที่ปรากฎระหว่างถ่ายทอดสด และความรวดเร็วในการกลับสู่สนามของ โกเมส ที่จุดประกายความหวังให้แฟนบอลของ ลิเวอร์พูล ได้มีลุ้นเห็นเจ้าหนู เอลเลียตต์ กลับมาลงเล่นอีกครั้งในฤดูกาลนี้

กลับไปที่เคสของ โกเมส เจ้าตัวโดน ซอน ฮึง มิน เข้าสกัดผิดจังหวะอย่างจัง จนข้อเท้าบิดผิดรูปไปอย่างชัดเจน จนทีมแพทย์ของ เอฟเวอร์ตัน ต้องใช้ความพยายามมาถึง 2 ครั้ง 2 ครา ในการทำให้ข้อเท้าของดาวเตะชาวโปรตุเกสรายนี้ กลับเข้าที่ให้ได้

แต่เมื่อการผ่าตัดผ่านไปได้ด้วยดี โกเมส จึงกลับมาฟื้นฟูร่างกายได้อย่างเต็มที่ จนสามารถคืนสนามได้ในเวลาไม่ถึง 4 เดือนให้หลัง และยังเป็นหนึ่งในตัวโรเทชั่นของทอฟฟี่สีน้ำเงินอยู่จนถึงทุกวันนี้

เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา (อาร์เซน่อล)

อาการบาดเจ็บ: กระดูกหน้าแข้งหัก และข้อเท้าผิดรูป
ระยะเวลาที่พลาดลงสนาม: 359 วัน / 43 นัด
อายุขณะบาดเจ็บ: 26 ปี

ชายผู้โชคร้ายที่สุดในลิสต์นี้ คงไม่พ้น เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา ดาวยิงความหวังใหม่ของทัพปืนโต และทีมชาติโครเอเชีย ที่กำลังเก็บโมเมนตั้มขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ในช่วงต้นปี 2008

แต่ในแมตช์ที่พวกเขาต้องออกไปเยือน เบอร์มิงแฮม ซิตี้ จังหวะการเข้าสกัดของ มาร์ติน เทย์เลอร์ ในนาทีที่ 3 ของเกม ทำให้กระดูกหน้าแข้งและน่องของเจ้าตัวหักในทันที และความรุนแรงจากการเข้าเสียบของ เทย์เลอร์ ก็ยังส่งผลให้ข้อเท้าของ ดา ซิลวา ผิดรูปอย่างน่ากลัวมาก จนแม้แต่กล้องถ่ายทอดสดยังไม่กล้ารีเพลย์ภาพซ้ำให้ชมกัน

เรื่องน่าเศร้าสำหรับ ดา ซิลวา คือเจ้าตัวไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้อีกเลย การเข้าสกัดในครั้งนั้น ส่งผลต่อทั้งความมั่นใจ และสปีดบอลของเขาที่ไม่ทันกับจังหวะบอลของพรีเมียร์ลีกได้อีกแล้ว

เจ้าตัวย้ายไปเล่นให้กับ ชัคตาร์ โดเนตส์ค, ฟลาเมนโก้, แอตเลติโก้ (บราซิล), และปิดฉากอาชีพกับ ลีเกีย วอร์ซอว์ คือเขาก็ไม่ถึงขั้นหายไปจากโลกฟุตบอลไปเลย แต่ ดา ซิลวา ก็ไม่เคยไปถึง Potential ในอาชีพของตนได้อีก หลังอาการบาดเจ็บครั้งนี้

อลัน สมิธ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

อาการบาดเจ็บ: กระดูกหน้าแข้งหัก และข้อเท้าผิดรูป
ระยะเวลาที่พลาดลงสนาม: 207 วัน / 19 นัด
อายุขณะบาดเจ็บ: 26 ปี

อลัน สมิธ ถูก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน วางไว้เป็นตัวตายตัวแทนของ รอย คีน ที่เริ่มโรยราไปตามวัยแล้ว และเริ่มขึ้นมายึดตำแหน่งตัวจริงของทีมได้อย่างจริงจัง ในฤดูกาล 2005/06

อย่างไรก็ตาม ในเกมแดงเดือดที่แอนฟิลด์ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2006 เจ้าตัวได้พยายามพุ่งไปบล็อกลูกฟรีคิกของ ยอห์น อาร์เน รีเซ่ ที่ตะบันยิงเข้ามาอย่างจัง จนทำให้กระดูกหน้าแข้งซ้ายของ สมิธ หักในทันที พร้อมกับข้อเท้าที่ผิดรูปไปจนท่านเซอร์เปิดเผยว่า “เป็นหนึ่งในอาการบาดเจ็บที่รุนแรงสุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา”

อาการบาดเจ็บครั้งนี้ ส่งผลให้ สมิธ ต้องเข้ารับการผ่าตัดทันทีในวันรุ่งขึ้น และยังคงฝ่าฟันหาหนทางกลับสู่การเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้อีกครั้ง โดยสามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาครองได้เพิ่มอีกอย่างละหน ก่อนจะย้ายไปเล่นให้กับ นิวคาสเซิล, เอ็มเค ดอนส์, และ น็อตต์ส เคาน์ตี ซึ่งเจ้าตัวประกาศแขวนสตั๊ดไปในปี 2018 ด้วยวัย 37 ปีด้วยกัน

น่าเศร้าที่อาการบาดเจ็บครั้งนั้น ส่งผลกระทบต่อร่างกายของเขาในระยะยาว จนสมิธเปิดเผยกับทาง Manchester Evening News ว่าเจ้าตัวยังรู้สึกเจ็บทุกครั้ง เมื่อต้องลุกขึ้นมาเดิน และโดนหมอสั่งห้ามวิ่งทางตรงเป็นเวลานาน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายกับข้อต่อของเขา

อาบู ดิยาบี้ (อาร์เซน่อล)

อาการบาดเจ็บ: กระดูกข้อเท้าร้าว
ระยะเวลาที่พลาดลงสนาม: 220 วัน / 23 นัด
อายุขณะบาดเจ็บ: 20 ปี

ดิยาบี้ อาจเป็นที่รู้จักกันจากการเข้าออกโรงหมออยู่บ่อยครั้ง แต่กาลครั้งหนึ่ง เจ้าตัวเคยถูกยกย่องจากสื่อในฝรั่งเศส ว่าเด็กหนุ่มคนนี้ จะก้าวขึ้นมาเป็น ปาทริค วิเอรา คนใหม่ได้เลย

อาร์เซน่อล ตัดสินใจดึงตัว ดิยาบี้ มาร่วมทีมตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2006 และเพียงแค่ 5 เดือนให้หลัง เจ้าตัวก็โดน แดน สมิธ ผู้เล่นของซันเดอร์แลนด์ เข้าสกัดอย่างจัง จนเกือบทำให้ ดิยาบี้ ต้องเลิกเล่นฟุตบอลไปแล้ว แต่หลังจากการผ่าตัดถึง 3 ครั้ง และหยุดพักฟื้นไปนานกว่า 8 เดือน มิดฟิลด์หนุ่มรายนี้ก็สามารถหวนคืนสนามได้อีกครั้ง

เรื่องที่น่าเศร้าคือ ดิยาบี้ เป็นคนที่เสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บได้จากทุกส่วนของร่างกาย คือแค่กับ อาร์เซน่อล ทีมเดียวก็เจ็บมาแล้ว 42 ครั้ง แบบครอบคลุมตั้งแต่หัวจรดเท้าเลย จนทำให้เจ้าตัวแทบไม่ได้โชว์ศักยภาพขั้นสูงสุด และจากสภาพร่างกายที่ไม่เอื้ออำนวย กองกลางทีมชาติฝรั่งเศสรายนี้จึงตัดสินใจแขวนสตั๊ดในปี 2019 ด้วยวัยเพียง 32 ปีเท่านั้น

แฮรี่ เคน (ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์)

อาการบาดเจ็บ: ข้อเท้า (เจ็บเรื้อรัง)
ระยะเวลาที่พลาดลงสนาม: 197 วัน / 34 นัด (รวม)
อายุขณะบาดเจ็บ: 23-28 ปี

กองหน้ากัปตันทีมชาติอังกฤษรายนี้ อาจไม่เคยประสบอาการบาดเจ็บหนักจนต้องพักยาวมาก่อน แต่เจ้าตัวกลับเผชิญกับอาการบาดเจ็บเรื้อรังบริเวณข้อเท้าอยู่บ่อยครั้ง จนแทบกลายเป็นของคู่กันไปแล้ว

ในช่วงเวลาเพียง 5 ปี แฮรี่ เคน ประสบอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้าทั้งสองข้างไปแล้วรวมกัน 7 ครั้ง หนักบ้าง เบาบ้าง ตามความเสียหายที่เกิดขึ้นกับกระดูก ข้อต่อ และเส้นเอ็นในบริเวณข้อเท้าของกองหน้ารายนี้

แม้ต้องหายไปรักษาอาการบาดเจ็บอยู่บ่อยครั้ง แต่ เคน ก็สามารถฟื้นฟูร่างกายกลับมาได้อย่างรวดเร็ว โดยเจ้าตัวไม่เคยร้างสนามจากเหตุข้อเท้าเจ็บไปนานกว่า 51 วันเลย แถมยังสามารถกลับมาเล่นต่อได้ภายในเวลาเพียง 7 วัน แม้จะล้มลงในจังหวะแย่งโหม่งบอลกับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน จนทำให้ข้อเท้าทั้งสองข้างมีปัญหา ที่ดูค่อนข้างหนักในตอนแรกก็ตาม

ปัจจุบัน เคน ก็ยังคงเป็นกองหน้าตัวความหวัง ทั้งกับทัพไก่เดือยทองและทีมชาติอังกฤษอยู่ แถมยังได้รับความสนใจจากสโมสรอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยู่ด้วย

อาการบาดเจ็บหนัก ไม่ใช่สิ่งที่ใครปรารถนาให้เกิดขึ้นในวงการฟุตบอล และผลลัพธ์ที่ตามมาหลังจากเสร็จสิ้นช่วงฟื้นฟูร่างกาย ก็ยังขึ้นอยู่กับองค์ประกอบทั้งหลาย ว่าจะนำพาอาชีพของนักเตะเหล่านี้ไปในทิศทางใด

แต่ท้ายที่สุดแล้ว ก็คงได้แต่หวังและเอาใจช่วยให้การผ่าตัดและพักฟื้นของ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี และกลับมาแข็งแกร่งบนผืนหญ้าได้มากกว่าเดิม